คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 257

สรุปบท บทที่ 257 มือปืนรับจ้าง: คุณพ่อสายเปย์

ตอน บทที่ 257 มือปืนรับจ้าง จาก คุณพ่อสายเปย์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 257 มือปืนรับจ้าง คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต คุณพ่อสายเปย์ ที่เขียนโดย ลู่ลู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 257 มือปืนรับจ้าง

คำพูดของลู่เฉินเพิ่งพูดออกมา ทุกคนก็ล้วนโกรธแค้นขึ้นมา

"ไอ้มึงนี่ช่างไม่รู้เรื่องรู้ราวเลย มึงรู้หรือเปล่าว่ามึงกำลังพูดอะไรอยู่?มึงมีสิทธิ์อะไรมาพูดโม้แบบนี้วะ?"

"มึงก็แค่คนปกติคนหนึ่ง มีสิทธิ์อะไรไปด่าว่าปรมาจารย์เจิ้งล่ะ?"

"มึนนี่เป็นใครวะ คนอย่างมึงนี่นะ จะชนะปรมาจารย์เจิ้งได้ยัวไงล่ะ มึงกำลังฝันอยู่หรือเปล่า"

คำพูดของลู่เฉินทำให้ผู้คนต่างเกิดความโกรธแค้นขึ้นมา ไม่ว่าเป็นพวกมือปืนรับจ้าง หรือว่าเป็นแฟนคลับของเจิ้งซีเหอ ต่างกล่าวตำหนิลู่เฉิน

"อ่อ?"ลู่เฉินลุกขึ้นและมองไปดูผู้คนด้วยสายตาที่เยาะเย้ย"ถ้าพวกคุณมั่นใจต่อเจ้งซีเหอขนาดนี้ ทำไมไม่ให้เขามาแข่งกับฉันก่อนรอบหนึ่งล่ะ?"

สีหน้าของจูโปหงเปลี่ยนไปทันที แต่คนอื่นกลับเริ่มเกิดเสียงอึกทึกครึกโครมขึ้นมา

"ได้สิ เชิญปรมาจารย์เจิ้งมายับยั้งความหยิ่งผยองของไอ้เจ้านี้ก่อนเถอะ"

"มึงนี่รนหาที่ตายจริงๆ กล้ามาแข่งกับปรมาจารย์เจิ้งได้ยังไงวะ รอให้ปรมาจารย์เจิ้งมาจัดการมึงเถอะ"

จูโปหงรีบไอออกมาเสียงหนึ่ง เพื่อใก้ผู้คนหยุดการตำหนิต่อ

"แกอยากจะแข่งกับปรมาจารย์เจิ้งก็ได้อยู่ แต่ต้องรอให้แกเข้ารอบแปดลำดับแรกจริงๆถึงจะมีสิทธิ์ ไม่ใช่ใครๆก็ล้วนสามารถแข่งกับปรมาจารย์เจิ้งได้นะเว้ย"ท่าทางของจูโปหงดูถูกเขามาก ความหมายก็คือถ้าแกอยากจะแข่งกับเจิ้งซีเหอ ก็ต้องแข่งกับปรมาจารย์สิบคนนี้ก่อน ไม่นั้นแกก็ไม่มีสิทธิ์

คำพูดของจูโปหง ทำให้พวกมือปืนรับจ้างรู้สึกตัวขึ้นมาได้

"ใช่ๆ แกตั้งใจมาพูดแบบนี้ ก็คือว่าแกไม่กล้าแข่งกับปรมาจารย์สิบคนนี้"

"แม้กระทั่งแปดลำดับแรกแกยังไม่ได้เข้าเลย มีสิทธิ์อะไรไปแข่งกับปรมาจารย์เจิ้งล่ะ?ปรมาจารย์เจิ้งเป็นผู้ที่ติดลำดับสามในประเทศ ส่วนแกล่ะ ขยะที่ไหนก็ไม่รู้?"

คำพูดของผู้คนทำให้หวานยาวจุนและหลานหลินโกรธจนเกือบจะพ่นเลือดออกมา

ตามจริงเมื่อกี้นี้ลู่เฉินก็ได้เข้ารอบชิงแปดลำดับแรกแล้ว เป็นเพราะว่าพวกแกกลัวว่าเจิ้งซีเหอแพ้ให้กับลู่เฉิน จึงปรับเปลี่ยนกฎเกณฑ์อย่างกระทันหัน พวกแกนั่นแหละที่หน้าด้าน ยังมาตำหนิคนอื่นอย่างหน้าไม่อายอีก?

กลัวแพ้ก็พูดมาตรงๆสิ ยังมีหน้ามาบอกว่าเป็นคนที่ติดลำดับสามในประเทศ?

ถุ้ย!

ต้องกล่าวว่าเป็นคนหน้าด้านที่ติดลำดับขิงประเทศนะเวัย!

