หลังจากออกจากคลับดิมไลท์แล้ว มณิกาก็ถอนหายใจยาวด้วยความโล่งอก ในที่สุดก็แก้ปัญหาค่ารักษาพยาบาลได้แล้ว
เช่นนั้นต่อไปก็คือตระกูลธนัตถ์โชติ
ขอแค่จัดการเรื่องคนของตระกูลธนัตถ์โชติ ได้ เธอก็จะสามารถไปจากเมืองจันทราได้ จากนั้นก็ไปหางานดีๆ ทำสักงาน หารายได้เลี้ยงดูพ่อแม่
อย่างไรก็ตาม บุญคุณที่ชุบเลี้ยงมายิ่งใหญ่มากกว่าแผ่นฟ้า
ติ๊งๆๆๆ ----
ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น
มณิกาควักโทรศัพท์มือถือออกมา เห็นว่าเป็นว่ามีหมายเลขหนึ่งเด้งขึ้นมาบนหน้าจอ
คือเบอร์ของธิกานต์
เธอขมวดคิ้วเบาๆ แล้วจึงกดรับสาย
"มณิกา ตกลงว่าเธอคิดจะทำอะไรกันแน่ คิดจะทำลายตระกูลธนัตถ์โชติของพวกเราเหรอ"
พอรับสาย เสียงโวยวายของธิกานต์ก็ดังขึ้นที่ปลายสาย ไม่ได้มีท่าทางอ่อนโยนแบบคุณหนูผู้ดีเลยสักนิดเดียว
มณิกาเอาโทรศัพท์มือถือหนีให้ห่างจากหูเล็กน้อย จนกระทั่งทางนั้นเงียบเสียงลง เธอจึงพูดอย่างไม่ได้สนใจเลยสักนิดว่า"อะไรเนี่ย ฉัน......ฉันไม่เข้าใจเลยว่าพวกคุณกำลังพูดเรื่องอะไรกัน"
เธอแกล้งทำเป็นไม่รู้เรื่องอะไรเลย
"เธอจะเสแสร้งอะไรอีก รูปภาพที่โพสต์บนเวยป๋อคือภาพที่เธอบริจาคไขกระดูกให้กับชิริวที่โรงพยาบาลไม่ใช่หรือ ไม่ใช่ข่าวที่เธอปล่อย แล้วยังจะมีใครอีก"
ธิกานต์ตื่นตระหนกจนลนลาน
กลัวอะไรก็จะได้อย่างนั้นจริงๆ
คำพูดเธอชะงักไป ไม่รอให้มณิกาพูด ก็รีบพูดขึ้นมาอีกว่า"ฉันเคยเตือนเธอแล้ว ว่าอย่าเปิดเผยตัวตนของเธอ มณิกา เธออย่ารนหาที่ตาย"
ประโยคข่มขู่ที่แฝงด้วยความเคียดแค้น
คำพูดที่ทำลายภาพลักษณ์ ยากที่จะให้คนจินตนาการว่าคำพูดนี้ออกมาจากปากของธิกานต์
"ตายด้วยวิธีไหนล่ะ คิดจะจัดฉากเหมือนกับที่ชนพ่อแม่ฉันตาย จัดฉากอุบัติเหตุอีก ชนฉันให้ตายเหรอ"
เรื่องมาถึงตอนนี้แล้ว มณิกาจึงแฉคนตระกูลธนัตถ์โชติจัดฉากเรื่องอุบัติเหตุรถชนของพ่อแม่ออกมา
พอสิ้นเสียงเธอ ธิกานต์ก็อึ้งตะลึงไปชั่วขณะ จากนั้นส่งเสียงฮึ่ม"ในเมื่อเธอรู้เรื่องหมดแล้ว งั้นเธอก็ควรจะสงบเสงี่ยมเจียมตัวหน่อย มิฉะนั้น ต่อไปเกรงว่าจะไม่มีใครเลี้ยงดูจัดงานศพให้พ่อแม่เธอ"
"พ่อแม่ฉันเหรอ ที่เธอพูดหมายถึงทัพทองหรือว่าวิมล"
"เธอหุบปากนะ!พ่อแม่ฉันมีฉันเป็นลูกสาวคนเดียว เธอคิดว่าเธอเป็นใคร ก็แค่ขยะที่ถูกตระกูลธนัตถ์โชติทิ้งก็เท่านั้น!"
"ฉันคือขยะ แล้วเธอคืออะไรธิกานต์ อย่าลืมนะ ว่าพวกเราเป็นพี่น้องท้องเดียวกัน"
"เธอ......"
ธิกานต์โกรธจนพูดไม่ออก
มณิกากลั้นหัวเราะเอาไว้ไม่อยู่ "ธิกานต์ เธอฟังฉันให้ดีนะ ฉันสามารถเปิดเผยภาพนี้ได้ ก็ยิ่งสามารถเปิดเผยตัวตนของฉันได้ ถ้าเธอยังกล้าทำอะไรพ่อแม่ที่เลี้ยงดูฉันมาอีก ฉันก็ไม่ถือสาที่จะลากตระกูลธนัตถ์โชติของเธอไปลงนรกด้วย"
รอยยิ้มที่เผยให้เห็นบนใบหน้าเธอค่อยๆ จางหายไป แทนที่ด้วยความดุร้าย
วันนี้ภาพที่ถูกเปิดเผยบนเวยป๋อมีเพียงแค่สองเท่านั้น
ภาพหนึ่งคือภาพที่เธอกับธิกานต์ยืนอยู่ด้วยกัน อีกภาพก็คือภาพที่เธอบริจาคไขกระดูกให้กับชิริว
แต่สองภาพนี้ล้วนเก็บรักษาไว้ในกล้องวงจรปิด
ภาพไม่ได้คมชัดมาก แต่ก็มองเห็นลักษณะท่าทางของเธอได้อย่างชัดเจน
เธอทิ้งท้ายไว้ด้วยความโกรธแค้นแล้วจึงวางสาย
และวินาทีที่สายตัดไปนั้น การบันทึกเสียงก็ได้รับการเก็บบันทึกไว้แล้ว
เมื่อครู่ที่เธอยั่วโมโหธิกานต์ไปอย่างนั้น ก็เพราะจะบีบให้เธอพูดคำพูดพวกนั้นออกมา
มณิกาเล่นโทรศัพท์มือถือ ริมฝีปากแดงกระตุกเป็นรอยยิ้มเยาะ
เกรงว่าธิกานต์ในเวลานี้ น่ากำลังโมโหกระฟัดกระเฟียดอยู่
แต่ความจริงแล้ว......
เป็นไปอย่างที่เธอคาดเอาไว้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า