บทที่ 16 ประชุมผู้บริหาร – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์
ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 16 ประชุมผู้บริหาร จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 16 ประชุมผู้บริหาร
พนักงานบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียทุกคนล้วนรอคอยวันศุกร์ที่กำลังจะมาถึงนี้ พวกเขาจะได้พบเจอและร่วมประชุมกับผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่
ซึ่งทำให้พนักงานทุกคนตื่นเต้นและตั้งตารอ
ก่อนที่วันจริงจะมาถึง พนักงานบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียได้จินตนาการถึงผู้ถือหุ้นใหญ่รายใหม่ไปต่างๆนานา
บางคนพูดว่าเป็นมหาเศรษฐีจากเมืองอื่น
บ้างว่าเป็นเจ้าของธุรกิจอันดับต้นๆของเมืองยวี่โจว
กระทั่งบางคนพูดว่าเป็นทายาทเศรษฐีจากเมืองหลวง ต้องการพัฒนาความสามารถจึงได้เดินทางมาซื้อหุ้นที่ยวี่โจวนี้
แน่นอนว่าพนักงานสาวให้ความสำคัญกับหัวข้อนี้มาก โดยเฉพาะสาวโสด
ผู้ถือหุ้นรายใหม่จะเป็นคนยังไงกัน?
นอกจากเสี้ยจุนและเลขาของเขาแล้วไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน
ห่างจากเวลาประชุมอีกไม่ถึงหนึ่งชั่วโมง ฟ่านหมิงจัดแจงแต่งกายอย่างเรียบร้อย มองดูแล้วช่างน่าเชื่อถือไม่ต่างกับหนุ่มๆอายุยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปดปี
เขาทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้หลินอี้จุนขึ้นมาแทนที่
และเพื่อจัดการลู่เฉินต่อหน้าเสี้ยจุนได้อย่างง่ายๆ
ในวันนี้เขาจะต้องทำให้ผู้ถือหุ้นรายใหม่ประทับใจในตัวเขาให้ได้
เขาต้องได้รับความไว้วางใจจากผู้บริหารคนนี้ให้เร็วที่สุด
“หัวหน้าหลินครับ ใกล้ถึงเวลาที่ผู้ถือหุ้นรายใหม่จะเดินทางมาถึงแล้ว พวกเราไปกันเถอะ” ฟ่านหมิงพูดกับหลินอี้จุนด้วยสายตาเจ้าเล่ห์
“ค่ะ” หลินอี้จุนพยักหน้าตอบรับ เธอหยิบแผนงานโครงการวิลล่าทะเลสาบจิงหลง และเดินตามฟ่านหมิงไปยังห้องประชุม
เธอเองก็สนใจเรื่องผู้ถือหุ้นรายใหม่อยู่ไม่น้อย
เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากห้องทำงาน ก็พบลู่เฉินเดินออกมาจากลิฟต์
เมื่อหลินอี้จุนเห็นเขาในที่ทำงานอีกครั้งก็เชื่ออย่างสนิทใจว่าเขายังทำงานรักษาความปลอดภัยอยู่ที่นี่
แต่ตอนนี้เธอก็ได้เลื่อนขั้นเห็นหัวหน้าแล้ว และการประชุมกำลังจะเริ่มขึ้นในไม่ช้า เธอไม่มีเวลามาใส่ใจเรื่องของลู่เฉิน ได้แต่มองไปที่เขาแวบหนึ่งแล้วเดินจากไป
แต่ฟ่านหมิงกลับหยุดอยู่ตรงนั้น
เหตุการณ์ที่ถูกลู่เฉินจัดการที่โรงพยาบาลในวันนั้นเขายังจำได้ขึ้นใจ รวมถึงที่ถูกเสี้ยจุนบังคับให้ขอโทษลู่เฉินต่อหน้าทุกคนนั่นด้วย หลังจากวันนี้เขาจะได้มีโอกาสแก้แค้นเสียที
“มีธุระ?” ลู่เฉินเลิกคิ้วถามฟ่านหมิงที่ยืนอยู่ตรงหน้า
“เจ้าหนู ทำเป็นอวดดีอะไร?” ฟ่านหมิงพูด
ลู่เฉินยักไหล่ เขารู้ดีว่าที่ฟ่านหมิงมาขวางทางเขาไว้ด้วยเหตุผลอะไร แต่ฟ่านหมิงไม่ใช่คนที่เขาจะต่อกรด้วยจึงไม่จำเป็นต้องสนใจ
“รู้ไหมว่าวันนี้วันอะไร?” เขายิ้มเยาะเย้ยลู่เฉิน
“วันอะไร?” ลู่เฉินถามด้วยความประหลาดใจ
"วันนี้เป็นวันที่ผู้ถือหุ้นรายใหม่เข้ารับตำแหน่ง นั่นหมายความว่าเสี้ยจุนจะไม่ได้เป็นผู้มีอำนาจตัดสินใจของบริษัทอีกต่อไป หากปราศจากการเสี้ยจุน อยากรู้นักว่าใครจะคอยปกป้องแกได้อีก" ฟ่านหมิงพูด
“อ่อเหรอ แล้วไง?” ลู่เฉินแกล้งทำเป็นถามต่อ เขาไม่คิดว่าฟ่านหมิงจะมีความคิดเช่นนี้
“ต่อจากนั้นฉันจะเอาคืนทุกอย่างที่แกเคยทำเอาไว้ คิดว่าคนอย่างแกจะทำให้ฉันต้องอับอายต่อหน้าผู้คนโดยเปล่าๆงั้นเหรอ คอยดูเถอะฉันจะทำให้แกต้องก้มกราบขอโทษไร้ศักดิ์ศรีเหมือนขยะชิ้นหนึ่งต่อหน้าทุกคน” ฟ่านหมิงพูด
ลู่เฉินมองฟ่านหมิงเหมือนคนบ้าคนหนึ่ง เขาใช้มือปัดฟ่านหมิงไปทางอื่นแล้วเดินจากไป
“ไอ้หนู ถึงแม้เสี้ยจุนจะยังคงปกป้องแกอยู่ตอนนี้ แต่รอเมื่อไหร่ที่ฉันได้รับความไว้วางใจจากผู้ถือหุ้นรายใหม่นี้ ฉันก็สามารถเล่นงานแกได้ง่ายๆเช่นกัน!”
