"ฉึก......"
"ไอ้หยา นี่เป็นอะไรเหรอ?" นายหญิงเนตรเป็นห่วง
มณิกาเพื่อไม่ให้เธอเป็นห่วง ก็พูดโกหกว่าตัวเองหกล้มแล้ว แขนไปขูดบนหินที่แหลมคม บาดเป็นแผลแล้ว
นายหญิงเนตรรักและเอ็นดูอย่างมาก ดึงเธอมานั่งตรงโซฟา พูดคุย
"หนูเป็นเด็กผู้หญิงนะ ต้องระวังตัวหน่อย ไม่ใช่ว่าถึงตอนนั้นทิ้งรอยแผลเป็นไว้ก็ไม่สวยงามแล้ว" นายหญิงเนตรตบๆ ที่มือของเธอเบาๆ พูดชี้แนะให้คำแนะนำ
"คุณย่าวางใจได้ค่ะ ฉันไม่เป็นอะไร"
มณิกายิ้มเล็กน้อย
นายหญิงเนตรพูดคุยเรื่องในชีวิตประจำวันทั่วไปกับมณิกา พูดไปเรื่อยเปื่อย
"ผ่านช่วงนี้ไป ย่าจะไปหนูไปเจอคนๆ หนึ่ง"
"ใครคะ?"
"อาชายเจ็ดของวายุ อีกสองสามวันเขาก็กลับมาจากเมืองนอกแล้ว ถึงตอนนั้นพวกหนูก็ต้องรู้จักกันให้ดีๆ หน่อย ถึงอย่างไรก็เป็นอาชายเจ็ดของหนู"
นายหญิงเนตรเอ่ยถึงลูกชายคนที่เจ็ดของตระกูลเดชากุล พูดอีกว่า : "น้องเจ็ดอายุมากกว่าวายุไม่กี่ปี แต่ว่ามีหัวคิดทางธุรกิจอย่างมาก ถึงตอนนั้นย่าพิจารณาจะให้แกไปเรียนรู้ประสบการณ์มากมายกับเขาหน่อย"
"ห่ะ?เรียนรู้ประสบการณ์มากมายกับ......กับอา......อาชายเจ็ด?" มณิกาคิดยังไงก็ไม่เข้าใจ
มณิกาค่อนข้างกระหายน้ำเล็กน้อยหยิบน้ำอุ่นที่วางจนเย็นๆ บนโต๊ะขึ้นมา ดื่มไปอึกหนึ่งแล้ว
ข้างหู เสียงของนายหญิงเนตรดังขึ้นมาอีกครั้ง "น้องเจ็ดเป็นคนสุขุม หน้าตาก็หล่อเหลา แถมยังเป็นโสด ในเมื่อหนูไม่สามารถคบหากับวายุได้ แต่ฉันคิดอยากจะแนะนำหนูให้น้องเจ็ดได้รู้จักหน่อย"
"ฟู่......แค๊กๆๆๆ ......"
มณิกาที่กำลังดื่มน้ำอยู่ถูกคำพูดของนายหญิงเนตรทำให้ตกใจจนพ่นน้ำออกมาจากปากแล้ว ไอออกมา
นายหญิงเนตรรีบดึงกระดาษมาให้เธอสามสี่แผ่นแล้วทันที พูดเรื่อยเปื่อยว่า : "อายุกว่าเท่าไหร่แล้ว ดื่มน้ำยังสำลักอีก"
"แค๊กๆๆๆ ......ฉัน......แค๊กๆ ......ไม่เป็นไรค่ะ ไม่เป็นไร"
มณิกาหยิบกระดาษทิชชูมาเช็ดปากแล้ว โบกไม้โบกมืออย่างต่อเนื่อง "ฉันไม่เป็นไร คุณย่า เมื่อกี้คุณพูดว่าอะไรนะ?"
"ก่อนหน้านี้ก็พูดกับหนูแล้ว จะต้องแนะนำเรื่องการแต่งงานที่ดีให้กับหนู นี่น้องเจ็ดก็กลับมาแล้วไม่ใช่เหรอ จะได้แนะนำให้แกสองคนได้รู้จักกันพอดีเลย"
นายหญิงเนตรพูดแนะนำให้มณิกา
ในเวลานี้ มณิกาเข้าใจความหมายของนายหญิงเนตรอย่างถ่องแท้แล้ว
คาดการณ์ว่า นายหญิงเนตรค่อนข้างที่จะชอบเธอ และแม้ว่าเธอจะคบหากับวายุที่มีข้อตกลงของการแต่งงานไม่ได้ แต่กลับว่าไม่ได้เป็นอุปสรรคที่เธอจะนัด‘ดูตัว’กับลูกชายคนที่เจ็ดของตระกูลเดชากุล!
นี่ถ้าหากสำเร็จแล้ว เธอก็เป็นน้าสะใภ้ของ......วายุ?
คุณพระช่วย คิดไม่ละเอียดรอบคอบไปหน่อยหรือเปล่า
"คุณย่า ไม่ได้ๆ ฉันจะคู่ควรได้ยังไงกันล่ะคะ ช่างมันเถอะนะ"
มณิกาปฏิเสธทันควัน
"ช่างมันเถอะอะไรกันล่ะ?ย่าบอกว่าได้ ก็คือได้ เรื่องนี้ เอาตามนี้แหละ"
นายหญิงเนตรไม่ให้โอกาสมณิกาได้ปฏิเสธเลย ตัดสินใจเรื่องนี้เลย
แม้ว่ามณิกาค่อนข้างที่จะจนใจ แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรอีก
วันนี้ มณิกาอยู่กับนายหญิงเนตรตลอด และวายุกลับว่าไม่ปรากฏตัวออกมาอีก
หลังจากที่ทานมื้อค่ำเสร็จ นภัทรถึงได้พามณิกากลับมาส่งที่คอนโดคลับดิมไลท์แล้ว
หลังจากที่ลงจากรถ มณิกาก็โทรศัพท์หาพ่อแม่บุญธรรมที่โรงจอดรถใต้ดินแล้ว พูดสอบถาม เห็นว่าพวกเขาปลอดภัยไม่เป็นอะไรก็วางใจแล้ว
กลับมาถึงคอนโด วายุกลับว่าไม่อยู่
คืนนี้ เขายังไม่กลับมา
มณิกายังคงนอนดึกเช่นเคย ตื่นขึ้นในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น หลังจากที่ล้างหน้าแปรงฟัน เธอก็เปลี่ยนเสื้อผ้าลงไปรับประทานอาหารแล้ว
รอจนกระทั่ง10:00เช้า เธอไปที่โรงจำนำแล้ว
"สวัสดีค่ะ ฉันต้องการจำนำของสิ่งหนึ่ง"
มณิกายื่นแหวนออกไปให้คนของโรงรับจำนำแล้ว
ผู้ชายที่เคาร์เตอร์รับแหวนมา ดูไปพลาง พร้อมพูดถามไปพลางว่า : "มีใบเสร็จซื้อแหวนไหมครับ"
"ไม่มีนะ"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า