อ่านสรุป บทที่ 120 จางดาวเรนแอบสืบข้อมูล จาก คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
บทที่ บทที่ 120 จางดาวเรนแอบสืบข้อมูล คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต คุณพ่อสายเปย์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลู่ลู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 120 จางดาวเรนแอบสืบข้อมูล
จางดาวเรนมองไปยังลู่เฉินแล้วยิ้มออกมา มองไม่ออกว่าเขาอยากจะฆ่าลู่เฉิน
คุณชายทั้งสี่ล้วนมีความสามารถทุกคน แม้กระทั่งจางดาวเรนที่มีชื่อเสียงย่ำแย่ที่สุดก็ตาม เขามีแผนการต่างๆในใจมากมายนัก
“อ้อ คุณชายใหญ่บ้านตระกูลจางนี่เอง ผมชื่อลู่เฉินนะครับ วันนี้ผมดีใจมากที่ได้ร่วมโต๊ะเดียวกับอาจารย์ทั้งสามท่าน”
ด้านอื่นๆลู่เฉินอาจไม่ได้เก่งมากนัก แต่เรื่องการมองคนเขาไม่เป็นรองใคร
เมื่อเห็นแววตาของจางดาวเรนนั้นเขาก็รู้ทันทีว่าจางดาวเรนกำลังสืบหาข้อมูลเขาอยู่
หากไม่เกิดเหตุการณ์ที่บ้านตระกูลเฉินในวันนั้น เขาอาจจะไม่คิดอะไรมาก
แต่การพบกันครั้งที่แล้วเขาทำให้บ้านตระกูลจางอับอายขายหน้า อีกทั้งทำให้ตระกูลจางสูญเสียเกาะสีเขียวไป หากจางดาวเรนยังอยากเป็นเพื่อนกับเขาก็แปลก
หากไม่ได้ต้องการเป็นมิตร ก็คงต้องเป็นศัตรู
ลู่เฉินจะยอมให้เขาสืบค้นข้อมูลง่ายๆได้อย่างไร
“แซ่ลู่งั้นเหรอ ผมรู้จักแค่เศรษฐีลู่ หรือคุณจะเป็นคนในตระกูลของเศรษฐีลู่งั้นเหรอ?” จางดาวเรนพูดแล้วแกล้งทำเป็นตกใจ ท่าทางของเอาดูไม่สมเหตุสมผล
เฉินเสี่ยวปิงและเฉินจือหรานดวงตาลุกวาว
เมื่อจางดาวเรนพูดเช่นนั้น พวกเธอจึงนึกได้
หากลู่เฉินมีดีแค่กังฟูการต่อสู้ คุณปู่ของเขาอีกทั้งหัวหน้าตระกูลจะให้ความเคารพชื่นชมได้อย่างไรกัน
เขาต้องมีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐีลู่แน่นอน
หรือว่า......
เขาจะเป็นลูกชายของเศรษฐีลู่กัน?!
สมองของพวกเธอประมวลผลและคิดว่าคงจะใกล้เคียงความจริงเข้ามาแล้วแน่ๆ
“เมื่อห้าร้อยปีก่อนอาจจะเป็นครอบครัวเดียวกันก็ได้นะครับ” ลู่เฉินฝืนยิ้มอยู่ในใจ เมื่อสิบปีก่อน กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยเป็นผู้พัฒนายวี่โจวขึ้นมา ลู่เฉินจึงกลายเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งแห่งยวี่โจว แม้ กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยจะยุบตัวลงพักหนึ่งแล้ว แต่เมื่อทุกคนได้ยินแซ่ลู่ก็มักจะนึกถึงลู่จงนั่นเอง
เรื่องนี้เขาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไรเหมือนกัน
เนื่องจากไม่ใช่แค่คนสองคนที่คิดว่าเขากับลู่จงเป็นครอบครัวเดียวกัน เขาเชื่อว่ามีคนไม่น้อยคิดว่าเขาเป็นลูกชายลู่จง
แต่พวกเขาจะไปคาดคิดได้อย่างไร
ว่าเศรษฐีลู่ที่ทุกคนรู้จักนั้น เป็นเพียงผู้ดูแลของบ้านตระกูลลู่เท่านั้น เขายังต้องเรียกลู่เฉินว่าคุณชายอีกด้วย
“แหมคุณลู่นี่ขี้เล่นจริงๆนะครับ” จางดาวเรนพูดออกมาอย่างไม่ค่อยเชื่อ
