ตกอยู่ในอันตรายเหรอ
วายุขมวดคิ้ว ท่าทางครุ่นคิด ใบหน้าหล่อเหลาเผยให้เห็นความวิตกกังวลเล็กน้อย
ซึ่งเขาไม่ตระหนักรู้ถึงความรู้สึกที่ผิดปกตินี้
เวลานี้ ธิกานต์ที่อยู่ภายในห้องผู้ป่วยเดินออกมา เธอมองปราดเดียวก็พบว่าสีหน้าของวายุผิดปกติ จึงถามว่า "พี่วายุ เป็นอะไรคะ"
ตอนที่วายุรู้ข่าว คนตระกูลธนัตถ์โชติก็ได้บอกเรื่องของมณิกากับธิกานต์แล้ว
ธิกานต์ที่อยู่ในความยินดีก็ดีใจได้ไม่เท่าไหร่ ก็ได้ยินเสียงในห้องรับแขก วายุกำลังคุยโทรศัพท์กับใครบางคน
คำถามในบทสนทนา เหมือนกับว่าจะเกี่ยวกับมณิกา
ในใจเธอวิตกกังวลอย่างมาก เมื่อครู่ตอนเดินออกมา อยากจะถามให้รู้เรื่อง
วายุที่กำลังเดินวนไปวนมาอยู่ในห้องรับแขกพอหันกลับไปเห็นธิกานต์ ก็รีบวางสายโทรศัพท์ทันที
"ดึกขนาดนี้แล้ว ทำไมยังไม่นอน"
ชายหนุ่มเก็บโทรศัพท์มือถือ สายตาเย็นชามองไปที่ธิกานต์
เพราะว่าในห้องผู้ป่วยมีเตียงคนเฝ้าไข้อยู่ เขาจึงให้ธิกานต์นอนเตียงคนเฝ้าไข้ ส่วนเขานอนบนโซฟาในห้องรับแขก
"ฉัน......"
ธิกานต์เม้มปาก "นอนไม่หลับ"
"อืม"
ชายหนุ่มได้ยินคำพูดของธิกานต์ ตอบอย่างใจลอยว่า'อืม'คำหนึ่ง สายตามองไปมุมใดมุมหนึ่งในห้องรับแขกตกอยู่ในความคิดบางอย่าง
ธิกานต์มองเห็นสีหน้าท่าทางที่ผิดปกติของเขา เธอขมวดคิ้วอย่างสงสัย "พี่วายุ พี่ไม่เป็นอะไรนะคะ"
ประโยคนี้ของเธอเรียกสติของชายหนุ่มกลับมา เขาหันมามอง "บริษัทมีเรื่องต้องจัดการนิดหน่อย เดี๋ยวผมกลับมา"
พูดจบ เขาก็หมุนตัวเดินไปเลย
มีเรื่องที่บริษัทเหรอ
ธิกานต์ไม่เชื่อคำพูดของวายุเลย ในทางกลับกัน เห็นชัดว่าเขาเป็นห่วงเรื่องของมณิกา แต่กลับจงใจโกหกการกระทำนี้กระทบกระเทือนต่อธิกานต์มาก
ชายหนุ่มที่สูงส่งราวกับเทพบุตร ตามที่เธอรู้มาวายุไม่เคยโกหกใครมาก่อน ยิ่งไม่มีทางเป็นห่วงคนอื่นนอกเหนือจากนายหญิงเนตร แต่ตอนนี้เขากลับทิ้งนายหญิงเนตรที่นอนอยู่โรงพยาบาลเพื่อไปหานังแพศยานั่นเหรอ
เห็นเขาจะไป ธิกานต์ก็ก้าวไปข้างหน้า จับข้อมือเขาไว้ "พี่วายุ อย่าไปนะคะ ฉันกลัว"
น้ำเสียงอ่อนหวาน ไพเราะเสนาะหู
ธิกานต์ขมวดคิ้วเบาๆ ก้าวไปข้างหน้า พุ่งเข้าไปในอ้อมอกเขา กอดเขาไว้แน่น เอาศีรษะซุกเข้าไปในแผ่นอกกำยำของวายุ "อยู่เป็นเพื่อนฉันอีกหน่อยได้มั้ยคะ"
ท่าทางอ่อนแอบอบบางของเธอ เห็นแล้วต้องสงสาร
แต่ในจุดบอดที่สายตาของวายุมองไม่เห็น นัยน์ตาของธิกานต์กลับแฝงด้วยความอาฆาต ลึกๆ ในดวงตาคือความอิจฉาริษยารุนแรง
มณิกานังแพศยา อย่าคิดจะให้พี่วายุไปช่วยแก
นับตั้งแต่วันนี้ บนโลกใบนี้จะมีเพียงฉันธิกานต์คนเดียว จะไม่มีตัวตนของแกเด็ดขาด!
ในฐานะที่เป็นสาวงามที่ทั้งสวยและฉลาดอันดับหนึ่งของเมืองจันทรา ธิกานต์ได้รับการยกย่องชื่นชมตั้งแต่เด็ก ชื่นชมว่าเธอมีความสามารถรอบด้าน ด้านกาพย์กลอนดนตรี ทุกอย่างดีเลิศ ชื่นชมว่าเธอมีหน้าตาสวยงามดั่งนางฟ้า งามจนเป็นที่เลื่องลือทั่วทั้งเมือง
เพราะการปรากฏตัวของมณิกาในวันนี้ ทำให้เธอเกิดความรู้สึกวิกฤติอย่างยิ่ง
แน่นอนว่าเธอไม่อยากให้คนเชยๆ ที่มาจากบ้านนอกคอกนาคนหนึ่งหน้าตาเหมือนกับเธอ ถ้าหากมณิกากลายเป็นจุดสนใจของทุกคน ทั้งเธอยังเป็นคนที่ใช้ชีวิตส่วนตัวอย่างปล่อยเนื้อปล่อยตัวไร้ยางอาย มีแต่จะทำลายภาพลักษณ์ของเธอธิกานต์
"ผมจะให้นภัทรมาอยู่เป็นเพื่อนคุณ"
วายุไม่ชอบให้ธิกานต์โอบกอดถึงเนื้อถึงตัว ถึงขั้นไม่สามารถปิดบังความรังเกียจที่อยู่ส่วนลึกในแววตาได้
เขายื่นมือมาผลักธิกานต์ออก แต่ใครจะรู้ว่าเธอจะกอดเขาแน่นมากๆ
ธิกานต์ส่ายหน้า พูดเบาๆ ว่า "พี่วายุ สองวันก่อนฉันอ่านนิยายเกี่ยวกับเรื่องลี้ลับในโรงพยาบาล น่ากลัวมากจริงๆ ค่ะ พี่อย่าไปนะคะ ได้มั้ย"
ปากก็พูดด้วยคำพูดที่แสนอ่อนโยน ไพเราะจับใจเหมือนเสียงระฆังเงินดังกังวาน
แต่กลับมีความเกลียดชังออกมา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า