คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 263

บทที่ 263 ห่างจากแชมป์เพียงก้าวเดียว

ในขณะนี้สมาคมอัญมณียวี่โจวทั้งหมดเต็มไปด้วยความสุข

ลู่เฉินเข้าแข่งในนามของยวี่โจว และผ่านเข้าสู่รอบชิงชนะเลิศจนได้

สำหรับสมาคมหินอัญมณียวี่โจวนี่เป็นช่วงเวลาแห่งประวัติศาสตร์และช่วงเวลาที่น่าจดจำที่สุดของพวกเขาเลยก็ว่าได้

แม้ว่าจะยังเหลือเวลาอีก 3 ชั่วโมงก่อนการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ แต่ว่าผู้ชมทุกคนแทบจะอดใจรอไม่ไหว รออยู่หน้าทีวีเพื่อที่จะร่วมเป็นส่วนหนึ่งในปฎิหาริย์ที่ยิ่งใหญ่ในครั้งนี้

แม้ว่าเสี่ยวจื่อหยวนจะเป็นนักพนันหินที่มีชื่อเสียงและมีความแข็งแกร่งกว่าเจิ้งซีเหอ แต่เขาก็ยังถูกจัดอันดับให้เป็นอันดับที่สองของประเทศอยู่ดี

แต่ทุกคนรู้ดีว่าแชมป์ปีนี้จะเป็นใครไปไม่ได้นอกจากลู่เฉิน

เมื่อตัดสินจากสถิติทั้งหมดของลู่เฉิน ในทุกๆรอบเขาเดาถูกเกือบหมด ในรอบนี้เขาคลาดเคลื่อนไปไม่เกิน 10 กรัมอย่างแน่นอน

เขาเป็นต่อเจิ้งซีเหอสองเกม รอบแรกคือ 5กรัม อีกครั้งหนึ่งอยู่ที่ 4กรัม ซึ่งทำลายสถิติการแข่งขันอัญมณีที่เคยมีมาก่อนในประวัติศาสตร์

ในทางกลับกัน ในการแข่งขันทั้ง 4 รอบของเสี่ยวจื่อหยวน มีเพียงแค่2รอบที่มีข้อผิดพลาดรวมกันไม่เกิน 10 กรัม แบ่งได้เป็น 8 กรัมหนึ่งรอบ กับ 9กรัมอีกหนึ่งรอบ และในเกมรอบที่สองหลิวชาวจุนมีข้อผิดพลาดมากถึง 15 กรัม นั่นทำให้หลิวชาวจุนแพ้เกมนั้นไป

จากการวิเคราะห์ดูแล้ว เดิมทีเสี่ยวจื่อหยวนไม่ใช่คู่แข่งของลู่เฉินเลย

ทุกคนเชื่อว่าลู่เฉินจะคว้าแชมป์มาได้อย่างแน่นอน

ในขณะเดียวกันเสี่ยวจื่อหยวนก็มีความคิดแบบนั้นเช่นกัน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับลู่เฉินที่มีท่าทางสุขุมมันทำให้เขาไม่มีความมั่นใจเลยแม้แต่น้อย

เว้นแต่ว่าลู่เฉินจะทำผิดพลาดเพียงเล็กน้อย ซึ่งมันแทบจะเป็นไปไม่ได้เลย

อาจารย์เสี่ยวไม่ต้องกังวลไป ฉันได้จัดการเรื่องนี้ให้ แล้วชัยชนะนี้จะเป็นของพวกเราอย่างแน่นอน ชายวัยกลางคนพูดขึ้นด้วยความเกรี้ยวกราด

เสี่ยวจื่อหยวนพยักหน้า แต่ว่าในแววตาของเขายังมีบางอย่างที่ขาดหายไป

เพื่อต้องการให้เขาเป็นเซียนพนันหินที่ใหญ่เป็นอันดับสองของประเทศ และในกรณีที่หยุนจงฉีไม่เข้าร่วมการแข่งขันนั้น เขาต้องสมคบคิดและใช้กลอุบายเพื่อให้ตัวเองชนะ ซึ่งนี่เป็นการดูถูกตัวเขาเอง

เขาเชื่อว่าหลังจากวันนี้ แม้ว่าเขาจะได้แชมป์ แต่ว่าชื่อเสียงของเขาก็จะแย่ลงเช่นกัน เขาคาดเดาว่าในโลกของการพนันหินนี้ เขากับเจิ้งซีเหอนั้นมีข้อบกพร่องที่เหมือนกัน

แต่ว่าเพื่อคว้าชัยชนะ เพื่อการจัดการของเสี่ยวเบชิง เขาก็จำเป็นที่จะต้องทำเช่นกัน

เวลาล่วงเลยไปจนถึงบ่ายสอง ทุกคนได้พักผ่อนเป็นเวลาสามชั่วโมแล้ว ก็ได้กลับมาที่สถานที่จัดงานอีกครั้ง