“ผมก็พอมีหลักฐานอยู่บ้างนะครับ ลู่เฉินไม่มีความเกี่ยวข้องกับเศรษฐีลู่จริงๆ” หวงยาวจุนพูดแล้วหัวเราะออกมา
“หืม?” จางดาวเรนค่อนข้างตกใจ เขาจำได้ว่าตระกูลเฉินให้ความเคารพต่อลู่เฉินมาก พวกเขาจะไม่มีความเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร
นอกจากลู่จงแล้ว เขานึกไม่ออกจริงๆว่ามีคนแซ่ลู่คนไหนอีกที่มีหน้ามีตาในยวี่โจว
“ลู่เฉินเป็นลูกเขยของเพื่อนของผมคนหนึ่ง หากเขามีความเกี่ยวข้องกันกับเศรษฐีลู่ละก็ เพื่อนของผมคนนั้นคงจะมีชีวิตการเป็นอยู่ที่ดีกว่านี้สิครับ” หวงยาวจุนยิ้มออกมา
“ก็จริงอยู่ครับ” จางดาวเรนพยักหน้าและรู้สึกว่าที่หวงยาวจุนพูดมาก็มีเหตุผล
เพียงแต่หวงยาวจุนทำให้เขาตาสว่างขึ้นมาว่า หากตรวจสอบข้อมูลของเขาไม่พบ ก็น่าจะลองตรวจสอบดูจากบ้านพ่อตาของเขาดู
แน่นอนว่าเขาไม่กล้าเอยถามหวงยาวจุนเกี่ยวกับเรื่องพ่อตาของลู่เฉินโดยตรง ทำได้เพียงรอสักครู่ค่อยถาม
“ลู่ เอ่อ คุณลู่คะ คุณแต่งงานแล้วเหรอ?” เฉินเสี่ยวปิงเอ่ยถามขึ้นมา เธอรู้สึกผิดหวังเล็กน้อย แต่ก็ถามออกไปด้วยความไม่เชื่อ
ลู่เฉินและอีกที่เหลือก็มองไปเช่นกัน พวกเขาพบว่าที่โต๊ะนั้นล้วนเป็นผู้มีอำนาจสูงสุดทุกคน
ผู้ว่าราชการเซ่ซูเจี๋ยหัวหน้าตระกูลใหญ่ทั้งสี่ อีกทั้งผู้มีบทบาทสำคัญในเมืองใหญ่ ล้วนเป็นผู้ที่มีอำนาจแทบจะกำยวี่โจวไว้ในมือก็ว่าได้
หากคนทั่วไปได้ร่วมโต๊ะกับพวกเขาคงจะดีใจจนลอยแน่ๆ
ลู่เฉินเห็นว่าเฉินกวงซิงมองมาทางเขา จึงได้แต่ยิ้มให้แล้วรีบหันหน้าหนี
ในวันนี้เขามีธุระ ไม่อยากใกล้ชิดกับคนพวกนั้นมากเกินไป
หากเป็นตามปกติแล้ว เขาคงจะเดินเข้าไปดื่มให้สักแก้ว
ไม่ว่าจะเป็นเฉินกวงซิง หรือเซ่ซูเจี๋ยอีกทั้งคนอื่นๆล้วนรู้จักเขาดี เนื่องจากเทคโนโลยีอี้ฉีของเขายังต้องการความช่วยเหลือสนับสนุนจากบุคคลเหล่านี้อยู่
“พ่อผมอยู่ที่นั่น ผมจะไปดื่มให้กับพวกเขา” จางดาวเรนพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ
ในฐานะผู้สืบทอดตระกูลจางคนหนึ่ง หัวหน้าบ้านตระกูลจางจางซิงฉวนก็อยู่ที่นั่นด้วย ใครจะสงสัยคำพูดของเขากัน
อีกทั้งผู้คนรอบยังรู้สึกอิจฉาจางดาวเรนขึ้นมาทันใด
แม้จะเป็นลูกชายของผู้สืบทอดสกุล ก็ไม่ใช่ว่าจะได้ร่วมโต๊ะดื่มกับบุคคลเหล่านี้ง่ายๆ
“จือหราน อาจารย์ทั้งสาม พวกคุณเชิญดื่มกันไปก่อน ผมขอตัวไปดื่มให้กับท่านเซ่ซูเจี๋ยก่อนนะครับ แล้วจะกลับมาใหม่” จางดาวเรนรู้สึกชื่นชมกับสายตาที่พวกคนอื่นๆมองมาอย่างชื่นชมมาก เขาจึงได้พูดออกมาอย่างอวดเก่ง
พวกหวงยาวจุนก็พยักหน้า ในใจนึกอิจฉาเขาจริงๆ
แม้พวกเขาจะอายุมากแล้ว แต่ก็แอบหวังว่าสักวันจะได้ร่วมดื่มกับเซ่ซูเจี๋ยบ้างสักครั้งหนึ่ง
บรรดาผู้คนทั้งหลายต่างพากันชื่นชมและอิจฉาจางดาวเรน แต่จางดาวเรนยังไม่ทันเดินเข้าไปใกล้โต๊ะนั้น ก็พบว่าผู้เป็นพ่อส่ายหัวมาทางเขา เขาเข้าใจความหมายของผู้เป็นพ่อดี จึงได้แต่ถอยออกมาอย่างน่าเสียดาย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์