ในฐานะที่เป็นจุดสนใจ มณิกากับเหนือเมฆสองคนตอนนี้กำลังนั่งอยู่ที่ร้านแผงลอยขายเนื้อย่างเสียบไม้
"พ่อแม่คุณก็กลับบ้านเก่ากันไปหมดแล้ว แล้วคุณคิดว่าจะมาทำงานที่บริษัทผมเมื่อไหร่"
เหนือเมฆถือเนื้อแกะย่างกินไปพลางถามมณิกาไปพลาง
เขาเป็นคุณชายเหนือเมฆของตระกูลโยธินหนึ่งในสี่ตระกูลใหญ่ของเมืองจันทรา เขายอมลดสถานะอันสูงส่งมากินอาหารที่แผงขายอาหารธรรมดาๆ แบบนี้ แต่เขาท่วงท่าวาจาเขาก็ยังแฝงด้วยความเป็นผู้ดีสง่างาม แตกต่างกับคนที่นั่งกินเนื้อย่างรอบตัวเขาอย่างชัดเจน
"บริษัทคุณทำอะไรล่ะ"
มณิกามองไปยังเหนือเมฆ เขาสวมเสื้อเชิ้ตลายดอก กางเกงลายดอก สวมแว่นกันแดด ข้อศอกเท้าอยู่บนหน้าต่าง มือหนึ่งจับพวงมาลัย แม้เขาจะแต่งตัวสบายๆ ทั้งยังลายดอก แต่ก็ไม่ได้ส่งผลต่อใบหน้าที่หล่อเหลาทรงเสน่ห์แบบแบดบอยของเขาเลยแม้แต่น้อย
ไม่พูดไม่ได้ว่า เหนือเมฆหล่อเหลามากจริงๆ จัดอยู่ในพวกที่หล่อแบบกวนประสาท มีความเป็น 'แบดบอย' แบบนั้นแผ่ออกมาจากตัวเขา
"ผมกำลังถามคุณอยู่นะ"
"ฉันเรียนด้านการบริหารการตลาด"
"งั้นก็ไปที่ฝ่ายโครงการของบริษัทผม เรียนรู้อะไรสักหน่อยเถอะ"
"ได้เหรอคะ"
"ผมเป็นเจ้าของบริษัท ผมว่ายังไงก็ต้องอย่างนั้น"
เหนือเมฆยักคิ้วให้เธอ ยิ้มอย่างสะใจ
แต่กลับไม่รู้เลยว่า ที่มณิกาถามว่า 'ได้เหรอ' นั่นหมายความ เธอจะได้เรียนรู้จากการทำงานที่บริษัทเขาจริงเหรอ
เด็กสาวจึงหัวเราะตามออกมา ใช้ชาแทนสุรา ชนแก้วกับเขา "งั้นก็ดื่มให้กับเจ้านายในอนาคตของฉัน ต่อไปก็พึ่งคุณแล้วนะ"
ทั้งสองคนพูดคุยหยอกล้อกัน
ดูเหมือนว่ามีเพียงตอนที่ มณิกาอยู่กับเหนือเมฆเท่านั้นจึงจะรู้สึกผ่อนคลายสบายใจ
หลังจากทานอาหารเสร็จ ทั้งสองก็แยกย้ายกันกลับบ้าน
มณิกาที่สองสามวันนี้งานยุ่งรู้สึกเหนื่อยล้ามากเป็นพิเศษ ล็อคประตู ผล็อยหลับไปหลังจากล้างหน้าล้างตา
วันต่อมา
ตื่นมาในตอนเช้าตรู่ มณิกาเปลี่ยนเป็นชุดออกกำลังกาย ลุกไปวิ่งตอนเช้า
การวิ่งในตอนเช้าเป็นความเคยชินในอดีตของเธอแต่นับจากที่พ่อแม่สลบไม่ได้สติ เธอต้องแบกรับภาระเลี้ยงดูพ่อแม่และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ในโรงพยาบาล ทุกวันเธอจึงได้แต่หาเงินอย่างสุดชีวิต
ตอนนี้พ่อแม่ที่เลี้ยงดูก็กลับบ้านเก่าไปอย่างสงบแล้ว ภาระที่เธอแบกรับก็เบาลงไปมาก จึงกลับไปวิ่งในตอนเช้ามืดเช่นเดิม
วิ่งที่สวนสาธารณะริมแม่น้ำสามชั่วโมงกว่า ตอนที่เธอกำลังนั่งพักอยู่ข้างทางนั้นเอง จู่ๆ ก็มองเห็นคนกำลังรุมล้อมอะไรกันไม่ไกลจากตรงนั้น
"เอ๊ะ ทางนั้นเกิดเรื่องอะไร ฉันลองไปดูหน่อย"
"ดูเหมือนจะมีคุณยายคนหนึ่งเป็นลมไป"
"โอ้ย ทำไมเป็นแบบนี้"
ด้านหน้ามีคนเดินผ่านพูดพึมพำพอดี มณิกาก็ลุกขึ้นตามไปดูว่าเกิดเรื่องอะไร
ในเวลาเช้ามืด ในสวนสาธารณะล้วนมีแต่บรรดาตาแก่ยายแก่กำลังออกกำลังกาย เห็นว่าทางนี้เกิดเรื่องขึ้นก็รุมล้อมกันเข้ามา
มณิกาเขย่งปลายเท้าดู เห็นแค่มีหญิงชราสวมชุดไทเก็กนอนกองอยู่ที่พื้น มีน้ำลายฟูมปากแล้ว อาการอันตรายอย่างยิ่ง
แต่ผู้คนที่รุมล้อมอยู่นั้นไม่มีใครกล้ายื่นมือเข้าช่วยมีแค่คุณตาคนหนึ่งโทรเรียก1669
มณิกาควักโทรศัพท์มือถือออกมา เปิดบันทึกภาพวิดีโอ จากนั้นก็แทรกตัวเข้าไปในฝูงชน "หลบหน่อยค่ะ หลบหน่อย"
เธอเดินมาตรงหน้าของหญิงชราที่หมดสติ เอาโทรศัพท์มือถือวางไว้ด้านข้าง พลิกตัวหญิงชราพลาง พูดกับผู้คนที่รุมล้อมพลางว่า "คนไข้น้ำลายฟูมปาก ต้องการอากาศถ่ายเทสะดวก อย่าเข้าใกล้มากเกินไปนะคะ"
พูดจบ เธอก้มหน้ามองหญิงชราที่หมดสติ จึงแปลกใจมากที่พบว่าเธอก็คือ......
นายหญิงเนตร!
"คุณย่าเนตร!"
มณิกาตกใจอย่างมาก ไม่คาดคิดเลยว่าจะพบกับนายหญิงเนตรที่นี่ และในสภาพแบบนี้
แต่สถานการณ์วิกฤต ทำให้เธอไม่อาจรีรอได้
เอาศีรษะของนายหญิงเนตรเอียงไปด้านข้าง ยื่นมือไปปลดคอเสื้อชุดไทเก็กของนายหญิงเนตรพยายามให้เธอหายใจได้สะดวก
จากนั้นกดลงบนจุดเหรินจงกับจุดเหอกู่ของนายหญิงเนตร กระตุ้นจุดฝังเข็ม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า