คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 214

สรุปบท บทที่ 214 หาบอดี้การ์ดให้ฉีฉี: คุณพ่อสายเปย์

สรุปตอน บทที่ 214 หาบอดี้การ์ดให้ฉีฉี – จากเรื่อง คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่

ตอน บทที่ 214 หาบอดี้การ์ดให้ฉีฉี ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง คุณพ่อสายเปย์ โดยนักเขียน ลู่ลู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 214 หาบอดี้การ์ดให้ฉีฉี

ลู่เฉินไม่รู้จะพูดอย่างไร แต่เมื่อเห็นวังเฉียงแววตาเป็นประกายเช่นกัน ก็รู้ว่าเธอคงอยากจะไปดูด้วย

“โอเค ถ้าอย่างนั้นเธอสองคนมาทำงานพรุ่งนี้นะ” ลู่เฉินพยักหน้าและให้ทั้งสองขึ้นรถมา

เขาโทรหาหลินอี้จุนแล้วบอกว่าจะรอเธอที่หน้าทางเข้าคฤหาสน์ ให้เธอไปที่คฤหาสน์ทะเลสาบจิงหลงได้เลย

คฤหาสน์ที่โซนทะเลสาบจิงหลงนั้นเป็นโครงการที่กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยสร้างขึ้นสำหรับมหาเศรษฐี มีพื้นที่ประมาณ 5 ตารางกิโลเมตร รอบสี่ทิศมีกำแพงสูงประมาณ 6 เมตรล้อมรอบดูให้ความปลอดภัย

ณ บริเวณคฤหาสน์มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยดูแลตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อรับประกันความปลอดภัยและทรัพย์สินของผู้ที่อยู่ในคฤหาสน์นี้

ที่ประตูใหญ่ก็มีเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาการอยู่ประมาณ 4-5 คน คนที่สามารถเข้าไปได้คือคนที่อาศัยอยู่ในโซนคฤหาสน์เท่านั้น หากไม่ใช่ เจ้าของหรือบุคคลที่อยู่ในคฤหาสน์จะต้องออกมารับด้วยตนเอง กฎเกณฑ์ทุกอย่างเป็นไปอย่างเคร่งครัด

นอกเหนือจากหลังที่ลู่เฉินให้เก็บเอาไว้แล้ว หลังอื่นๆก็ถูกซื้อไปตั้งแต่เปิดโครงการ

เพียงแต่ตกแต่งภายในไม่เสร็จ จึงยังไม่มีคนมาเข้ามาอยู่

ลู่เฉินยืนรออยู่ที่ด้านหน้ากว่า10นาที ในที่สุดหลินอี้จุนก็ขับรถมาถึง

“คุณชายลู่ครับ” เนื่องจากลู่เฉินเคยเดินทางมาหลายครั้งแล้ว เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยที่นี่จริงรู้จักเขาดี เมื่อเห็นเขาลดกระจกและแตะบัตรเข้า เจ้าหน้าที่อยู่เวรก็ลุกขึ้นทักทายเขา

หลินอี้จุนเองก็มีบัตรใบหนึ่ง ลู่เฉินเพิ่งให้เธอมาเมื่อกี้

รถ1คันต่อบัตร1ใบ เฉพาะผู้ที่อาศัยอยู่ในนี้เท่านั้นจึงจะมีบัตรได้

ลู่เฉินพยักหน้าและขับรถเข้าไปด้านใน

คฤหาสน์หลังที่เขาเก็บเอาไว้นั้นติดกับทะเลสาบบนยอดเขา พื้นที่ใช้สอยกว่า1000ตารางเมตร เป็นคฤหาสน์หลังใหญ่เลยทีเดียว

ที่คฤหาสน์ของเขามีเจ้าหน้าที่ดูแลความปลอดภัยโดยเฉพาะ กำแพงไม่สูงมากเนื่องจากมีคนคอยดูแลตลอด 24 ชั่วโมงจึงไม่ต้องกังวล

ลู่เฉินกดรีโมท เมื่อประตูอัตโนมัติเปิดขึ้นเขาจึงขับรถเข้าไป

หลังลงจากรถไม่ว่าหลินอี้จุน หลินอี้เจียหรือวังเฉียงก็ล้วนตกตะลึงอ้าปากค้าง

พวกเธอเคยเห็นคฤหาสน์ในโทรทัศน์ แต่ก็ไม่เคยคิดเห็นคฤหาสน์หลังไหนหรูหราขนาดนี้มาก่อน

“พี่เขยคะ นี่มันใหญ่มากจริงๆ!พี่กับพี่สาวอยู่กันแค่สองคนก็หากันไม่เจอพอดี” หลินอี้เจียพูด

ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไร ส่วนหลินอี้จุนนั้นประทับใจมาก เมื่อนึกถึงสองวันก่อน ณ ฉีเจียง ตอนที่คุณลุงพาพวกเธอไปดูบ้านหลังใหม่ที่เพิ่งซื้อแม่ของเธอถามว่าเมื่อไหร่จะซื้อบ้านหลังใหม่ เธอเองก็ไม่กล้าพูดอะไรออกไป

