คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว นิยาย บท 468

พอเสียงของหรงฉือดังขึ้น ไม่เพียงซุนเยว่ชิง หลินลี่หลานและเหรินจี่เฟิงรวมถึงฉีอวี้หมิงทั้งสามคนก็ตะลึงพรึงเพริดเช่นกัน

ยิ่งไม่ต้องพูดถึงหลินลี่หลานเลย

ส่วนเหรินจี่เฟิงก่อนหน้านี้เคยทำความรู้จักกับหรงฉือมาคร่าว ๆ เท่านั้น จึงรู้ว่าครอบครัวเธอค่อนข้างธรรมดา แม้ว่าปีนี้ธุรกิจตระกูลหรงจะรุ่งขึ้นแล้ว แต่ยังไม่น่าถึงขั้นมีเงินเหลือเฟือจนสามารถเอาออกมาหลายพันล้านเพื่อซื้อเพชรเม็ดหนึ่งได้มั้ง?

ฉีอวี้หมิงมั่นใจว่าตัวเองรู้สถานการณ์ของหรงฉือเป็นอย่างดี

ด้วยความสามารถในตอนนี้ของตระกูลหรง แม้แต่ให้เอาเงินออกมา 5 ร้อยล้านคาดว่าก็ยังไม่อาจทำได้ด้วยซ้ำ แล้วนับประสาอะไรกับ 2.5 พันล้าน?

ถึงแม้ว่าก่อนหน้านี้เฟิงถิงเซินจะจ่ายเงิน 1 หมื่นล้านให้หรงฉือล่วงหน้าเพื่อเป็นการขอบคุณเธอ ให้เธอนำไปใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนของตระกูลหรง

แต่กระนั้นต่อให้ตอนนี้ธุรกิจของตระกูลหรงจะดีขึ้นแล้ว ถึงตอนนี้เงินที่เหลือจาก 1 หมื่นล้านนั่นจะยังอยู่ในมือหรงฉือไม่น้อย ทว่าหรงฉือสามารถเอาเงินมากมายขนาดนี้ออกมาซื้อเพชรเม็ดหนึ่งได้อย่างไม่คิดมากน่ะ มันดูจะเกินไปหน่อยหรือเปล่า?

คิดมาถึงตรงนี้ เขาก็รีบเปิดโทรศัพท์แล้วส่งข้อความไปให้เฟิงถิงเซินด้วยความตื่นเต้น [ตอนเข้ามาในงานแล้วเห็นเมียนาย ฉันยังคิดอยู่เลยว่าเธอมาทำอะไรที่นี่ ตอนนี้ฉันรู้แล้ว…เพชรที่งานประมูลครั้งนี้ นายรู้ใช่ไหม? ราคาเปิดประมูลอยู่ที่ 2 พันล้าน เธอเอ่ยปากก็ดันราคาขึ้นไปถึง 2.5 พันล้านทันที นี่คงคิดจะประมูลเพชรเม็ดนี้ไปสินะ? พระเจ้าช่วย เธอบ้า...]

ฉีอวี้หมิงกำลังรัวพิมพ์ข้อความอยู่ ยังพูดกับเฟิงถิงเซินไม่เสร็จ ในตอนที่มีคนให้ราคา 2.75 พันล้าน หรงฉือก็เอ่ยปากอีกครั้ง เธอพูดทันทีว่า “3.5 พันล้าน”

ฉีอวี้หมิง “…”

แม้เขายังพูดในสิ่งที่อยากจะพูดไม่ทันจบ แต่เขาก็ได้กดส่งข้อความไปให้เฟิงถิงเซินแล้ว

แม้ว่าคืนนี้ทุกคนที่มาร่วมงานประมูลล้วนเดาได้ว่าสุดท้ายราคาประมูลเพชรหายากเม็ดนี้ต้องไม่ต่ำกว่า 5 พันล้านแน่นอน

แต่พอหรงฉือเอ่ยปาก ไม่ใช่เพิ่มทีละ 500 ล้านก็ทีละ 750 ล้าน ในสามรอบนี้เธอดันราคาแข่งประมูลขึ้นไปสูงถึง 3.5 พันล้านแล้ว ขานราคาสูงอย่างนี้ อย่าว่าแต่ซุนลี่เหยากับหลินลี่หลานและพวกฉีอวี้หมิงเลย แม้แต่คนอื่น ๆ ในงานก็พากันมองมาทางเธอแล้วเช่นกัน

ตอนนี้คนที่นั่งอยู่ในงานประมูล ส่วนใหญ่ล้วนเป็นคุณนายหรือไม่ก็คุณหนูจากตระกูลเศรษฐีอันดับต้น ๆ ของวงสังคมชั้นสูง

คนส่วนใหญ่ในหมู่ของพวกเขาถึงแม้ไม่รู้จักกัน แต่ก็พอจะได้ยินชื่อเสียงเรียงนามของกันและกันมาบ้าง

เมื่อเห็นท่าทางที่ไม่เห็นเงินเป็นเงินของหรงฉือ แล้วเห็นว่าหรงฉือดูไม่คุ้นหน้าค่าตา คนไม่น้อยจึงพากันซุบซิบกับคนที่อยู่รอบ ๆ อย่างเสียงเบา เพื่อถามว่าหรงฉือเป็นใคร

การประมูลยังคงดำเนินต่อไป