"ห๊า มีด้วยเหรอ? ดีจังเลย คุณรอฉันเดี๋ยว ฉันจะไปแปรงฟันก่อน ฉันยังไม่ได้กินคุณก็ห้ามกินนะ ได้ยินไหม"
มณิกามุดเข้าไปในเต็นท์ พร้อมทั้งควานหาแปรงสีฟันกับยาสีฟันในกระเป๋าของวายุอยู่สักพัก รวมถึงน้ำแร่ด้วย
สิ่งของเหล่านี้มณิกาก็มีนะ แต่น้ำในกระเป๋ามันเตรียมเอาไว้แค่วันเดียวเอง ซึ่งตอนเดินขึ้นเขาเมื่อคืนก็ดื่มหมดแล้ว
ใครจะไปรู้เพราะว่าฝนตกหนักเมื่อคืนจนทำให้ถูกกักตัวอยู่บนยอดเขาอีก?
หลังจากเธอรีบแปรงฟันอย่างรวดเร็วและรีบมานั่งข้างวายุ จังหวะที่หยิบช้อนและเตรียมตักโจ๊กนั้น จึงพบว่ามีแค่หม้อเดียว แต่มีช้อนสองคัน เธอเลิกคิ้วมองมาทางวายุ "งั้นคุณกินก่อนเลยไหม? คุณเป็นพวกรักความสะอาด ฉันเกรงว่าเดี๋ยวฉันกินแล้วคุณจะไม่ยอมกินต่อ"
มณิการู้ตัวอยู่แล้ว ว่าการต้มโจ๊กมันไม่ง่ายเลย แถมวายุยังลงเขาไปต้มโจ๊กโดยเฉพาะอีก
เธอถ้ากินโจ๊กก่อน มันจะไม่ยุติธรรมสำหรับเขา
"ถือว่าคุณยังใจดีอยู่นะ"
รอยยิ้มสีหน้าเบิกบานที่ประดับอยู่บนใบหน้าอันหล่อเหลาของวายุ พอโดนลมพัดเข้าหน่อย ผมหน้าม้าตรงหน้าผากก็ปลิวเล็กน้อย จนขลับความหล่อและมีเสน่ห์อย่างเหลือล้น
เขาหยิบช้อนขึ้นมา และกินไปสองสามคำ จากนั้นก็พูดออกมาประโยคเดียว "ไม่อร่อย ให้คุณหมดนี่แหละ"
พลางยื่นทั้งหม้อยกให้มณิกาทั้งหมด
มณิกามองแล้วมันยังเหลือโจ๊กเกินครึ่งหม้อด้วยซ้ำ จนต้องเลิกคิ้วโก่งดั่งใบหลิวขึ้น "ไม่อร่อยขนาดนั้นเชียว?"
พลันเอาช้อนตักขึ้นมาคำหนึ่ง เพื่อลองชิม "รสชาติก็ดีนี่ ก็เหมือนกับกินที่บ้านเลย ฉันว่านะ..."
มณิกาตกตะลึงทันที พลันเงยหน้ามองวายุ "หมายความว่า โจ๊กที่บ้านคุณเป็นคนทำเหรอ?"
แม้ว่ามณิกาจะทำกับข้าวเป็นก็ตาม แต่ก็พูดไม่ได้เลยว่า การได้กินโจ๊กที่อพาร์ทเม้นท์ทิวกาลหลายวันมานี้ รสชาติดีมาก
ขนาดโจ๊กเช้าของวันนี้ ทั้งหอมทั้งรสชาติหน้าตาดีมาก
มณิการู้ว่าเขาเอาวัตถุดิบมาด้วย แต่ก็ไม่เคยคิดเลยว่าวายุจะทำกับข้าวเป็นจริงๆ อีกอย่างอาหารเช้าทุกวันเขาก็เป็นคนลงมือทำเองทั้งหมดเลย
เธอจดจำได้ดีว่าเช้าบางวัน วายุกิน American Breakfast แต่กลับทำโจ๊กแยกให้เธอไว้หนึ่งชาม
"ทำไมคุณถึงดีกับฉันขนาดนี้ล่ะ?"
มณิกาเอนศีรษะมาหา พร้อมทั้งใช้สายตาไม่ประสงค์ดีประเมินวายุ "คุณคงไม่คิดอะไรที่ไม่ดีกับฉันใช่ไหม"
คำที่ 'ใจร้ายไส้ระกำ' มณิกาเป็นคนพูด
ทว่าสิ่งที่มณิกาเห็นนั้น กลายเป็น 'หว่านพืชหวังผล' แทนเสียนี่
ชายหนุ่มใช้สายตาอันเย็นชาเหลือบมองเธอ แต่กลับไม่ได้พูดอะไร และเดินเข้าเต็นท์ไปแทน
มณิกาเหลือบมองเธอโดยที่ไม่พูดไม่จา พลันเกิดความรู้สึกหดหู่ขึ้นมาดื้อ คงโมโหแล้วล่ะมั้ง?
เธอจัดการกินอาหารที่รังสรรค์ขึ้นมาอย่างไม่ง่ายเลยอย่างเชื่อฟัง พร้อมทั้งจัดการเอาน้ำเปล่าที่ยังเหลือจากการล้างหน้านั้นเอามาล้างหม้อ และค่อยเข้าไปในเต็นท์ และเอาหม้อเล็กๆ ใส่ถุงพลาสติก และจับยัดใส่ด้านในกระเป๋าเป้ของวายุทันที
พลันมองชายหนุ่มที่กำลังนอนตะแคงอยู่ แต่กลับไม่พูดไม่จา มณิกาเขยิบเข้าใกล้ และพาดตัวลงด้านหลังเขา พลางยื่นมือออกไปตีหัวไหล่ของเขา "นี่ อย่าขี้น้อยใจแบบนี้สิ แค่ล้อคุณเล่นเฉยๆ"
"คุณเดินนำหน้าไปก่อนเถอะ ผมขอนอนสักเดี๋ยว"
วายุหลับตาลง พร้อมทั้งพูดออกมาอย่างขี้เกียจ
"จะทำแบบนั้นได้ยังไงกัน ตอนนี้เราลงเรือลำเดียวกันแล้ว ต้องเดินหน้าไปด้วยกัน"
มณิกาส่ายหน้า เป็นการปฏิเสธทันที
"นี่ วายุ ฉันกำลังพูดกับคุณอยู่นะ"
"คุณไม่ได้ยินหรือไงกัน?"
"คุณไม่ได้หลับสักหน่อย ทำไมพูดด้วยแล้วทำไม่สนใจฉันสักนิด?"
"ไปกันได้แล้ว นอนอะไรต่ออีก ขึ้นเขาไปทำความดีกัน ไม่ใช่ให้คุณมานอนอยู่นะ รีบลุกสิ"
"นี่ วายุ ถ้าคุณไม่ยอมลุก ฉันจะกัดคุณเชื่อไหมล่ะ!"
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณคือของขวัญจากฟ้า