วันนี้เป็นวันที่ฉันตื่นเช้ามาใส่บาตรที่หน้าบ้านของตัวเองกับคุณหญิงแม่ บรรยายกาศตอนเช้าที่บ้านดีมาก เพราะบ้านของฉันอยู่ชานเมือง ทำให้อากาศตัวเช้าดีมาก และไม่ได้ตื่นเช้าแบบนี้มานานแล้ว เวลาอยู่บ้านฉันมักจะหากิจกรรมทำกับคุณแม่ตลอด ส่วนมากก็ทำขนม ปลูกดอกไม้ แทบจะไม่ได้จับมือถือเลยด้วยซ้ำ
"พี่คินสวัสดีค่ะ " สายของวัน พี่คินขับรถมารับฉันที่บ้าน เพื่อไปซื้อสพี่เขาซื้อของที่ห้าง ด้วยอาการรีบกลัวพี่เขาจะรอนาน แถมคุณแม่ก็เร่งฉันก็เลยรีบมือถือไว้ที่บ้าน
"ลืมอะไรหรอ ให้พี่วนรถกลับไปมั้ย"พี่คินคงเห็นฉันค้นหามือถือแน่ๆ แต่เราขับรถมาไกลแล้ว ขุนพลช่วงนี้งานเขาก็ยุ่งมากคงไม่มีเวลามารอสายจากฉันหรอก เพราะช่วงนี้ที่สนามต้องเตรียมจัดงานแข่งรถระดับโลก ทำให้เขาดูยุ่ง ๆ ขุนพลก็ชวนฉันไปที่สนามแข่งแหละ แต่ฉันขอนอนอยู่คอนโดดีกว่า
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"พี่คินจะซื้ออะไรบ้าง" หลังจากที่ฉันกับพี่คินถึงห้าง เราสองคนก็เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ ยอมรับว่าพี่คิรคุยเก่งและคุยสนุก ทำให้ฉันกับพี่เขาสนิทกันมากขึ้น และที่หน้าตกใจมากกว่านั้นคือ พี่คินมีแฟนแล้วและแฟนพี่เขากำลังจะบินตามมาหาที่ไทยและที่พี่เขา
วันนี้เป็นวันที่ฉันตื่นเช้ามาใส่บาตรที่หน้าบ้านของตัวเองกับคุณหญิงแม่ บรรยายกาศตอนเช้าที่บ้านดีมาก เพราะบ้านของฉันอยู่ชานเมือง ทำให้อากาศตัวเช้าดีมาก และไม่ได้ตื่นเช้าแบบนี้มานานแล้ว เวลาอยู่บ้านฉันมักจะหากิจกรรมทำกับคุณแม่ตลอด ส่วนมากก็ทำขนม ปลูกดอกไม้ แทบจะไม่ได้จับมือถือเลยด้วยซ้ำ
"พี่คินสวัสดีค่ะ " สายของวัน พี่คินขับรถมารับฉันที่บ้าน เพื่อไปซื้อสพี่เขาซื้อของที่ห้าง ด้วยอาการรีบกลัวพี่เขาจะรอนาน แถมคุณแม่ก็เร่งฉันก็เลยรีบมือถือไว้ที่บ้าน
"ลืมอะไรหรอ ให้พี่วนรถกลับไปมั้ย"พี่คินคงเห็นฉันค้นหามือถือแน่ๆ แต่เราขับรถมาไกลแล้ว ขุนพลช่วงนี้งานเขาก็ยุ่งมากคงไม่มีเวลามารอสายจากฉันหรอก เพราะช่วงนี้ที่สนามต้องเตรียมจัดงานแข่งรถระดับโลก ทำให้เขาดูยุ่ง ๆ ขุนพลก็ชวนฉันไปที่สนามแข่งแหละ แต่ฉันขอนอนอยู่คอนโดดีกว่า
"ไม่เป็นไรค่ะ"
