บทที่ 101 เฉินจื้อหลงจะขอโทษหรือ
เรื่องที่ลู่เฉินถูกเฉินจื่อหลงใช้อำนาจขับไล่ออกไปนั้นก็เป็นเรื่องขำขันในหัวข้อการพูดคุยของพวกเขาทันที
โดยเฉพาะอย่างยิ่งพ่อลูกตระกูลวังอีกทั้งจั่วชิงเฉิง จากเดิมพวกเขาก็มีความแค้นส่วนตัวกับลู่เฉินอยู่แล้ว บัดนี้เมื่อมองเห็นลู่เฉินที่อยู่ข้างหน้าพวกเขาถูกบ้านตระกูลเฉินดูถูกถากถางก็รู้สึกสะใจยิ่งนัก ใบหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความเยาะเย้ย
“ฉันคิดว่าแกจะมีความสามารถอะไรซะอีก ถึงได้กล้ามาสร้างความวุ่นวายในงานวันเกิดของคุณนายท่าน สุดท้ายก็ถูกเฉินจื่อหลงไล่กลับไปอยู่ดี!”
“นั่นน่ะสิขายหน้าจริงๆเลย ถูกเจ้าของงานไล่กลับออกไปรู้ถึงไหนอายไปถึงนั่น”
“ใช่ๆ ก่อนหน้านี้เขาพูดเองไม่ใช่เหรอว่าต้องให้หัวหน้าบ้านตระกูลเฉินออกมาก้มหัวขอโทษและให้คำตอบที่พอใจกับเขา ใครจะไปคิดกันละว่าเมื่อคุณชายใหญ่ออกมาพูดเพียงแค่ 2-3 คำ ก็ไล่เขากลับไปได้อย่างกับหมูกับหมา ไอ้กระจอกนั่นไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงกล้าทำอวดเบ่งในบ้านของเจ้าของงาน น่าอายจริงๆ”
เมื่อได้ยินผู้คนพูดถึงลู่เฉินแบบนั้นเฉินซานก็รู้สึกสะใจ
โดยเฉพาะอย่างยิ่งในตอนท้ายสุดที่เฉินจื่อหลงใช้อำนาจข่มขู่ ยิ่งทำให้เฉินซานรู้สึกภูมิใจยิ่งนัก เมื่ออยู่ต่อจั่วชิงเฉิงและวังชิจูพวกนั้น ทำให้เขายิ่งรู้สึกมีความมั่นใจเพิ่มมากขึ้น
แหม! อะไรกัน!
กล้าให้ฉันเอ่ยปากขอโทษ ไม่หัดตักน้ำใส่กะโหลกชะโงกดูเงาตัวเองเสียบ้าง!
เฉินซานทำการต้อนรับแขกผู้มาเยือนไป ในใจก็รู้สึกภาคภูมิใจไป
เพียงแต่......อีกไม่กี่วินาทีต่อมาใบหน้าที่ภูมิใจนั้นก็ต้องหุบลง
เมื่อเห็นเฉินกวงซิงเดินมากับลู่เฉินและพูดจากันอย่างสนุกสนาน
อีกทั้งสองคนเดินมาข้างๆกันโดยไม่มีใครเดินนำหรือเดินตาม นี่หมายความว่าอะไร?
นี่หมายความว่าในสายตาของเฉินกวงซิงนั้น22เป็นคนระดับเดียวกันกับเขานั่นเอง!
ผู้คนที่เห็นภาพเหล่านี้ก็พากันตกตะลึงและไม่อยากเชื่อ
ก่อนหน้านี้22ไม่ได้ถูกลูกชายคนโตของเฉินกวงซิงออกไปแล้วหรือ?!
ทำไมเฉินกวงซิงต้องออกไปเชิญเขากลับมาด้วย?