“ฉันก็รู้สึกว่าที่นี่ใหญ่เกินไปค่ะ ห้องก็มีมากมาย พวกเรารับคุณตาคุณยายฉีฉีมาอยู่ด้วยได้ไหมคะ?” หลินอี้จุนลองเสนอความคิดเห็นกับลู่เฉิน

พ่อแม่ของเธอมีลูกสาวแค่ 2 คน เรื่องการดูแลก็คงจะต้องเป็นหน้าที่ของเธอและหลินอี้เจีย อีกทั้งเธอเองก็อยากให้พ่อแม่มาอยู่ด้วยกัน

ตอนที่เพิ่งแต่งงานใหม่ๆ เธอคิดว่าเพียงมีลู่เฉินอยู่ด้วยก็มีความสุขแล้ว แต่หลังจากห่างไปหลายปีเธอก็มักนึกถึงพ่อแม่ขึ้นมาบ่อยๆ

“ได้สิครับ” ลู่เฉินพยักหน้า เขาไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับเรื่องนี้

อย่างที่หลินอี้จุนว่า ที่นี่มีห้อง10กว่าห้อง มีสระว่ายน้ำ สนามบาส ห้องรับแขก ห้องร้องเพลงและอื่นๆอีกมากมาย เขาและหลินอี้จุนอยู่กันสองคนก็คงจะเหงา

หลังจากปรึกษากันเรื่องเวลาย้ายบ้านเรียบร้อย ลู่เฉินก็ไม่ได้หยุดนิ่ง เขาให้หลินอี้จุนไปส่งหลินอี้เจียและวังเฉียง ส่วนตัวเขาเองนั้นตรงไปที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย

ในเมื่อเสี่ยวเบชิงหาเขาเจอแล้ว อีกทั้งยังรู้ว่าเขามีครอบครัว เขาจะต้องปกป้องครอบครัวของเขาให้ดีที่สุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งฉีฉี

คนที่จะมาดูแลฉีฉีต้องเป็นคนที่มีความสามารถที่สุด ซึ่งบัดนี้เขานึกถึงเสี่ยวจิง

เสี่ยวจิงรูปร่างกำยำ เขาเคยฝึกฝนการทหารมาก่อน ไม่ว่าจะเป็นสนามรบจริงหรือ การคิดวิเคราะห์ก็ล้วนแต่เป็นเลิศ

เมื่อมาถึงห้องทำงานของเสี้ยจุน ขณะนั้นเสี้ยจุนกำลังเซ็นเอกสารให้กับเลขาฯ

“ท่านประธานลู่!”

“ ท่านประธานลู่!”

เมื่อเห็นว่าลู่เฉินมา เสี้ยจุนเลขาฯของเขาก็พากันไปต้อนรับ

“สวัสดีครับ นั่งลงเถอะ” ลู่เฉินเดินไปนั่งที่โซฟาเป็นความหมายว่าเสี้ยจุนไม่ต้องมอบเก้าอี้ให้กับเขา

เมื่อเสี้ยจุนนั่งลง เลขาฯก็เดินออกไปด้านนอก จากนั้นลู่เฉินจึงถามขึ้นว่า “เสี่ยวจิงลางานมากี่วันแล้ว?”

“หา! เขายังไม่กลับมาเหรอ?ผมจำได้ว่าเขาลาแค่ 3 วันนี่นา”เสี้ยจุนพูดด้วยความสงสัย

ลู่เฉินขมวดคิ้ว เสี้ยจุนทำหน้าที่ได้สะเพร่าจริงๆ ลูกน้องระดับผู้จัดการลางานหยุดไปกี่วันก็ยังไม่รู้ เขากลับมาทำงานหรือยังก็ไม่รู้อีกเช่นกัน สะเพร่ามากจริงๆ

เสี้ยจุนเองก็รู้ว่าตนเองเกิดความบกพร่องเรื่องนี้จึงได้เอ่ยขอโทษว่า “ผมสะเพร่าไปหน่อยครับ ตามปกติแล้วแผนกเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยไม่ค่อยเกิดปัญหาอะไรขึ้น ดังนั้นเลยไม่ค่อยได้ไปดูแลเท่าไหร่นัก”

“อืม วันนี้เขาก็ยังไม่ได้กลับมาทำงาน อาจจะเกิดเรื่องอะไรบางอย่างขึ้น” ลู่เฉินพยักหน้า เขาไม่ได้โทษเสี้ยจุน เพียงแต่รู้สึกว่าปัญหานี้แม้เป็นปัญหาเล็กน้อยแต่ก็ไม่ควรเกิดขึ้นอีก

เขาหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรหาเสี่ยวจิง แต่พบว่าปิดเครื่อง

“ไปเอาข้อมูลของเขามา ผมจะดูว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหน” ลู่เฉินรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติไป ทำไมเสี่ยวจิงต้องปิดเครื่องด้วย

อีกอย่างเขาไม่ได้ลางานแค่ 3 วันเหรอ? นี่ก็เป็นอาทิตย์แล้วยังไม่กลับมาทำงานต้องเจอเรื่องอะไรแน่ๆ

เขารู้สึกว่าคนอย่างเสี่ยวจิงนั้น หากกลับมาทำงานไม่ตรงตามเวลา ต่อให้ไม่โทรหาเสี้ยจุนก็ต้องโทรหาเขาแน่ๆ

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์