ทุกคนตั้งหน้าตั้งตารอคอยการแข่งขันที่กำลังจะเริ่มขึ้น

ถึงแม้ว่าทุกคนจะเชื่อว่าแชมป์ในปีนี้จะเป็นของลู่เฉินก็ตาม แต่ว่าลู่เฉินก็ยังไม่เป็นที่รู้จักมาก่อน แต่ว่าทุกคนก็อยากจะเห็นปาฎิหาริย์ในครั้งนี้ด้วยตัวเอง

ทามกลางความคาดหวังของทุกคน ลู่เฉินก้าวขึ้นไปบนเวทีสูงก่อน และหนึ่งนาทีต่อมาเสี่ยวจื่อหยวนก็ก้าวขึ้นมาบนเวทีตามมา

อาจารย์เสี่ยว เชิญคุณก่อน ลู่เฉินแสดงท่าทางให้เสี่ยวจื่อหยวนเริ่มก่อน

ที่จริงแล้วในการแข่งขันพนันหินนี้ ผู้เล่นคนที่เริ่มเลานทีหลังค่อนข้างที่จะเสียเปรียบ

เพราะว่าตราบใดที่ผลการแข่งขันของผู้เล่นคนแรกไม่ได้แย่มาก ผู้เล่นคนที่สองจะมีความกดดันมากขึ้นไปอีก

เพียงแต่ลู่เฉินไม่ได้สนใจในจุดนั้น อีกทั้งเขาคิดว่าในโลกของการพนันหินนี้ไม่มีใครสามารถมากดดันเขาได้หรอก

และต่อให้เป็นหยุนลาว มาแข่งพนันหินกับเขา ลู่เฉินก็มั้นใจว่าตนต้องชนะอย่างแน่นอน

เสี่ยวจื่อหยวนลังเลเล็กน้อย แต่ก็ยังคงเดินไปหยิบอัญมณีขึ้นมาดู

ผู้ชมเงียบลงมาก ถึงแม้ว่าจะมีเสียงพูดที่เบามากแต่ว่าก็ไม่ได้กระทบกับเสี่ยวจื่อหยวนที่อยู่บนเวที

5 นาทีผ่านไป เสี่ยวจื่อหยวนพูดว่า ：มีเพชรอยู่ในนั้น 31 กรัม

เจ้าหน้าที่รีบตัดออกมา แท้จริงแล้วมีเพชรอยู่ 23 กรัม คลาดเคลื่อนไป 8 กรัม

ผลการแข่งขันเข้มข้นมากขึ้น ในขณะนี้ทุกคนเริ่มจะเป็นห่วงลู่เฉินขึ้นมา

แม้ว่าลู่เฉินจะเล่นอย่างต่อเนื่อง แต่ว่าในเกมก่อนหน้านี้เขามีข้อผิดพลาดอยู่ 8 กรัม ยังมีอีกเกมที่มีข้อผิดพลาดถึง 9 กรัม

ถ้าหากเขาทำพลาดในครั้งงนี้ เขามีโอกาศที่จะแพ้เกมนี้ได้เลย

เมื่อผลออกมาเป็นเช่นนี้ ทั้งเสี่ยวจื่อหยวนและชายวัยกลางคนก็รู้สึกโล่งใจออกมา

ถ้าหากเสี่ยวจื่อหยวนสามารถเอาชนะลู่เฉินได้ด้วยความซื่อสัตย์ พวกเขาก็ไม่จำเป็นที่จะต้องวางแผนร่วมคิดกัน

เพราะสุดท้ายแล้วการคว้าชัยชนะด้วยวิธีนั้น ไม่เพียงแต่ไม่มีความน่าเชื่อถือ ยิ่งไปกว่านั้นมีความเป็นไปได้ที่ว่าเสี่ยวจื่อหยวนจะตกอยู่ในสถานการณ์ที่ยากลำบากเหมือนกับเจิ้งซีเหอ

ลู่เฉินมองไปที่เครื่องชั่ง แต่ก็ไม่ได้พูดอะไร พลางไปหยิบอัญมณีขึ้นมา

ในครั้งนี้เขาไม่ได้ประมาทคู่ต่อสู้ และก็ไม่หลงกลอะไรด้วย

จนถึงตอนนี้แล้ว เขาจะต้องคว้าชัยชนะมาให้จงได้

นี่ยังไม่เพียงแต่ช่วยสมาคมหินอัญมณียวี่โจวไว้ ยังช่วยหลานหลิงได้อีกด้วย เพื่อที่จะทำให้บริษัทอัญมณีพัฒนายิ่งขึ้น เขาจำเป็นจะต้องคว้าแชมป์มาให้จงได้

สิ่งสำคัญที่สุดคือ เขากลัวว่าถ้าหากว่าไม่ได้แชมป์ เขากลัวจะมีคนทำร้ายฉีฉี

ถึงแม้ว่าเขาจะเชื่อว่าอีกฝ่ายจะไม่ทำร้ายฉีฉี แต่ก็ยังมีความกังวลอยู่

ต้องดำรงตนอยู่บนความไม่ประมาท

ในครั้งนี้ ลู่เฉินใช้เวลาไปเพียง 4 นาที ในที่สุดผลก็ออกมา : มีคริสตันอยู่ 42 กรัม

