เมื่อเห็นเขาเดินเข้ามา นิอรเหลือบมองเขาพลางทักทายขึ้นว่า"คุณชายวายุกลับมาแล้วเหรอ?"
"อึม"
ชายหนุ่มเมินเฉยเหมือนที่เคยเป็น พูดน้อยราวกับกลัวทองจะร่วง ชอบทำทีไม่สนใจ
"ณิกา งั้นคุณก็ดูต่อเธอ ฉันขอตัวไปนอนก่อน"
เธอตรงไปที่ห้องนอน เพื่อที่จะไม่รบกวนมณิกากับวายุอยู่กันตามลำพัง
นิ้วเรียวยาวของวายุปลดกระดุมเสื้อสูทออก แล้วพาดไว้บนโซฟา พลางนั่งลงบนโซฟาด้านข้างของมณิกา และถามขึ้นด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า:"คุณไปรับปากคุณย่าทำไม?"
แม้ว่าวายุจะไม่เข้าใจว่าทำไมคุณย่าถึงได้มอบหมายให้มณิกามาตกแต่งสถานที่งานแต่งงานของเขากับธิกานต์ แต่มณิกานั้นสามารถที่จะปฏิเสธได้ แต่เธอกลับรับปากอย่างคาดไม่ถึง
มณิกานั่งขัดสมาธิ ในมือถือห่อมันฝรั่งอยู่ เธอเหลือบมองเขาอย่างขี้เกียจ พลางพึมพำว่า"คุณย่าเอ่ยปากแล้ว แล้วฉันมีเหตุผลอะไรที่จะต้องปฏิเสธ?"
เธอยักไหล่ พลางถอนหายใจครู่หนึ่ง"หากไม่ได้เป็นเพราะว่าคุณย่าเอ็นดูฉัน คุณก็คงไม่เข้าไปช่วยฉันในอุบัติเหตุไฟไหม้ ไม่ไปต่างประเทศเพื่อช่วยฉัน ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเสี่ยงอันตรายเข้าไปช่วยฉันในป่าลึกนั่น ถึงยังไงคุณย่าก็มีพระคุณกับฉัน ฉันจดจำอยู่ในใจ อย่าว่าแต่ให้ฉันตกแต่งสถานที่แต่งงานเลย ต่อให้ต้องบริจาคไต ฉันก็ไม่ปฏิเสธ"
บุญคุณนั้นยากที่จะตอบแทนหมดสิ้น
อีกทั้งสิ่งที่เธอติดค้างนายหญิงเนตรนั้นคือ'บุญคุณที่ช่วยชีวิต'มณิกานั้นไม่มีเหตุผลที่จะปฏิเสธจริงๆ
เมื่อคำพูดของเธอเข้าหูวายุ ฉากเหตุการณ์ต่างๆ ก็เข้ามาวนเวียนอยู่ในหัวของเขา ราวกับภาพยนตร์ที่ฉายอย่างรวดเร็ว ราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน
สายตาของชายหนุ่มเริ่มหดหู่ ที่แท้ในใจของเธอ สิ่งที่เขาทำไปทุกอย่างก็เป็นเพราะ'คำสั่งของคุณย่า?
เป็นเพราะคุณย่าชอบเธอ เขาก็เลยปกป้องเธองั้นเหรอ?
"พรุ่งนี้ตอนพักกลางวันฉันจะไปหาคุณที่บริษัท จะไปปรึกษาคุณเรื่องรายละเอียดสถานที่จัดงาน"
มณิกาอธิบายทุกสิ่งทุกอย่างปกติ อารมณ์เรียบเฉย ราบเรียบ
เธอยอมรับว่าเธอเกลียดตระกูลธนัตถ์โชติ แต่ในเมื่อตอนนี้ไม่สามารถแก้แค้นได้ จึงพยายามบังคับตนปล่อยความแค้นนั้นไป
มณิกาติดค้างนายหญิงเนตรเยอะมาก เป็นไปไม่ได้ที่เธอจะวางกลอุบายในงานแต่งงาน ให้ธิกานต์ต้องขายหน้า เพราะหากทำเช่นนั้นก็จะทำให้บ้านเก่าตระกูลเดชากุลต้องอับอายขายหน้าคนในเมืองจันทรา
ผู้หญิงจิตใจดีอย่างเธอ อีกทั้งรู้จักตอบแทนบุญคุณ แน่นอนว่าคนไม่ทำเรื่องต่ำช้าไร้ยางอายแบบนั้น
"เดี๋ยวเรื่องนี้ผมจะให้นภัทรเป็นคนจัดการ"
วายุจำได้ว่าตอนที่เขากับธิกานต์หมั้นหมายกัน จู่ๆ มณิกาก็ปรากฎตัวขึ้นในงาน และเมื่อรู้ความจริงว่าหลังจากเธอคลอดลูกแล้วจะมอบให้กับธิกานต์เป็นคนเลี้ยงดู เพื่อที่จะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เช่นนี้ เธอก็ไม่สนใจอันตรายกินยาเข้าไปเป็นจำนวนมากทำให้ตนเองแท้ง เกือบที่จะเสียเลือดมากจนเสียชีวิต
เรื่องนั้นกระทบกระเทือนจิตใจของมณิกาเป็นอย่างมาก
ชายหนุ่มไม่ต้องการให้เธอต้องมาทนทุกข์ทรมาน
"เหอะ"
มณิกาหัวเราะ สายตาเย็นชาหันไปมองวายุ"กลัวว่าฉันจะทำอะไรธิกานต์งั้นเหรอ?"
เธอพูดพลางพยักหน้า สีหน้าเต็มไปด้วยความเย้นหยันและเหยียดหยาม"ฉันมณิกา แต่ไหนแต่ไรไม่ใช่คนต่ำช้าขนาดนั้น"
เมื่อพูดจบ เธอก็ทิ้งถุงมันฝรั่งไว้บนโต๊ะ ลุกขึ้นสวมรองเท้าแล้วเดินเข้าไปในห้องนอน
ปั้ง——
ประตูห้องถูกปิดอย่างแรง ขวางสายตาที่วายุมองเธอ
เขานิ่งเงียบครู่หนึ่ง จากนั้นก็ลุกขึ้นไปทำงานในห้องหนังสือ
มณิกาพลิกตัวไปมาอยู่บนเตียงนอนไม่หลับ อีกทั้งมีนิอรเพิ่มมาอีกคน ทำให้ปรับตัวไม่ค่อยได้
เวลาเที่ยงคืน นิอรนอนหลับแล้ว เธอเล่นโทรศัพท์มือถือ รู้สึกเบื่อหน่าย จึงลุกขึ้นจากเตียงแล้วไปดูทีวีที่ห้องรับแขก
เปิดดูรายการต่างๆ วนไปมาหนึ่งรอบ ก็พบว่าไม่มีอะไรน่าดู
สายตาเหลือบไปเห็นว่าเป็นเวลาตีสามกว่าแล้ว มณิกาที่เอนหลังอยู่บนโซฟาก็ไม่มีความรู้สึกง่วง สุดท้ายจึงทำได้เพียงไปห้องหนังสือ
แต่ใครจะไปรู้ว่า พอผลักประตูออกไป วายุยังคงนั่งอยู่ที่หน้าห้องทำงานจัดการกับเอกสารอยู่
มณิกาตะลึงงัน พลางถามขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า:"ใกล้จะตีสี่แล้ว ทำไมคุณยังไม่นอนอีก?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า