เช้าวันรุ่งขึ้น หรงฉือกับคุณยายหรงและคนอื่น ๆ ก็มุ่งหน้าไปยังสุสาน
ในภาพบนหลุมศพ ผู้อาวุโสหรงมีผมที่ขาวโพลน
คนในตระกูลหรงต่างดูเด็กกันทุกคน
ตอนหรงอิ้งเซิ่งหย่าในปีนั้น ผู้อาวุโสหรงเพิ่งจะอายุห้าสิบกว่าปี ผมก็ยังไม่ขาว
หรงฉือจำได้แม่นเลยว่า หลังเกิดเรื่องกับหรงอิ้งเซิ่ง ยังไม่ถึงหนึ่งปี ผู้อาวุโสก็ผมขาวไปหมดแล้ว
ผู้อาวุโสเสียชีวิตเพราะอาการป่วย
จนกระทั่งเมื่อปีที่แล้วเธอเพิ่งรู้ว่า สาเหตุที่ผู้อาวุโสป่วยเป็นโรคนี้ เกี่ยวข้องกับความกดดันภายในใจที่เขาสะสมมานานหลายปี
หากผู้อาวุโสไม่ป่วย ไม่แน่ว่าตอนนี้อาจจะยังมีชีวิตดี ๆ อยู่ก็ได้
เมื่อนึกถึงช่วงก่อนที่เขาจะเสียชีวิต สิ่งที่เขาห่วงใยมากที่สุดคือหรงอิ้งเซิ่ง พอคิดว่าหลายปีผ่านไปแล้ว หรงอิ้งเซิ่งก็ยังไม่ดีขึ้นตามที่เขาหวังไว้ และเริ่มต้นชีวิตใหม่ได้ คุณยายหรงก็ดวงตาแดงก่ำขึ้นมาเป็นคนแรก โดยมีหรงฉ่างเซิ่งพยุงให้เธอนั่งยองลงไป ลูบรูปถ่ายบนหลุมศพอย่างแผ่วเบา แล้วพูดว่า “ตาแก่เอ๋ย...”
คุณยายคงอยากจะบอกว่าลูกสาวอันเป็นที่รักของพวกเขาจนถึงตอนนี้ก็ยังไม่ดีขึ้นเลย เธอรู้สึกผิดต่อเขา
แต่คำพูดหลายพันหลายหมื่นคำจรดอยู่ที่ริมฝีปาก กลับไม่สามารถพูดอะไรออกมาได้เลย ทำได้เพียงลูบรูปถ่ายแล้วหลั่งน้ำตาเงียบ ๆ เท่านั้น
หรงฉือดวงตาแดงก่ำ ปล่อยมือของเฟิงจิ่งซิน หันหน้าหนี
เฟิงจิ่งซินรับรู้ถึงบรรยากาศที่โศกเศร้า เงยหน้ามองหรงฉือด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เข้าใจ แล้วพูดว่า “คุณแม่คะ?”
หรงฉือส่ายหน้าเล็กน้อย และไม่ได้พูดอะไร
หลังจากนั้นประมาณหนึ่งชั่วโมง หรงฉือและคนอื่น ๆ จึงจะออกจากสุสาน
ทางด้านนี้ตระกูลหรงยังมีญาติสนิทที่ความสัมพันธ์ถือว่าดีอยู่หลายคน
หรงฉือและคนอื่น ๆ กลับมาแทบทุกปีอยู่แล้ว ก็มักจะไปเยี่ยมญาติสนิทพร้อมกับคุณยายหรงด้วย

VERIFYCAPTCHA_LABEL
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณเฟิง คุณผู้หญิงอยากหย่ากับคุณตั้งนานแล้ว
อยากให้ลงวันละ 10 ตอนจะขอบคุณมากค่ะ...
ขอบคุณที่ให้อ่านฟรีนะคะ แต่เราเติมเงินได้เมื่อซื้อบัตรเติมเงินเอไอเอสเท่านั้น เราไม่ได้มีเงินมากมายพอทำบัตเครดิตได้ ขอโทษนะคะ...