"พี่คินจะซื้ออะไรบ้าง" หลังจากที่ฉันกับพี่คินถึงห้าง เราสองคนก็เดินคุยกันไปเรื่อย ๆ ยอมรับว่าพี่คิรคุยเก่งและคุยสนุก ทำให้ฉันกับพี่เขาสนิทกันมากขึ้น และที่หน้าตกใจมากกว่านั้นคือ พี่คินมีแฟนแล้วและแฟนพี่เขากำลังจะบินตามมาหาที่ไทยและที่พี่เขายอมมากับฉันเพราะพี่เขาไม่อยากให้คุณแม่จับไปดูตัวและเราสองคนก็รู้จักกันตั้งแต่เด็ก พี่คินก็เลยขอให้ฉันปิดเป็นความลับ
"เสื้อคู่ดีมั้ย พี่จะได้ใส่กับแฟน" เราสองคนมุ่งหน้าเดินไปที่ร้านเสื้อคู่โดยเฉพาะ ซึ่งมันสวยทุกคู่ เห็นเสื้อคู่แล้วอยากใส่คู่กับขุนพลจริง ๆ แต่เราสองคนไม่ได้เป็นอะไรกันนิ เขาตีมึนมาอยู่ด้วยเฉย ๆ
"สวยอะ!!พี่คิน " ช่วยพี่คินเลือกเสื้อคู่ไปหัวเราะกับเรื่องที่พี่คินเล่าถึงแฟนไป ตลกดี เขาเป็นคู่ที่น่ารักมาก
"มึงนัดเขาเสื้อร้านไหนไอ้บอล" ขุนพลทำหน้าหงุดหงิดพร้อมกับน้ำเสียงที่ดุดันตามอารมณ์ของเขา เนื่องจากคนตัวเล็กตั้งแต่โทรมาบอกว่าจะกลับบ้าน ก็ไม่ไลน์ไม่โทรบอกอะไรเขาเลย หายเงียบเข้ากลีบเฆม เขารอโทรศัพท์จากน้ำมนต์ทั้งคืน แต่ไม่มีวี้แววว่าเธอจะโทรมา เมื่อกี้เขาเลยลองโทรหาน้ำมนต์แต่เธอไม่รับสาย ยิ่งทำให้เขาอารมณ์ไม่ดี
"โธ่!! เฮียขุนใจเย็น ๆ สิคับ ซ้ออาจจะยังไม่ตื่นก็ได้" ไอ้บอลมันกลัวผมอารมณ์เสียใส่มัน ก็เลยพูดปลอบผม
"เชี้ย!! ชิปหายแล้ว" ไอ้บอลอุทานออกมาอย่างตกใจ ผมซึ่งเดินดูมือถืออยู่ จำเป็นต้องหันไปมองตาม แต่แล้วภาพที่ผมเห็นทำให้ผมโมโหมาก น้ำมนต์เดินห้างกับผู้ชายคนนึ่ง ทั้งสองคนดูมีความสุขมาก น้ำมนต์ทั้งยิ้มทั้งหัวเราะให้ผู้ชายคนนั้น ซึ่งตอนเธออยู่กับผมเธอแทบจะกินหัวผมด้วยซ้ำ
"เฮียใจเย็น พวกเราอาจจะเข้าใจผิดก็ได้"
"เย็นเหี้ยอะไร กูต้องใจเย็นหรอ" ขุนพลตวาดลูกน้องเสียงดัง จนคนบริเวณนั้นต่างหันมามองกันเป็นแถว หลังจากนั้นไม่รอช้า เขารีบเดินตามทั้งสองคนนั้นไปที่ลานจอดรถของห้างทันที
"หึ!! มาเที่ยวกับชู้สนุกมั้ย" เสียงนิ่งเอ่ยถามขึ้นทำให้น้ำมนต์และคินหันไปมองต้นเสียงพร้อมกัน
"พูดอะไรให้เกียรติน้ำมนต์ด้วย" คินพูดขึ้นหลังจากที่ขุนพลพูดกล่าวหาน้ำมนต์