เมื่อได้ยินดังนั้นลู่เฉินได้หยุดลง เขาหันหลังกลับไปมองฟ่านหมิง
แล้วส่งยิ้มให้
สำหรับเขาแล้วนี่มันช่างเป็นคำพูดที่ตลกที่สุดที่เขาเคยได้ยินมาทีเดียว
ฟ่านหมิงจะเอาใจตัวเขาในฐานะผู้ถือหุ้นใหม่เพื่อเล่นงานตัวเขาในตอนนี้ นี่มัน...จะให้เขาพูดอย่างไรดี
“อ้อ งั้นขออวยพรให้คุณทำสำเร็จนะครับ” ลู่เฉินหัวเราะเดินจากไป
พนักงานชายคนนั้นยิ้มอย่างไม่ได้ใส่ใจ เพราะเขาก็รอคอยวันนี้มานานเหมือนกัน
ตำแหน่งของฟ่านหมิงนั้นถือว่าเป็นผู้จัดการก็จริง แต่ในมือเขามีข้อมูลลูกค้าต่างๆมากมาย เสี้ยจุนเองก็ให้ความสำคัญกับเขาอยู่ไม่น้อย
ดังนั้นพนักงานพวกนี้จึงคิดว่าเขาจะเคยเห็นผู้ถือหุ้นใหญ่นี้บ้าง
“เป็นใครงั้นเหรอ อีกเดี๋ยวก็ได้เห็นกันละ” ฟ่านหมิงยิ้มตอบ
พนักงานสาวมองเขาด้วยหางตา ส่วนพนักงานชายมองเขาด้วยความเบื่อหน่าย
พวกเขารู้สึกว่าฟ่านหมิงเองก็คงไม่รู้เหมือนกัน
อีกไม่ถึงสิบนาทีผู้ถือหุ้นรายใหม่ก็จะเดินทางถึงแล้ว ถึงตอนนั้นทุกอย่างก็จะถูกเปิดเผยไม่มีอะไรต้องปิดบัง
“ได้ยินมาว่าผู้ถือหุ้นรายนี้มีหุ้นในมือกว่าเจ็ดสิบเปอร์เซ็นต์ ถ้าเป็นอย่างนี้เสี้ยจุนคงจะต้องตกจากตำแหน่งประธานกรรมการแล้วละ”พนักงานสาวคนหนึ่งพูด
“มันแน่นอนอยู่แล้ว ถ้าเขาไม่อยากได้ตำแหน่งประธานกรรมการ จะจัดประชุมวันนี้ทำไมกัน” พนักงานชายคนหนึ่งพูดขึ้น
“เฉินจุน คุณจะเอายังไงกับฉันกันแน่เนี่ย?” เธอมองเขาด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
“อะไร ก็คุณพูดหลุดปากออกมาเอง จะมาโทษผมได้ยังไง” พนักงานที่ชื่อเฉินจุนขำขึ้น
“พวกคุณทางที่ดีเงียบๆหน่อยนะ อีกเดี๋ยวถ้าผู้ถือหุ้นรายใหญ่มาได้ยินเข้าจะทำยังไง?เขามาทำงานวันแรกก็เห็นพนักงานเป็นแบบนี้จะคิดยังไง?” ฟ่านหมิงเตือนขึ้น
เขาต้องทำตัวดีต่อหน้าเจ้านายใหม่คนนี้ แต่เมื่อเห็นเพื่อนร่วมงานพูดกันอย่างสนุกสนานก็อดไม่ได้ที่จะตำหนิ
ทั้งสองตำแหน่งไม่สูงเท่าฟ่านหมิง จึงได้แต่เงียบเสียงลง แม้ว่าในใจจะไม่พอใจเท่าไหร่แต่ก็เงียบลงในที่สุด
ทุกคนนั่งเงียบรอการมาเยือนของผู้ถือหุ้นรายใหญ่คนใหม่
“มาแล้ว มาแล้ว” พนักงานคนหนึ่งที่นั่งติดประตูพูดขึ้น
ทุกคนมองไปที่ประตูทางเข้าห้องประชุม
พวกเขาเห็นเสี้ยจุนเดินตามชายหนุ่มคนหนึ่งเข้ามา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์