เหนือเมฆเอนพิงเก้าอี้ ใช้สายตาอ่านยากจดจ้องมาที่เธอ "เอาแบบนี้ก็ได้ เพราะช่วงนี้ฉันเองก็ยุ่งมากๆ ด้วย แต่ว่าทางพ่อแม่เธอไม่ต้องเป็นห่วงนะ มีฉันอยู่ ฉันรับรองว่าจะดูแลพวกเขาอย่างดี"
กิจกรรมการกุศลในครั้งนี้เป็นของรัฐบาลเมืองจันทรา บริษัททุกแห่งต้องส่งคนไปเข้าร่วม
และคนที่เข้าร่วมกิจกรรมในคราวนี้ยังมีพ่อของเหนือเมฆอย่างชยธรอีกด้วย
ทว่าแต่ไหนแต่ไรชยธรก็ไม่ชอบหน้ามณิกาอยู่แล้ว ที่เหนือเมฆตั้งใจส่งมณิกาไปที่ศิศิรนคร ก็เพื่ออยากให้ชยธรเปิดใจทำความรู้จักกับมณิกาอีกสักนิด
เขาอยากให้ชยธรรู้ว่า มณิกาไม่ใช่ผู้หญิงธรรมดา และมากไปกว่านั้นคืออยากให้ชยธรยอมรับในตัวของมณิกา
ด้วยเหตุนี้ เหนือเมฆจึงคิดแผนนี้ขึ้นมา
เขารู้ดี ถ้าเขาบอกว่าเขาจะไปศิศิรนครกับมณิกา กลัวก็แต่ชยธรจะคิดว่าทั้งสองคนหาโอกาสไปอยู่ด้วยกัน
"อืม ฉันเชื่อนาย แต่ว่าต้องไปนานเท่าไหร่? ออกเดินทางตอนไหนเหรอ?"
"ออกเดินทางวันมะรืน แต่ว่า....ไปคราวนี้ประมาณครึ่งเดือนเลยนะ"
ขณะที่พูด เหนือเมฆก็จ้องมองมณิกาอย่างตาไม่กะพริบ จากนั้นก็เอ่ยพูดว่า "ถ้าเธอไม่อยากไป ฉันหาคนอื่นไปแทนก็ได้นะ"
เวลาเกือบครึ่งเดือน เพียงพอให้ชยธรได้สังเกตมณิกา
เหนือเมฆรู้จักชยธรเป็นอย่างดี จากนิสัยของเขาแล้ว ถ้ารู้ว่ามณิกาไปโผล่ที่นั่นด้วย ต้องคอยจับตามองเธอแน่ๆ
แล้วยิ่งคนจิตใจดีเป็นทุนเดิมอย่างมณิกา ที่ทั้งอึดถึกทน เวลาครึ่งเดือนในการสังเกต ก็น่าจะเพียงพอให้ชยธรเริ่มยอมรับมณิกา
เมื่อถึงเวลานั้น พอเธอกลับมา เขาก็จะสารภาพรักกับมณิกา
"ฉันทำได้ ไม่มีปัญหา"
มณิกาตกลงด้วยความยินดี
ไม่ใช่แค่ทำการกุศลอย่างเดียว มากไปกว่านั้นเธอยังติดหนี้บุญคุณเหนือเมฆตั้งมากมาย ที่ช่วยเหนือเมฆในครั้งนี้ ก็เพื่อที่จะชดเชยให้กับเขา
หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยจนได้ข้อสรุป มณิกาก็เดินกลับมาทำงานที่แผนกต่อ
เลิกงานตอนเย็น ทั้งสองก็ไปกินข้าวเย็นด้วยกันอีกครั้ง
กินเสร็จ เหนือเมฆเอ่ยปากขอไปส่งมณิกาที่บ้าน มณิกากลัวว่าเหนือเมฆจะรู้ว่าเธออาศัยอยู่กับวายุ จึงเอ่ยพูดขึ้นมาว่า "ฉันขี่จักรยานกลับดีกว่า ว่าจะออกกำลังกาย ลดน้ำหนักหน่อยน่ะ"
เธอดึงดันจะเอาอย่างนี้ให้ได้ เหนือเมฆเองก็ไม่รู้จะเอ่ยขัดยังไง จึงแยกทางใครทางมัน
เมื่อกลับมาถึงคลับดิมไลท์ ก็เป็นเวลาสองทุ่มแล้ว ทว่าภายในคอนโดกลับมืดสนิท ไม่มีคนอยู่
มณิกานั่งลงบนโซฟาอย่างอ่อนหล้า รู้สึกง่วง แต่กลับนอนไม่หลับ
มาที่ห้องหนังสือ วายุก็ไม่อยู่ เธอจึงนั่งเล่นเกมอยู่ในนั้น
จนกระทั่งห้าทุ่ม วายุถึงได้กลับมา
เขาเดินเข้ามาในห้องสมุด ก็เห็นมณิกานั่งเล่นเกมอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์ ต่อมาก็ได้ยินเสียงเธอพูดว่า "ก็แค่ชนะสิบตารวด เก่งตรงไหน"
มณิกาเล่นจบตาหนึ่งพอดี จึงถอดหูฟังออก หันไปเจอวายุที่ยืนอยู่หน้าประตู
การปรากฏตัวของเขา ทำให้เธอสะดุ้งตกใจ
เธอสะดุ้งจนใจเต้น ยื่นมือออกมาตบอกเบาๆ "ไม่รู้หรือไงโผล่มาอย่างนี้คนเขาตกใจเกือบตาย"
"ไม่ได้ทำเรื่องไม่ดี ก็ไม่เห็นต้องตกใจเลยนี่"
นิ้วมือเรียวยาวดั่งหยกของชายหนุ่มแกะกระดุมสูทออก นำมาห้อยตรงราวตากเสื้อ สายตาเย็นชาเหลือบมองมาที่มณิกา "หางานเป็นไงบ้าง?"
"งาน...เอ่อ.....ก็ยังหาเรื่อยๆ " สายตาของเธอวูบไหว รีบกดออกจากเกม แล้วลุกขึ้น "คุณจะทำงานไม่ใช่เหรอ งั้นฉันไม่กวนแล้ว บาย"
เธอรีบเร่งเดินออกไปจากห้่องหนังสือ ไม่อยากเสียเวลาคุยกับวายุให้มากความ
เมื่อมาถึงห้องรับแขก เธอก็นอนราบลงบนโซฟา เล่นโทรศัพท์เลื่อนหาอะไรดูอย่างไม่รู้สึกง่วง
เวลาตีสอง วายุเดินออกมาจากห้องหนังสือ ก็พบว่ามณิกากำลังนอนไถโทรศัพท์อย่างกะปี้กะเปร่า จึงเอ่ยถามขึ้นมาว่า "ทำไมยังไม่นอน?"
หัวคิ้วของชายหนุ่มขมวด "คุณนอนกลางวัน?"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า