“เจ้าวางใจเถอะ ข้าจะไม่ทำร้ายเจ้าอีก ยังไงเจ้าก็เป็นผู้ชาย การที่เจ้าแต่งงานกับข้าก็ไม่มีอะไรให้เสียหาย พอเจ้าหย่ากับข้าเสร็จ หลังจากนี้เจ้าจะแต่งใหม่กับคนอื่นก็ได้”
จี้หมิงมองไปที่ซูจ้าวตี้ด้วยสายตาที่สงสัยมากขึ้น
แม้ว่าเขาจะเป็นคนเงียบขรึมและไม่ค่อยพูดจาเท่าไหร่นัก แต่เขาก็เคยได้ยินเกี่ยวกับกิตติศัพท์และความประพฤติของนางคนนี้ในหมู่บ้านเหยากวังมาบ้าง
ขณะที่จี้หมิงกำลังลังเลอยู่ นางอู๋ที่ซึ่งกำลังนั่งอยู่บนเตียงและดูแลจี้คนสามอยู่ก็พูดขึ้นมา
"แม่หนูคนสาม สถานการณ์ครอบครัวข้าเป็นเช่นไรเจ้าย่อมรู้ดี ถ้าเจ้าพูดโน้มน้าวให้พ่อเจ้าเลิกเอาเงินได้ ครอบครัวของเราก็ให้จี้หมิงแต่งกับเจ้าได้"
"ท่านแม่...” จี้หมิงหันกลับมามองนางอู๋ด้วยใบหน้าที่ยากจะทนดูได้ ขณะที่คิดว่ากำลังจะพูดอะไรอยู่นั้น ก็สบเข้ากับดวงตาอันเบิกกว้างของจี้สามพร้อมกับด่าทอออกมา
“เจ้าหุบปากเดี๋ยวนี้ เจ้ามักง่ายเสพสุขกับนางแล้ว พอมาตอนนี้ก็คิดที่จะไม่อยากได้นางแล้ว นี่เจ้าคิดบังคับให้นางไปตายอยู่รึ ?”
จี้หมิงเม้มริมฝีปากแน่นจนท้ายที่สุดเขาก็ไม่พูดอะไร แต่เขากลับมองไปที่ซูจ้าวตี้ด้วยสายตาที่ไร้ความปรานี
ซูจ้าวตี้ถูจมูกและแอบคิดกับตัวเอง จะมาโทษข้าได้เยี่ยงไร ไม่ใช่ว่าข้าเองก็ไม่มีทางเลือกหรอกหรือ ?
ซูจ้าวตี้มองไปที่จี้สามบนเตียง ใบหน้าของเขาซีดขาวมาก เขานั่งอยู่บนเตียงในขณะนี้ พร้อมกับงอตัวไออย่างรุนแรงอยู่ตลอด
ซู่จ้าวตี้แต่ก่อนเคยเป็นทั้งหมอรักษาและหมอพิษทั้งสองด้านมาก่อน เพียงแค่มองเขาไม่กี่ครั้ง นางก็จะมั่นใจได้ว่าขาทั้งสองข้างของเขาทำให้เกิดภาวะแทรกซ้อน เกรงว่าปอดก็คงจะได้รับความเสียหายถึงได้ไออยู่ตลอดแบบนี้
นางคำนับจี้สามด้วยความเคารพและเงยหน้าขึ้นพูดขึ้น "ท่านลุงจี้ พ่อข้ากิตติศัพท์เป็นเช่นไร ท่านย่อมรู้ดี ถ้าไม่เอาเงินให้กับเขาแล้วล่ะก็ เขาไม่มีทางยอมให้ข้าแต่งกับจี้หมิงอย่างแน่นอน บางที...เขาอาจจะเอาข้าไปขายทิ้งก็ได้..."
เมื่อนางพูดถึงตรงนี้ รอยยิ้มเศร้า ๆ ก็ปรากฏออกมา จากนั้นก็พูดด้วยน้ำเสียงที่มั่นใจ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณหนูใหญ่เกิดใหม่เป็นสาวชาวนาอัปลักษณ์
ขอให้อัพเดทต้อนะคะ...