"มันไม่ใช่อย่างที่นายคิดนะขุนพล" น้ำมนต์อธิบายอย่างใจเย็น เพราะรู้ถึงอารมณ์ของชายหนุ่มตอนนี้ ซึ่งเขาเข้าใจผิดแน่นอน เห็นขุนพลเป็นคนไม่ค่อยพูด แต่เธอสังเกตุได้ว่าเขาเป็นคนอารมณ์ร้อนมาก
" ผู้หญิงที่มีผัวแล้วแต่กลับมากับชู้ ต้องพูดดีด้วยงั้นสิ" ขุนพลตะคอกเสียงใส่น้ำมนต์ดังก้องไปทั่วลานจอดรถ
"พูดกันดี ๆ ก็ได้นิทำไมต้องตะคอกน้ำมนต์ด้วยว่ะ" พี่คินที่ยืนฟังอยู่นานพูดขึ้นหลังจากที่ขุนพลตะคอกใส่น้ำมนต์
ตุบ!! เชี้ย!!ด้วยอารมณ์โมโหโทสะทำให้ขุนพลต่อยคินไปหนึ่งมัด และจะกำลังจะเข้าไปต่อยซ้ำ แต่น้ำมนต์เข้ามาบังตัวคินเอาไว้ก่อน สายตาของขุนพลที่มองน้ำมนต์ด้วยความเจ็บปวด เขาไม่คิดว่าน้ำมนต์จะเอาตัวเองเข้ามาบังผู้ชายคนนั้น
"ถ้าไม่เชื่อใจกันก็กลับไป บอลเอาเจ้านายของนายกลับไปด้วย" พอบอลได้สติเขาก็เข้าไปคว้าตัวของขุนพลเอาไว้ อาการสติหลุดของขุนพล ทำให้บอลชักชูงเจ้านายขึ้นรถได้อย่างง่ายดาย
สติของขุนพลตอนนี้ มีแต่ภาพที่น้ำมนต์เอาตัวเองเข้าไปบังผู้ชายคนนั้นไว้ และเขาก็คิดว่าเธอคงรักผู้ชายคนนั้นมาก หน้าสมเพชตัวเองจริง ๆ
"พี่คินเป็นอะไรมากรึป่าว" น้ำมนต์พยุงตัวคินขึ้นหลังจากที่ขุนพล เดินออกไปแล้ว
"ไม่รีบไปอธิบายให้เขาเข้าใจ"
"ไม่จำเป็นค่ะ เราไม่ได้เป็นอะไรกันตั้งแต่แรก" สิ่งที่เธอเสียงใจที่สุดคือเขาไม่ไว้ใจเธอเลย ไม่ฟังที่เธอจะอธิบายด้วยซ้ำ
"เฮ้ย พี่ขอโทษนะ" พี่คินคงรู้สึกผิดที่ทำใฟ้ฉันกับขุนพลทะเลาะกัน แต่มันก็คงดีถ้าเขายังไม่ชัดเจนไม่เคยพูดเรื่องของเราด้วยซ้ำ มันก็ดีแล้วไม่ใช่หรอ? ถ้าสักวันนึ่งเราต้องจากกันอยู่ดี ฉันคงรู้สึกกับเขาฝ่ายเดียวสินะ
อกหักมันเจ็บแบบนี้เองสินะ
สามวันผ่านไป
หลังจากที่กลับจากห้างวันนั้นฉันก็ไม่ได้เจอขุนพลอีกเลย เสื้อผ้า ของใช้ก็ยังอยู่ที่คอนโดของฉันครบ ซึ่งตอนนี้ฉันเนรเทศตัวเองมาอยู่หอพักแพทย์ชั่วคราว เพราะไม่สามารถอยู่ที่คอนโดตัวเองได้ หันไปทางไหนก็มีแต่ความทรงจำของเขากับฉันเต็มไปหมด พูดแล้วอยากจะร้องไห้อีกแล้ว แต่ฉันต้องเข้มแข็ง สามสาวเพื่อนรักของฉันและพี่คินก็ขยันโทรมาถามไถ่อาการของฉัน เพราะฉันเล่าความสัมพันธ์ของฉันกับขุนพลให้พวกเขาฟังอย่างระเอียด
ครืด ครืด ครืด
"ว่าไงเพลง"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหมอของนายขุนพล