เมื่อเดินออกจากโรงจอดรถ มณิกาจึงเรียกรถไปยังบริษัทของเหนือเมฆทันที
เหนือเมฆกำลังรอมณิกาทางประตูด้านหน้าบริษัท เมื่อเห็นว่าเธอแต่งตัวด้วยสีเทาทั้งชุดและกำลังเดินมานั้น พลันเดินเข้าไปดักหน้าทันที "ณิกา ครั้งนี้ต้องพลอยลำบากคุณแล้วนะครับ"
เหนือเมฆรู้สึกผิดอยู่บ้าง และรู้สึกว่าการทำเช่นนี้มันผิดศีลธรรมเป็นอย่างมาก
แม้ว่าตัวเขาอยากจะไปศิศิรนครพร้อมกับมณิกามากก็ตาม แต่เรื่องที่บริษัทก็ไม่สามารถทิ้งไปได้เลย อีกทั้งชยธรพ่อของเขาก็ต้องไปที่ศิศิรนครเหมือนกัน สู้ให้มณิกาไปคนเดียว และให้ชยธรเริ่มเรียนรู้มณิกาใหม่อีกครั้งแล้วกัน
เชื่อมั่นว่าหลังจากได้เรียนรู้ผ่านมาครึ่งเดือนแล้ว ชยธรจะต้องยอมรับมณิกาได้อย่างแน่นอน
อย่างไรก็ตามก่อนหน้านี้ที่ชยธรเอาแต่รังเกียจที่มณิกาหน้าตาขี้ริ้วขี้เหล่มาตลอด ตอนนี้ฐานะที่แท้จริงของมณิกาก็ถูกเปิดเผยแล้ว ซึ่งใบหน้าสวยงามเหมือนกับธิกานต์ทุกประการ ใบหน้าอันมีเสน่ห์เย้ายวนใจ ถือว่าเพิ่มคะแนนมากขึ้นกว่าเดิม
"ไม่เป็นไรค่ะ ตอนนี้ฉันเป็นพนักงานของคุณ การบริการแก่บริษัท ถือว่าสมควรแล้วค่ะ"
มณิกาฉีกยิ้ม พร้อมทั้งแสดงท่าทางผ่อนคลายเป็นอย่างมาก
เหนือเมฆยืนอยู่ด้านหน้าเธอ พร้อมทั้งกอดเธอไว้แน่น
และดึงเธอมากอดแน่นในอ้อมกอด พลางกระซิบข้างหู "จะเฝ้าวันคุณกลับมา หลังจากกลับมาแล้ว ผมมีเซอร์ไพรส์ใหญ่ให้คุณครับ"
"เซอร์ไพรส์อะไรหรือคะ?"
มณิกาผลักเหนือเมฆออกเล็กน้อย ดวงตาเปล่งประกาย "ให้โบนัสฉันใช่ไหมคะ?"
