คุณคือของขวัญจากฟ้า นิยาย บท 85

มณิกาคาดคิดไม่ถึงเลยว่าวายุจะให้เธอเข้าไปทำงานในสดุภากรุ๊ป

"ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น นี่เป็นความต้องการของคุณย่า"

สายตาที่ชายหนุ่มมองมาเต็มไปด้วยแววเอือมๆ กลัวว่าเธอจะคิดมากไปไกล

"ไม่ไปได้ไหม?"

เธอไม่อยากไปทำงานที่นั่นจริงๆ

กลางวันต้องเจอวายุที่บริษัท กลางคืนเลิกงานมาก็ยังต้องมาเจอวายุอีก มณิกาจินตนาการไม่ออกเลยว่าถ้าต้องใช้ชีวิตแบบที่ต้องเจอวายุที่ตามหลอกหลอนไปทุกที่ขึ้นมาจริงๆ ล่ะก็ มันจะน่ากลัวมากแค่ไหน

อีกอย่าง เธอรำคาญผู้ชายคนนี้มากๆ ด้วย

กลัวว่าพอได้เห็นหน้าบ่อยๆ แล้วจะอารมณ์ไม่ดีเข้า

ติ๊ง——

ในตอนนี้เอง ลิฟต์ก็เปิดออก วายุเดินก้าวยาวๆ ออกไปจากลิฟต์ ทิ้งคำพูดที่ส่งเสียงดังมาแต่ไกล "ไม่ได้"

คำตอบนี้ไม่เหลือช่องว่างให้โต้กลับอย่างไม่ต้องสงสัย

มณิกามองบนพร้อมลูบขมับ "บาปกรรมอะไรเนี่ย"

เมื่อเดินออกมาจากลิฟต์ ก็เห็นวายุขึ้นไปนั่งบนรถ โดยมีนภัทรประจำเบาะคนขับ ทว่าประตูเบาะหลังกลับเปิดค้างเติ่งเอาไว้อย่างนั้น

มณิการู้สึกว่าวายุต้องถูกนภัทรับใช้จนชินไปแล้วแน่ๆ ขนาดแค่จะปิดประตูยังต้องให้คนอื่นปิดให้ เธอจึงเดินเข้าไปเตือนด้วยความหวังดี "คุณยังไม่ปิดประตูรถ"

จากนั้นก็เธอก็ปิดประตูให้เขาจนเกิดเสียงดัง ทั้งยังโบกมือให้ "บาย"

พูดในใจว่า : นี่สินะที่เรียกว่าทดแทนคุณเมื่อท่านยาก

ตอนนี้ถ้าเอาตามเนื้อผ้าแล้ว ต่อให้เธอจะไม่ชอบหน้าวายุมากแค่ไหน แต่ก็ต้องรักษาสีหน้าให้นิ่งๆ เอาไว้ เพื่อไม่ให้ชายหนุ่มโกรธจนยึดห้องคืน

ค่าน้ำเอย ค่าไฟเอย ค่าส่วนกลางเอย หรือค่าอยู่ค่ากินอะไรพวกนี้ ล้วนแล้วแต่เป็นรายจ่ายที่ไม่ใช่จำนวนเงินน้อยๆ ทั้งนั้น

ถ้าหักได้เธอก็จะพยายามหัก

ส่วนเงินเก็บก็ส่งไปให้พ่อแม่ เพื่อให้พวกเขาได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น

อีกฟากกระจกกั้น เมื่อวายุเห็นประตูรถปิดลง สีหน้าพลันอึมครึมลงทันที

เมื่อนภัทรมองผ่านกระจกหลังเห็นเจ้านายหน้านิ่วคิ้วขมวด ก็เข้าใจอะไรบางอย่างขึ้นมาในทันที จึงกดเลื่อนกระจกลง เอ่ยพูดกับมณิกาว่า "คุณมณิกาจะไปไหนเหรอครับ? ขึ้นรถสิ ผมจะไปส่ง"

"แหะๆๆ ขอบคุณนะผู้ช่วยนภัทร แต่ว่าฉันไปเองดีกว่า"

ถ้าให้วายุรู้ว่าเธอไปทำงานที่บริษัทของเหนือเมฆ แบบนั้นก็จบเห่กันพอดีน่ะสิ

"เอ่อ....คือ....."

นภัทรพูดอะไรไม่ออก ไม่รู้ว่าควรไปต่ออย่างไรดี เขาเหลือบมองกระจกหลังอีกครั้ง มองบอสของตัวเองด้วยแววตาขอความช่วยเหลือ"

แต่ใครจะไปคิดว่าวายุจะเอ่ยเสียงเย็นออกมาแทน "ไปได้แล้ว"

"ครับ บอส"

นภัทรเลื่อนกระจกขึ้น สตาร์ทรถขับออกไป

ด้านมณิกาเดินออกไปทางลานจอดรถ

แม้ว่าลิฟต์ส่วนตัวของคอนโดจะไปถึงห้องโถงของคลับดิมไลท์ แต่ว่าเนื่องจากตอนนี้คลับยังไม่เปิด ประตูใหญ่ยังล็อกสนิท เธอไม่สามารถเดินออกทางประตูใหญ่ได้ ทำได้แค่เดินออกตรงชั้นหนึ่งไม่ก็ชั้นสอง

ซึ่งชั้นสองวายุออกได้แค่คนเดียวเท่านั้น เพราะว่าชั้นสองมีลานจอดรถส่วนตัวของเขา แถมยังมีคนขับรถส่วนตัวมารอเขาอีกด้วย

เธอนี่สิน่าอนาถของจริง

เมื่อเดินออกมาจากลานจอดรถชั้นใต้ดิน เธอก็ใช้โทรศัพท์สแกนคิวอาร์โค้ด แล้วขับจักรยานไปที่บริษัท

จนมาเจอเหนือเมฆที่ห้องทำงานของประธานบริษัท

ทั้งสองเอ่ยทักทายกันเล็กน้อย จากนั้นมณิกาก็เดินไปหาฝ่ายเลขาให้เลขาเริ่มสอนงานให้

ต้องทำความคุ้นเคยกับระบบบริษัทก่อนอันดับแรก แล้วจึงทำความเข้าใจลึกลงไปเกี่ยวกับความเป็นมาของบริษัทและภาพรวมรายได้ของบริษัทอีกที

ยุ่งเป็นพัลวันอยู่แป๊บๆ พริบตาเดียวก็พักเที่ยงแล้ว

ในตอนที่เธอกำลังก้มหน้าก้มตาทำงาน เสียงผิวปากก็ดึงความสนใจของเธอ จนเธอต้องเงยหน้าขึ้นไปมอง จึงเห็นเหนือเมฆยืนอยู่หน้าประตู มองมาที่เธอด้วยรอยยิ้มมุมปาก

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า