เจ้าหน้าที่ตัดด้วยความรีบร้อน เป็นคริสตัลจริงๆด้วย พอลองชั่งดูแล้วมี 45 กรัม

คาดเคลื่อนไป 3 กรัม

เจ้าหน้าที่หายใจเข้าลึกๆก่อนที่จะเริ่มประกาศผลต่อผู้ชม

เมื่อผู้ชมได้ยินเสียงประกาศ ทุกคนแทบจะหยุดหายใจไปตามๆกัน

คาดเคลื่อนไป 3 กรัม ！

ลู่เฉินทำลายสถิติข้อผิดพลาดที่บันทึกไว้ 4 กรัมของตัวเองอีกครั้ง ！

นี่คือการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศที่สุดยอดมากๆแล้วจริงๆ

สีหน้าของเสี่ยวจื่อหยวนดูไม่ค่อยจะสู้ดีนัก เขาคิดว่าเขามีโอกาสที่จะชนะลู่เฉินในรอบนี้ คิดไม่ถึงว่าลู่เฉินจะทำลายสถิติของตัวเองในข้อผิดพลาด 4 กรัม และมีข้อผิดพลาดเพียง 3 กรัม

มีค่าความคลาดเคลื่อนแค่ 3 กรัม การคำนวนแม่นยำยิ่งกว่าเครื่องชั่งอิเล็กทรอนิกส์หลายเท่าเลย

สิ่งที่ทำให้เสี่ยวจื่อหยวนดูแย่ในสายตาของผู้คนก็คือ สถิติของลู่เฉินที่ถูกจัดทำขึ้นมา และหลังจากนี้ไม่ว่าผู้คนจะพูดถึงเรื่องนี้อีกสักกี่ครั้งมันก็จะติดตามตัวเขาไปตลอดชีวิต

เว้นแต่ว่าวันหนึ่งอาจจะมีคนมาทำลายสถิติของลู่เฉินก็เป็นได้

อาจารย์เสี่ยว ถึงตาคณแล้ว เมื่อพิธีกรเห็นท่าทางที่เหม่อลอยของเขาจึงได้พูดเตือนเขา

เสี่ยวจื่อหยวนหันกลับมา และเขาหยิบอัญมณีขึ้น เพื่อเริ่มแข่งต่อในรอบที่สอง

ในรอบนี้ เสี่ยวจื่อหยวนใช้เวลาประมาณ 7-8 นาที ในที่สุดก็ได้ข้อสรุปออกมา

ไม่รู้ว่าด้วยข้อผิดพลาดเพียง 3 กรัมของลู่เฉินจะมีผลกระทบกับความมั่นใจของเขารึเปล่า

ในรอบที่สอง เสี่ยวจื่อหยวนคลาดเคลื่อนไปถึง 15 กรัม ทำให้ผู้คนรู้สึกประหลาดใจเป็นอย่างมาก

เมื่อเจ้าหน้าที่รายงานผล ทุกคนเตรียมพร้อมที่จะฉลองชัยชนะให้กับลู่เฉินแล้ว

แชมป์ถูกกำหนดไว้แล้วว่าเป็นลู่เฉิน

หลังจากแข่งมาตลอดทั้งคืนลู่เฉินก็สามารถควบคุมข้อผิดพลาดได้อย่างสมบูรณ์โดยไม่เกิน 10 กรัม มีแค่เพียงครั้งเดียวเท่านั้นที่คลาดเคลื่อนไป 9 กรัม

ถึงแม้ว่าลู่เฉินจะดำเนินเกมเหมือนกับเมื่อคืนวาน แต่ความคลาดเคลื่อนจะไม่มีทางเกิน 15 กรัมอย่างแน่นอน

ขณะที่ลู่เฉินกำลังจะหยิบอัญมณีขึ้นมาตรวจสอบ ทันใดนั้นเสียงโทรศัพท์มือถือของเขาก็ดังขึ้นมา

ลู่เฉินไม่ได้สนใจ และเตรียมตัวที่จะกลับบ้านแล้ว

อย่างไรก็ตามเขาก็ไม่ได้ตั้งใจที่จะใช้เวลาในเกมนี้มากนัก

คาดเคลื่อนไป 15 กรัม เขาหลับตาและนึกถึงชัยชนะที่จะชนะเสี่ยวจื่อหยวนได้แล้ว

“พ่อหนุ่ม ฉันแนะนำให้คุณรับโทรศัทพ์ก่อนดีกว่า แม้ว่าคุณจะได้แชมป์ แต่ถ้าคุณจะต้องสูญเสียสิ่งที่สำคัญกว่าแชมป์ไป นั้นก็น่าเสียดาย” เสี่ยวจื่อหยวนเตือนเขาเมื่อเห็นลู่เฉินไม่มีท่าทีที่จะรับโทรศัพท์