บทที่ 272 แกเป็นใคร
“ถ้าทั้งสามตระกูลร่วมมือกันมาจัดการเทคโนโลยีอี้ฉีของคุณจะทำยังไงต่อไปคะ?ให้เซ่ซูเจี๋ยมาช่วยจัดการดีไหม?” หลินอี้จุนมองไปทางลู่เฉินด้วยความเป็นห่วง
หากทั้งสามตระกูลร่วมมือการจัดการบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจริงตามคำร่ำลือ สองวันมานี้สื่อต่างๆล้วนทำการเสนอข่าวและกำลังจับตามองเรื่องนี้ หลินอี้จุนจะไม่รู้ได้อย่างไร
“ไม่ต้องครับ เซ่ซูเจี๋ยก็ช่วยอะไรไม่ได้หรอก ทั้งสามตระกูลไม่ให้ความสำคัญกับเขาแน่นอน” ลู่เฉินส่ายหัวและพูดมาด้วยน้ำเสียงนิ่งเรียบ แม้ว่าภายนอกจะพากันพูดไปเช่นนั้น แต่เขาไม่ได้สนใจทั้งสามตระกูลนั้นเลย เขาเพียงต้องการที่จะให้เสี่ยวเบชิงมาหาเขาถึงที่เท่านั้น
เขาเชื่อมั่นว่าเพียงแค่จัดการกับเสี่ยวเบชิงได้ สามตระกูลใหญ่นั้นก็ไม่ใช่ปัญหา
“แล้วจะทำยังไงคะ? หรือจะให้พวกเขาทำแบบนี้ต่อไป นี่มันส่งผลกระทบต่อบริษัทเยอะเหมือนกันนะคะ” หลินอี้จุนพูด
“พวกเขาจะก่อความไม่สงบอย่างนี้ได้อีกไม่นานหรอก อ้อ สองวันนี้คุณไม่ต้องไปทำงานนะ อยู่บ้านเป็นเพื่อนฉีฉีเถอะ” ลู่เฉินตอบ
“ค่ะ” หลินอี้จุนพยักหน้า บอดี้การ์ดของเธอกำลังรักษาตัวอยู่ อีกทั้งสถานการณ์ในตอนนี้ก็วุ่นวายไปหมด เธอไม่กล้าไปที่บริษัทแน่นอน
ขณะนั้นโทรศัพท์ของลู่เฉินก็ดังขึ้น เป็นสายจากวังเหว่ย
“คุณชายลู่ครับ ตอนนี้ทั้งสามตระกูลใหญ่พาคนจำนวนร้อยกว่าคน เป็นชายชราวัย 50-60 ปีมาขวางทางเข้าบริษัทเอาไว้ ไม่ให้พนักงานของพวกเราเข้าไปทำงาน เกรงว่าเรื่องนี้คุณลู่จะต้องจัดการด้วยตัวเองแล้วครับ” วังเหว่ยพูดออกมาอย่างร้อนรน
“เป็นชายชราทั้งหมดเหรอ?” ลู่เฉินขมวดคิ้ว เนื่องจากว่าหากเป็นวัยรุ่นเขาสามารถสั่งให้ซ่งไห่พาพรรคพวกไปจัดการได้ แต่ถ้าเป็นชายชราละก็จัดการยากจริงๆ
จะให้เขาไปชกต่อยคนแก่ได้ยังไง?
“ครับ ตอนนี้วุ่นวายมาก ทางตำรวจมาก็ไม่ช่วยอะไรให้ดีขึ้นเลย อีกทั้งพวกตำรวจยังถูกพวกเขาด่าทอเสียหายหาย” วังเหว่ยรายงาน
“อืม ผมเข้าใจแล้ว คุณให้กำลังใจพนักงานไปก่อน ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้” ลู่เฉินพูดจบก็วางโทรศัพท์ไป
“เกิดอะไรขึ้นกันคะ?” เมื่อเห็นลู่เฉินขมวดคิ้วเช่นนั้นหลินอี้จุนจึงถามขึ้น
“เขาเกณฑ์ชายชรากลุ่มหนึ่งมาล้อมบริษัทเอาไว้ ผมไปดูก่อนนะ” ลู่เฉินตอบ
“คุณอย่าได้ใจร้อนทำเรื่องอะไรที่ไม่ควรนะคะ” หลินอี้จุนกลัวว่าลู่เฉินจะโมโหและลงไม้ลงมือกับชายชราเหล่านั้นจึงได้กำชับเขา
“ครับ ผมรู้ว่าผมต้องทำยังไง” ลู่เฉินพยักหน้าและเดินออกไป
แม้ลู่เฉินจะพูดเช่นนั้น แต่หลินอี้จุนก็ยังกังวลมาก เธอรออยู่ที่บ้านก็มีแต่จะทำให้เสียสมาธิ
ในขณะที่เธอคิดจะไปพูดคุยกับวังเสวี่ยแม่ของเธอ ก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูขึ้น
หลินอี้จุนรู้สึกถึงลางไม่ดี เธอตั้งใจจะโทรหาลู่เฉินแต่พบว่าแม่ของเธอเดินไปเปิดประตูก่อนแล้ว จากนั้นมีคน 5-6 คนเดินเข้ามาด้านในบ้าน
คนที่เดินนำเข้ามานั้นเป็นหญิงวัยกลางคน
เธอแต่งตัวและสวมเครื่องประดับสวยงาม เพียงมองจากห่างๆหลินอี้จุนก็สามารถสัมผัสได้ถึงแรงกดดันที่มองไม่เห็น
“พวกคุณเป็นใครคะ?” วังเสวี่ยเห็นคนเหล่านั้นก็ถามขึ้นด้วยท่าทางตกใจ
“ให้ลู่เฉินมาหาฉัน!” หญิงวัยกลางคนมองดูวังเสวี่ยและเดินเข้าไปตามอำเภอใจ
หญิงวัยกลางคนผู้นั้นก็คือเสี่ยวเบชิงนั่นเอง เธอรู้ดีว่าลู่เฉินได้วางแผนล้อมเธอไว้ทุกช่องทาง เธอจึงได้วางแผนซ้อนแผนให้กับเขา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์