แต่ปฏิกิริยาของเธอทำให้เหนือเมฆมองเธอเปลี่ยนไป
เหนือเมฆที่ถือกล่องอาหารอยู่ในมือมองไปที่มณิกาอย่างไม่กะพริบตา ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความน้อยใจของมณิกาและรู้สึกถึงความแข็งแกร่งในหัวใจของเธอ
ถึงขั้นมีชั่วขณะหนึ่ง ราวกับว่าเขามองเห็นตัวเองบนตัวของมณิกา
เพราะว่า...พวกเขาเหมือนกันเกินไป
"เอาล่ะ ณิกาเราเข้าไปกันเถอะ" เมื่อก่อนเหนือเมฆก็ไม่ชอบธิกานต์อยู่แล้ว ตอนนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นเขายิ่งคิดว่าธิกานต์เสแสร้งแกล้งทำ น่ารังเกียจ
เขายื่นมือออกไปจับมือของธิกานต์ ดึงเธอมาข้างหน้าแล้วจับไหล่เธอ
พฤติกรรมแบบนี้ ทำให้ธิกานต์และวายุตกใจ
"อะไรนะ?"
ธิกานต์ยื่นมือออกไปปิดปากของตัวเองด้วยความตกใจ "ณิกา เธอ...เธอไปรู้จักกับคุณชายเหนือเมฆตั้งแต่เมื่อไหร่ เขา...เขา..."
พูดกระอึกกระอักแบบนี้ ทุกคนล้วนแต่เข้าใจ
เธออยากจะบอกว่าเหนือเมฆเป็นผู้ชายเจ้าสำราญ เป็นจอมล้างผลาญที่มีชื่อเสียงในเมืองจันทรา เป็นเพลย์บอยตัวพ่อ
แต่เพราะว่าวันนี้เป็นงานหมั้น ธิกานต์จึงไม่พูดแบบนั้นออกมา
"กานต์ ในเมื่อคุณมณิกาเป็นเพื่อนของคุณ คุณก็ควรจะเตือนเธอให้อยู่ห่างจากคนที่คบไม่ได้"
ที่ธิกานต์ไม่พูดออกว่าก็เพราะว่าเห็นแก่หน้าของวายุ กลัวว่าจะทำให้เกิดเรื่อง ทำให้บรรยากาศอึดอัด แต่ใครจะรู้ว่า วายุกลับพูดออกมาเอง
เขาพูดกับธิกานต์ แต่สายตากลับมองไปที่มณิกาไม่ยอมละสายตา
"พี่วายุ บางทีมณิกาอาจจะเป็นแค่เพื่อนกับเหนือเมฆก็ได้" ธิกานต์กอบกู้สถานการณ์
"ใช้ เราเป็นแฟนกัน!"
ในฐานะที่ลูกผู้ชาย เหนือเมฆสัมผัสได้ถึงความไม่เป็นมิตรของวายุ โดยเฉพาะสายตาของเขาที่เอาแต่จ้องมองไปที่มณิกา
เหนือเมฆนึกถึงตอนที่เจอกับเขาที่คลับดิมไลท์วันนั้นขึ้นมา ความคิดหนึ่งวาบเข้ามาในหัว แต่เขาก็รู้สึกว่ามันคงไม่จริง
"ลืมแนะนำให้พวกคุณรู้จัก"
ในเมื่อเหนือเมฆยอมรับว่าเธอเป็นแฟนของเขาเพื่อปกป้องเธอ โดยเฉพาะใบหน้าที่ขี้เหร่ขนาดนี้ ต่อหน้าเสียงหัวเราะเยาะของทุกคน เขาก็ยังจะปกป้องเธอ
ถึงแม้ว่ามณิกาจะเป็นคนใจแข็งแค่ไหน แต่เธอก็ซาบซึ้ง
เธอเข้าไปจับมือเหนือเมฆ "เหนือเมฆ แฟนของฉัน"
"เธอ...แฟนเธอเหรอ?"
แม้ว่าธิกานต์จะรู้ว่าเหนือเมฆเป็นเพลย์บอยตัวพ่อ แต่อย่างน้อยเขาก็เป็นลูกชายของตระกูลโยธิน ที่เป็นหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองจันทรา คิดไม่ถึงว่าเขาจะชอบมณิกา
แล้วยังขี้เหร่ขนาดนี้!
มณิกาผู้หญิงคนนี้ทำเสนห์อะไรกันแน่? เธอโมโห แต่ก็แสร้งทำเป็นห่วง "ณิกา ฉันรู้ว่าเธอมีชีวิตที่ลำบาก ต้องทำงานแล้วต้องทำพาร์ทไทม์ส่งอาหาร หาเงินจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้คุณลุงคุณป้า แต่ถึงแม้ว่าจะลำบากแค่ไหน เธอก็ไม่ควรเดินทางลัด"
'เดินทางลัด' ใช้คำสามคำนี้ได้อย่างชาญฉลาด
คนที่อยู่ในเหตุการณ์ล้วนแต่เป็นคนฉลาด จะไม่มีใครรู้ความหมายนัยของประโยคนั้นได้ยังไง?
"เดินทางลัด ก็ต้องดูว่ามีความสามารถนั้นรึเปล่า"
วายุพูดอย่างเย็นชา ราวกับว่ากำลังเยาะเย้ย
จากนั้นก็พูดว่า "ผู้หญิงที่หน้าตาดีของคุณชายเหนือเมฆมีตั้งเยอะแยะ เธอควรจะส่งกระจกซะบ้าง"
"ใช่สิ ผู้หญิงคนนี้โง่มากเลย"
"ขี้เหร่ขนาดนี้ แค่มองก็ไม่อยากจะมอง แล้วยังคิดว่าเหนือเมฆจะชอบตัวเอง"
"หรือว่าเหนือเมฆเห็นผู้หญิงสวยมาเยอะแล้ว อยากจะลองของแปลก ฮ่าๆๆ "
"มีเหตุผล มีเหตุผล"
......
ผู้คนที่อยู่รอบข้างก็วิพากษ์วิจารณ์อีกครั้ง
"เหนือเมฆ นายก่อเรื่องอะไรให้ฉัน ไอ้ลูกอกตัญญู ทำให้ฉันอับอายขายขี้หน้าทุกวัน!"
ทันใดนั้น เสียงด่าก็ดังขึ้นมา
คนยังมาไม่ถึงแต่เสียงมาถึงก่อนแล้ว
ทุกคนแยกย้ายกันออก เห็นผู้ชายแก่คนหนึ่งเดินเข้ามา
เขาใส่ชุดสูท ถึงแม้ว่าจะแก่ แต่ฝีเท้าของเขายังคงแข็งแรง บนใบหน้าที่เคร่งขรึมของเขาเต็มไปด้วยความน่าเกรงขาม
"นี่ไม่ใช่ท่านชยธรเหรอ"
"เหนือเมฆคือเป็นลูกชายคนเล็กที่ไม่ได้เรื่องที่สุดของตระกูลโยธิน ถ้าชยธรรู้เรื่องของเหนือเมฆเขาคงจะโมโหตาย"
"แน่นอนอยู่แล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า