เมื่อได้ยินว่า 'เซอร์ไพรส์' มณิกาคิดแค่เรื่องเงินเรื่องเดียว แถมทำหน้าคาดหวังอยู่ตลอดเวลา
ท่าทางตลกของเธอมันยิ่งทำให้เหนือเมฆถึงกลั้วหัวเราะปนยิ้มทันที "ใช่ครับ ฉลาดจริงๆ เลย"
การขอมณิกาแต่งงาน ย่อมต้องมีสินสอดอยู่แล้ว และเป็นสินสอดก้อนโต เธอต้องชอบมากอย่างแน่นอน
"น่าจะพูดตั้งแต่แรก คุณบอกกับฉันก่อน ฉันจะได้ไปตั้งแต่แรกแล้วแหละ ฮ่าๆๆ ..." มณิกาพูดอย่างอารมณ์ดี
"ทางขึ้นเขามันขรุขระลำบากอยู่นะครับ คุณต้องระมัดระวังตัวตลอดทางนะ"
เหนือเมฆพูดไป พร้อมทั้งชี้ไปยังรถบรรทุกคันเล็กที่อยู่ด้านข้าง "ในนั้นเป็นสิ่งของที่จัดเตรียมไว้ให้พวกเด็กในศิศิรนคร พวกเขาขับรถไป ส่วนผม จะจัดการเรื่องตั๋วเครื่องบินให้คุณ คุณนั่งเครื่องบินไปลงทางนั้น หลังจากลงเครื่องแล้ว จะมีคนมารับคุณไปยังศิศิรนคร"
เพราะว่าศิศิรนครอยู่ห่างจากเมืองจันทรามาก พวกเขาทำได้แค่นั่งเครื่องบินไปลงยังศิศิรนครสถานที่ใกล้เคียงที่สุด แล้วค่อยต่อรถไปยังศิศิรนครแทน
"ได้ค่ะ ฉันรู้แล้วค่ะ"
มณิกาพยักหน้า
"เมื่อไปถึงศิศิรนคร รถยนต์ไม่สามารถโดยสารเข้าไปได้แล้ว คุณต้องเดินเท้าลัดเลาะชายเขาขึ้นไป ต้องลำบากมากจริงๆ คุณต้องดูแลตัวเองให้ดีๆ นะครับ"
เหนือเมฆพูดกำชับซ้ำไปซำมาอย่างไม่วางใจอยู่หลายครั้งหลายหน
"โอ้โห ฉันรู้แล้วค่ะ ไม่มีอะไรหรอกน่า เชื่อฉันสิ"
เธอเลิกคิ้วขึ้น พลันยิ้มให้
ดังนั้น มณิกากับเหนือเมฆ และทีมเพื่อนร่วมงานที่ถูกส่งไปยังศิศิรนครด้วยกันต่างถ่ายรูปหมู่ด้วยกัน
จากนั้นรถบรรทุกจึงบรรทุกเพื่อนร่วมงานท่านอื่นออกเดินทางไปก่อน ส่วนเหนือเมฆขับรถไปส่งมณิกาที่สนามบิน
"โดยทางโดยสวัสดิภาพครับ"
เหนือเมฆกอดมณิกา "ถ้ามีเรื่องอะไรต้องติดต่อผมทันทีนะครับ"
เขามองเธอ นัยน์ตาไม่สามารถปกป้องความอาลัยอาวรณ์ไว้ไม่ได้
มณิกาเสยผมตัวเอง พลันยิ้มให้ "แค่ครึ่งเดือนไม่ใช่เหรอคะ ทำไมทำเหมือนจะลาไปตายแบบนั้นล่ะ พอแล้วค่ะ ไปแล้วนะ บาย"
เธอหันตัวและลากกระเป๋าเดินทางเดินไปแล้ว แทบไม่หันศีรษะกลับมาโบกมือให้กับเหนือเมฆเลยด้วยซ้ำ
เมื่อเดินเข้าไปในห้องผู้โดยสารขาออก และขึ้นเครื่องบิน พร้อมทั้งหาที่นั่งตามตำแหน่งที่ระบุไว้
เป็นตำแหน่งติดกระจก โชคดีที่สามารถมองเห็นวิวทิวทัศน์ด้านนอกได้
หลังจากนั่งเครื่องบินมาหลายชั่วโมงแล้ว เครื่องบินจึงเดินทางมาถึงเมืองปาณเสริฐ
มณิกาเพิ่งลงเครื่องบินมาจึงเห็นคนที่มารับเธอทางด้านหน้า พลันนั่งรถของเขา และนั่งไปจนถึงตีนเขาของศิศิรนคร และเธอเพิ่งลงจากรถเมื่อครู่นี้เอง
คนขับรถบอกกับมณิกาว่า "รถมาถึงได้แค่เท่านี้ จากจุดนี้ไปถึงศิศิรนครต้องใช้การเดินเท้าสี่ถึงห้าชั่วโมง น่าจะไปถึงที่ก่อนพลบค่ำครับ"
"ได้ค่ะ งั้นรีบออกเดินทางเลย เวลาก็ช้ามากแล้ว"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า