บทที่162 หลี่ชิงเฉิง
ประเด็นที่เทคโนโลยีอี้ฉี บริจาคเงิน 200ล้านหยวน ในเมืองไม่ได้มีการเปิดเผยเรื่องนี้ต่อสาธารณะและไม่ได้รั่วไหลไปถึงสี่ตะกูลใหญ่ ดังนั้นโลกภายนอกจึงคิดว่าเทคโนโลยีอี้ฉี ไม่มิเงินบริจาค
ที่จริงแล้วเทคโนโลยีอี้ฉีมีเงินบริจาคเยอะมาก เซ่เว่ยเหา อยากเซอร์ไพรส์ลู่เฉิน แต่คิดไม่ถึงว่าจะทำให้คนจำนวนมากเกิดความไม่พอใจ
เมื่อเรื่องนี้ทวีความรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ ก็มีคนจำนวนมากด่าทอต่อว่าผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี หลินอี้จุนมองใบหน้าอันเฉยเมยของลู่เฉิน ในใจก็ยังชื่นชมที่เขายังใจเย็นได้
แต่ทว่า ในใจของเธอก็ยังคงสงสัยเล็กน้อย ลู่เฉินขอให้ซูเปอร์มาร์เก็ตของเธอบริจาค แล้วยังให้บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียบริจาคอีก แต่ทำไมไม่ให้เทคโนโลยีอี้ฉี บริจาค
หรือว่าเขากลัวคนจะเดาตัวตนที่แท้จริงของเขาได้?
หลินอี้จุนมีบางอย่างไม่ค่อยเข้าใจ ทั้งที่ลู่เฉินเป็นผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี แท้ๆ แต่ทำไมถึงไม่อยากให้คนอื่นรู้ตัวตนของเขา เขาไม่สนใจในชื่อเสียงสักนิดเลยเหรอ ไม่สนใจความเคารพยำเกรงและความอิจฉาของผคนอื่นที่จะมีต่อเขาบ้างเหรอ
แต่ถึงคุณจะไม่สนใจสิ่งเหล่านี้ ไม่อยากให้ใครรู้ตัวตนของคุณ แต่อย่างน้อยคุณก็ควรบริจาคบ้างเล็กน้อย
การบริจาคเพื่อการกุศลแบบนี้มักจะถูกคนอื่นใช้ศิลธรรมเพื่อทำสิ่งที่ผิด เขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ลู่เฉินคิดอะไรอยู่กันแน่
ในสายตาของเธอ ถึงแม้ว่าลู่เฉินจะเคยล้มเหลวมาแล้ว แต่คงไม่ถึงขนาดที่ว่ามองข้ามจุดไป
ถึงแม้ว่าในใจของหลินอี้จุนจะสับสนขนาดไหน แต่เธอก็ไม่ได้พูดออกมา
"ผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี เป็นคนใจดำจริงๆ ภัยพิบัติแบบนี้ ชาวต่างชาติคนอื่นเขาก็ช่วยกันบริจาค แต่เขา เงินเพียงนิดเดียวก็ไม่บริจาค เสียศักดิ์ศรีจริงๆ " หลานหลินพูด
" ใช่ ฉันคิดว่าผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี ตะหนี่เกินไปแล้ว คุณชายลู่ คุณคิดว่ายังไงบ้าง? " เฉินจือหรานจงใจหันไปถามลู่เฉิน
"ใช่แล้ว เขาตระหนี่จริงๆ มีผู้ประกอบการบางคน ถ้าฉันเป็นเขา ฉันจะบริจาคไปเลย 200 ล้าน อย่างน้อยฉันก็จะได้สร้างชื่อเสียงให้กับบริษัทด้วย ว่าไหม? " ลู่เฉินพูดพร้อมกับก็พยักหน้า
ได้ฟังที่ลู่เฉินพูดแล้ว เฉินจือหรานก็รู้สึกผิดหวัง ตอนแรกเธอสงสัยว่าลู่เฉินคือผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉี แต่คำพูดเหล่านี้ของลู่เฉินทำให้สิ่งที่เธอสงสัยกระจ่างขึ้น
หลินอี้จุนก็สงสัย ลู่เฉินสามารถที่จะพูดสิ่งที่เขาพูดออกมาเมื่อกี้ได้ แต่ทำไมเขาถึงไม่บริจาค?
"ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีอี้ฉี จะยังไม่เปิดตัวอย่างเป็นทางการก็ตาม แต่ถือว่าเป็นดาวเด่นของยวี่โจวปีนี้เลยก็ว่าได้ อีกทั้งยังมีอำนาจกว่าธุรกิจยักษ์ของสี่ตะกูลใหญ่ แต่ทว่าการตัดสินใจของผู้บริหารเทคโนโลยีอี้ฉีครั้งนี้ ทำให้ฉันรู้สึกผิดหวังมากจริงๆ " ผู้หญิิงที่อยู่ข้างๆคนหนึ่งพูดขึ้น
ผู้หญิงคนนั้นอายุราวๆยี่สิบเจ็ดยี่สิบแปด หน้าตาดี แต่งตัวเป็นทางการและใส่แว่นตาขอบสีทอง มองแว๊บแรกไม่คิดว่าจะเป็นนักธุรกิจ แต่ดูแล้วเธอน่าจะมีความรู้ไม่น้อย
หลายๆคนต่างพยักหน้าเห็นด้วยกับผู้หญิิงคนนั้น
"คุณชายลู่ ครั้งนี้ซุปเปอร์มาร์เก็ตของคุณบริจาคไปเท่าไหร ? ถ้าติดหนึ่งในสิบละก็ สื่อคงจะตีพิมพ์ และผลที่ตามมาต้องดีกว่าโฆษณาแน่นอน " เฉินจือหรานหันไปเปิดประเด็ดกับลู่เฉิน
"บริจาคไปไม่เท่าไหรหรอก ก็เป็นส่วนหนึ่งเท่าที่จะช่วยได้" ลู่เฉินหัวเราะ เขาไม่รู้จะบอกคนอื่นยังไงว่าเขาบริจาคเงินให้ซุปเปอร์มาร์เก็ตของตัวไป 100ล้าน เหมือนกำลังดึงครอบครัวเฉินของพวกคุณลงน้ำ ดูคุณพ่อคุณสิ วันนี้เจอพวกเราแล้วดูเหมือนท่านจะไม่ค่อยพอใจเท่าไหร
ถ้าหากไม่ถูกลู่เฉินเล่นตลกไปแล้วครั้งหนึ่ง เวลานี้เฉินกวงซิงคงมาคุยกับลู่เฉินตั้งนานแล้ว
เฉินกวงซิงรู้แล้วว่าลู่เฉินมา และครั้งก่อนที่ลู่เฉินระดมเงินบริจาคได้มากกว่า 100 ล้านทำให้เขารู้สึกไม่พอใจเท่าไหร
"ไม่ทราบว่าน้องลู่คนนี้เปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตอะไรกันนะ" สาวสวยที่ดูมีความรู้คนนั้นถามลู่เฉิน
ดูๆแล้วลู่เฉินก็น่าจะอายุประมาณยี่สบสี่ยี่สิบห้า เด็กอายุยี่สิบกว่าสามารถที่จะเปิดซุปเปอร์มาร์เก็ตที่บริจาคเงินได้เป็นล้านแบบนี้ ถ้าไม่ขอความช่วยเหลือจากครอบครัว ก็นับว่าเก่งมากเลยทีเดียว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์