แต่แน่นอนว่า คำพูดที่เสียดสีพวกนี้หลานหลินไม่กล้าพูดออกมาหรอก

เพราะเธอกลัวว่าถ้าฝ่ายจัดกิจกรรมโกรธขรึมขึ้นมา ไม่ให้ลู่เฉินแข่งแล้ว นั้นสิ่งที่เธอวางแผนไว้ในช่วงนี้ก็จะเสียประโยชน์ไปเปล่าๆแล้ว

ครั้งนี้ ตระกูลหลานของพวกเธอได้ให้ค่าสปอนเซอร์เป็นหลายสิบล้านแก่สมาคมหินหยาบแห่งเมืองยวี่โจว แถมยังลงทุนหลายร้อยล้านเพื่อเปิดตลาดเครื่องประดับอัญมณีในเมืองยวี่โจวอีกด้วย และเธอในฐานะที่เป็นผู้รับผิดชอบ แน่นอนเธอต้องหวังว่าลู่เฉินจะสามารถได้ที่หนึ่งทีเดียวเลย รับแชมป์ให้เมืองยวี่โจวได้

เมื่อเผชิญกับการว่ากล่าวตำหนิของผู้คน ลู่เฉินดูสงบมากอยู่เสมอ เห็นแล้วเป็นคนใจเย็นมาก แต่บางครั้งก็มีแววการเยาะเย้ยปรากฏขึ้นในดวงตาของเขา

หลานหลินมองไปดูลู่เฉินที่ยังคงสงบมั่นคงอยู่ จู่ๆสายตาของเธอก็เบลอขึ้นมา

ในสายตาของเธอ จู่ๆร่างกายของลู่เฉินก็สูงใหญ่มโนราห์ขึ้นมา

อยู่ท่ามกลางลมพัดอย่างรุนแรง ยังสามารถคงสติอยู่ได้ เหมือนไม่ว่าเรื่องใดๆล้วนไม่สามารถทำให้เขาหวั่นไหวสักนิด

สภาพจิตใจที่ใจเย็นเช่นนี้ ไม่ใช่สิ่งที่คนธรรมดาจะมีได้

"โอเค นั้นฉันก็รอเจิ้งซีเหอมาแข่งกับฉันแล้วกัน หลังจากฉันเข้ารอบแล้ว หวังว่าเขาอย่าเป็นเต่าหัวหดอยู่ในกระดองนะ"ลู่เฉินยักไหล่ และมองไปที่จูโปหงอย่างดูถูก จากนั้นก็เดินไปทางเวที

"ไอ้นี่ช่างหยิ่งกำเริบหรือเกิน อยากจะแข่งกับปรมาจารย์เจิ้ง รอให้แกสามารถเข้ารอบก่อนค่อยว่ากันเถอะ"

"อย่ามาแพ้ในรอบแรกนะเว้ย ไม่นั้นมันก็เป็นเรื่องน่าตลกหรือเกิน"

ลู่เฉินหัวเราะอย่างเยาะเย้ยออกมา จากนั้นก็หยิบกินหยาบขึ้นมาก้อนหนึ่ง แค่ได้จับในมือสักครู่หนึ่ง ก็บอกข้อสรุปออกมาโดยตรง

หวูจุนค่อนข้างจะโมโห เขาไม่ได้สังเกตถึงการแข่งขันของลู่เฉินในก่อนหน้านี้ ดังนั้นเขารู้สึกว่าการกระทำของลู่เฉินแบบนี้เป็นการดูถูกเขา

เพียงแค่ไม่กี่สิบวินาทีก็ได้ข้อสรุป นี่เป็นการดูหมิ่นเขาไม่ใช่หรือ?

เขาได้ใช้เวลาตั้งยี่สิบนาที ได้ผ่านการพิจารณาอย่างตั้งใจ ถึงจะได้ข้อสรุป

แต่เมื่อเจ้าหน้าที่ผ่าออกมา ประกาศตัวเลขแล้ว เขาถึงรู้ว่าลู่เฉินน่ากลีวขนาดไหน

ประเภทเดาถูกแล้ว ผิดพลาดไปแค่เก้ากรัม ชนะเขาอย่างสบายๆ

สีหน้าของหวูจุนค่อนข้างจะขวยเขิน เขารู้สึกว่าลู่เฉินก็แค่โชคดีไปแค่นั้นเอง

แต่หลังจากผลของรอบที่สองออกมาแล้ว เขาก็อึ้งไปหมด

รอบที่สอง แม้ว่าเขาเดาประเภทได้ถูก แต่ผิดพลาดไปตั้งสามสิบหกกรัม ส่วนลู่เฉินก็เดาประเภทได้ถูก ผิดพลาดไปแค่หกกรัม ซึ่งมันเหลือเชื่อจริงๆ ความแตกต่างของสองคนนี้ ราวกับฟ้ากับดิน

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือ รอบที่สอง เขาใช้ไปตั้งครึ่งชั่วโมง ส่วนลู่เฉินแค่ใช้ไปไม่กี่สิบวินาทีเอง

"เหลือแค่เก้าคนแล้ว สู้ๆนะ!"ส่วนหลานหลินที่อยู่ใต้เวที เมื่อเห็นว่าลู่เฉินชนะคู่แข่งได้อย่างสบายๆ ก็กำมือขึ้นมา เป็นกำลังใจให้ลู่เฉิน

ส่วนหวานยาวจูนและหวู่จองหัวกลับปรากฏสีหน้าที่โศกเศร้า

ตั้งแต่คนแข็งคนแรก พวกเขาก็เห็นถึงกลยุทธ์ของฝ่ายจัดกิจกรรม นี่คือจะทำให้ลู่เฉินต้องสูญเสียพลังไปหมด

ถ้าหากการแข่งขันทุกครั้งล้วนต้องใช้เวลาประมาณหนึ่งชั่วโมงถึงจะจบได้ แม้ว่าลู่เฉินใช้แค่หลายสิบวินาทีก็จะจบได้ แต่เมื่อเพิ่มเวลงการผ่าแล้ว อย่างน้อยพรุ่งนี้เช้าการแข่งขันสิบรอบนี้ถึงจะเสร็จสิ้นได้

ใครจะสามารถรอฝรับระยะเวลาการเดิมพันหินที่ยาวนานขนาดนี้ไหวล่ะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์