หากเป็นแบบนี้ ลู่เฉินคือใครกันแน่นะ? ทำไมหัวหน้าบ้านตระกูลเฉินอย่างเฉินกวงซิงจะต้องให้ความเคารพเขาเช่นนี้ด้วย?
วินาทีนั้นจั่วชิงเฉิงเองก็ยังแทบไม่เชื่อสายตาของตน
หากลู่เฉินมีความสัมพันธ์กับบ้านตระกูลเฉินจริง การที่เขาจะเล่นงานลู่เฉินก็เป็นเรื่องยากเสียแล้ว
สองพ่อลูกตระกูลวังเบิกตาโตกว้างเท่าไข่ห่าน พวกเขาไม่เชื่อในสิ่งที่สายตาตัวเองเห็นอยู่บัดนี้ โดยเฉพาะอย่างวังชิจู ในสมองของเขาสับสนวุ่นวาย ลู่เฉินคือใครกันแน่นะ? อีกทั้งยังนึกถึงสัญญาการยืมที่ได้เขียนไว้ก่อนหน้า!
เขารู้ดีว่าการที่ได้รับคำชื่นชมและนับถือจากเฉินกวงซิง ต้องไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไปแน่นอน
ตอนนี้เขาเองมีความรู้สึกหดหู่และสิ้นหวังมากที่ทำผิดต่อลู่เฉิน
“ท่านหัวหน้าตระกูลครับ เจ้านี่มันไม่มีหนังสือเชิญอีกทั้งบอกว่าจะรื้อถอนสวนว่านโส้ของเราเสีย แล้วยังทำร้ายร่างกายบอดี้การ์ดของเราตั้งหลายคน ชัดเจนว่าเขาไม่เห็นบ้านตระกูลเฉินของเราอยู่ในสายตา อ้อใช่แล้วครับ ก่อนหน้านี้คุณชายใหญ่ได้ไล่เขาออกไปทีหนึ่งแล้ว”
เมื่อเห็นเฉินกวงซิงเดินมาพร้อมกับลู่เฉิน เฉินซานเองก็ตกใจเป็นอย่างยิ่ง แต่เขาก็พยายามระงับสติอารมณ์แล้วรายงาน
“เพียะ!!!”
เฉินกวงซิงไม่พูดอะไรเขาตบเข้าไปที่หน้าของเฉินซานอย่างแรง
เฉินซานไม่ทันได้ตั้งตัว เขาได้ยินเสียงอันเยือกเย็นมาจากเฉินกวงซิงว่า “เฉินซาน บ้านตระกูลเฉินของเราดีต่อคุณมากไม่ใช่หรือ?”
“ครับ ใช่ครับท่านหัวหน้าตระกูล ทำไมถึงพูดเช่นนี้กัน ถ้าในตอนนั้นนายท่านไม่ได้ให้ข้าวแก่ผมมื้อนั้นผมก็คงจะตายอยู่ข้างถนนเสียแล้ว ผมเฉินซานรู้จักทดแทนบุญคุณคน ชีวิตนี้จะจงรักภักดีต่อบ้านตระกูลเฉินอย่างเดียวเท่านั้น” เฉินซานได้สติกลับมาและเอ่ยออกไปด้วยความขมขื่น
“ในเมื่อรู้ว่าบ้านตระกูลเฉินของเราดีต่อแกมาก ทำไมถึงได้ดูถูกแขกของเราแบบนี้” เฉินกวงซิงพูดด้วยความโมโห
“ท่านครับ เป็นเพราะเขา ไม่ใช่ คือ......” เฉินซานสีหน้าซีดเซียวลงไปทันทีทันใดและไม่รู้จะอธิบายอย่างไร
เนื่องจากเขาเห็นแล้วว่าในสายตาของเฉินกวงซิงนั้นลู่เฉินอยู่ในตำแหน่งที่สูงส่งเพียงใดไม่ว่าเขาจะพูดอย่างไรก็ไม่มีประโยชน์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์