บทที่ 214 หาบอดี้การ์ดให้ฉีฉี
ลู่เฉินไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่เมื่อเห็นวังเฉียงแววตาเป็นประกายเช่นกัน ก็รู้ว่าเธอคงอยากจะไปดูด้วย
“โอเค ถ้าอย่างนั้นเธอสองคนมาทำงานพรุ่งนี้นะ” ลู่เฉินพยักหน้าและให้ทั้งสองขึ้นรถมา
เขาโทรหาหลินอี้จุนแล้วบอกว่าจะรอเธอที่หน้าทางเข้าคฤหาสน์ ให้เธอไปที่คฤหาสน์ทะเลสาบจิงหลงได้เลย
คฤหาสน์ที่โซนทะเลสาบจิงหลงนั้นเป็นโครงการที่กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยสร้างขึ้นสำหรับมหาเศรษฐี มีพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร รอบสี่ทิศมีกำแพงสูงประมาณ 6 เมตรล้อมรอบดูให้ความปลอดภัย
ณ บริเวณคฤหาสน์มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับประกันความปลอดภัยและทรัพย์สินของผู้ที่อยู่ในคฤหาสน์นี้
ที่ประตูใหญ่ก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาการอยู่ประมาณ 4-5 คน คนที่สามารถเข้าไปได้คือคนที่อาศัยอยู่ในโซนคฤหาสน์เท่านั้น หากไม่ใช่ เจ้าของหรือบุคคลที่อยู่ในคฤหาสน์จะต้องออกมารับด้วยตนเอง กฎเกณฑ์ทุกอย่างเป็นไปอย่างเคร่งครัด
นอกเหนือจากหลังที่ลู่เฉินให้เก็บเอาไว้แล้ว หลังอื่นๆก็ถูกซื้อไปตั้งแต่เปิดโครงการ
เพียงแต่ตกแต่งภายในไม่เสร็จ จึงยังไม่มีคนมาเข้ามาอยู่
ลู่เฉินยืนรออยู่ที่ด้านหน้ากว่า10นาที ในที่สุดหลินอี้จุนก็ขับรถมาถึง
“คุณชายลู่ครับ” เนื่องจากลู่เฉินเคยเดินทางมาหลายครั้งแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จริงรู้จักเขาดี เมื่อเห็นเขาลดกระจกและแตะบัตรเข้า เจ้าหน้าที่อยู่เวรก็ลุกขึ้นทักทายเขา
หลินอี้จุนเองก็มีบัตรใบหนึ่ง ลู่เฉินเพิ่งให้เธอมาเมื่อกี้
รถ1คันต่อบัตร1ใบ เฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในนี้เท่านั้นจึงจะมีบัตรได้
ลู่เฉินพยักหน้าและขับรถเข้าไปด้านใน
คฤหาสน์หลังที่เขาเก็บเอาไว้นั้นติดกับทะเลสาบบนยอดเขา พื้นที่ใช้สอยกว่า1000ตารางเมตร เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่เลยทีเดียว
ที่คฤหาสน์ของเขามีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะ กำแพงไม่สูงมากเนื่องจากมีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงจึงไม่ต้องกังวล
ลู่เฉินกดรีโมท เมื่อประตูอัตโนมัติเปิดขึ้นเขาจึงขับรถเข้าไป
หลังลงจากรถไม่ว่าหลินอี้จุน หลินอี้เจียหรือวังเฉียงก็ล้วนตกตะลึงอ้าปากค้าง
พวกเธอเคยเห็นคฤหาสน์ในโทรทัศน์ แต่ก็ไม่เคยคิดเห็นคฤหาสน์หลังไหนหรูหราขนาดนี้มาก่อน
“พี่เขยคะ นี่มันใหญ่มากจริงๆ!พี่กับพี่สาวอยู่กันแค่สองคนก็หากันไม่เจอพอดี” หลินอี้เจียพูด
ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไร ส่วนหลินอี้จุนนั้นประทับใจมาก เมื่อนึกถึงสองวันก่อน ณ ฉีเจียง ตอนที่คุณลุงพาพวกเธอไปดูบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งซื้อแม่ของเธอถามว่าเมื่อไหร่จะซื้อบ้านหลังใหม่ เธอเองก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป
“ฉันก็รู้สึกว่าที่นี่ใหญ่เกินไปค่ะ ห้องก็มีมากมาย พวกเรารับคุณตาคุณยายฉีฉีมาอยู่ด้วยได้ไหมคะ?” หลินอี้จุนลองเสนอความคิดเห็นกับลู่เฉิน
พ่อแม่ของเธอมีลูกสาวแค่ 2 คน เรื่องการดูแลก็คงจะต้องเป็นหน้าที่ของเธอและหลินอี้เจีย อีกทั้งเธอเองก็อยากให้พ่อแม่มาอยู่ด้วยกัน
ตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ เธอคิดว่าเพียงมีลู่เฉินอยู่ด้วยก็มีความสุขแล้ว แต่หลังจากห่างไปหลายปีเธอก็มักนึกถึงพ่อแม่ขึ้นมาบ่อยๆ
“ได้สิครับ” ลู่เฉินพยักหน้า เขาไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้
อย่างที่หลินอี้จุนว่า ที่นี่มีห้อง10กว่าห้อง มีสระว่ายน้ำ สนามบาส ห้องรับแขก ห้องร้องเพลงและอื่นๆอีกมากมาย เขาและหลินอี้จุนอยู่กันสองคนก็คงจะเหงา
หลังจากปรึกษากันเรื่องเวลาย้ายบ้านเรียบร้อย ลู่เฉินก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เขาให้หลินอี้จุนไปส่งหลินอี้เจียและวังเฉียง ส่วนตัวเขาเองนั้นตรงไปที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย
ในเมื่อเสี่ยวเบชิงหาเขาเจอแล้ว อีกทั้งยังรู้ว่าเขามีครอบครัว เขาจะต้องปกป้องครอบครัวของเขาให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉีฉี
คนที่จะมาดูแลฉีฉีต้องเป็นคนที่มีความสามารถที่สุด ซึ่งบัดนี้เขานึกถึงเสี่ยวจิง
เสี่ยวจิงรูปร่างกำยำ เขาเคยฝึกฝนการทหารมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสนามรบจริงหรือ การคิดวิเคราะห์ก็ล้วนแต่เป็นเลิศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์