บทที่ 278 ลู่เฉินออกโรงแล้ว
ไม่เพียงแต่จางเซิงเฉียวเท่านั้นที่รับสาย แต่ในเวลาเดียวไล่เลี่ยกันหลิวฉีหมิงและ จั่วเจิ้งยี่ ก็ได้รับสายโทรศัพท์เช่นกัน
หลังจากที่ทั้งสามคนรับโทรศัพท์ พวกเขาทั้งหมดก็มีท่าทีดูโกรธมาก จนทำให้เสี่ยวซู่ถิงและวังเหว่ยมีสีหน้าเปลี่ยนไป ดูเหมือนจะตกใจด้วยเล็กน้อย
ทั้งสามมองหน้ากันจากนั้นทุกคนก็นิ่งเงียบ
"จะทำอย่างไรดีล่ะ? " เวลาผ่านไปนาน กว่าหลิวฉีหมิงจะกล่าวขึ้นด้วยความยากลำบากใจ
โทรศัพท์มาจากลูกชายของพวกเขา บอกให้พวกเขาอย่าต่อสู้กับลู่เฉิน และให้กลับไปคุยกันก่อนว่าจะช่วยหลานชายเขาได้อย่างไร
"ฉันไม่เชื่อว่าพวกมันจะกล้าฆ่าเขา!" จางเซิงเฉียวพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม
จั่วเจิ้งยี่ไม่พูดอะไรแต่หลิวฉีหมิงได้กล่าวขึ้นว่า: "ตระกูลหลิว ของฉันเป็นทายาทแห่งภูเขาไฟ"
จางเซิงเฉียวและ จั่วเจิ้งยี่ ก็ยังคงเงียบอยู่
"ฉันขอตัวกลับก่อน อ๋อจริงสิ! คนของตระกูลหลิว ฉันก็จะพาพวกเขากลับไป ฉันไม่สามารถเดิมพันความกล้าของลู่เฉินด้วยชีวิตของหลานชายของฉัน"หลิวฉีหมิง เขาพูดก่อนจะเดินลงบันไดไป
ลูกชายของเขาเพิ่งบอกเขาว่าลู่เฉินปล่อยตัวเขาแล้ว ถ้าพรุ่งนี้ยังทำให้ลู่เฉินไม่พอใจ ก็เตรียมเก็บศพของหลิวซานได้เลย
ตระกูลหลิวของมีเพียงเขาเป็นทายาท เขาไม่สามารถเดิมพันได้อย่างแน่นอน
แม้ว่าในใจเขาจะไม่อยากคืนดี แต่เขาก็ไม่กล้าใช้ชะตากรรมของตระกูลหลิวเพื่อพนันว่าลู่เฉินกล้าหรือไม่กล้าที่จะฆ่าหลานชายของเขาหรอก
"ท่านจาง คุณคิดยังไงกับเรื่องนี้" จั่วเจิ้งยี่ กระซิบ
"เด็กนั่นต้องเป็นคนที่ชอบอวดเบ่งเท่านั้นเอง เขาจะกล้าฆ่าคนได้ยังไงกัน? เว้นซะแต่เขาคอจะทิ้งเทคโนโลยีอี้ฉี แล้วจริงๆ” จางเซิงเฉียวพึมพรำอย่างเย็นชา
"แต่แผนของเราคือการพัฒนาเทคโนโลยีอี้ฉีของเขา แต่ถ้าเขารู้สึกได้ถึงอันตรายและเขากล้าที่จะฆ่าคนขึ้นมาจริงล่ะ คุณอย่าลืมนะ ไม่กี่วันที่ผ่านมาตระกูลจั่วมาหาเขาที่ยวี่โจวเพื่อสร้างปัญหาให้เขา ฉันได้ยินว่าเขาตกอยู่ในมือของลู่เฉิน จนถึงตอนนี้ยังไม่มีใครรู้เลยว่าโจวซุนเฟยจะเป็นหรือตายยังไง ตระกูลจั่วต่างพากันมาปรึกษาฉันเกี่ยวกับเรื่องนี้” จั่วเจิ้งยี่พูดขึ้น
สีหน้าของ จางเซิงเฉียว เปลี่ยนไปอีกครั้งและในที่สุดเขาก็พูดอย่างไม่เต็มใจว่า: "ถ้าจะให้พวกเราหยุด เราก็จะหยุดให้ แต่เราจะไม่ยอมรับเงื่อนไขของเขาอย่างแน่นอน ไปกันเถอะ เรื่องนี้เอาไว้แค่นี้ก่อน กลับไปค่อยคุยกันเถอะ"
จั่วเจิ้งยี่ พยักหน้าและมีเพียงทำแบบนี้เท่านั้น และเขาไม่สามารถยอมรับเงื่อนไขที่ลู่เฉินเสนอได้
ถ้าหากว่าเขาทำตามเงื่อนไขของลู่เฉินแล้วละก็ ตระกูลจั่ว ของพวกเขาจะต้องเสียหน้ามากจริงๆ และคงไม่มีหน้าที่จะอยู่ในยวี่โจวอีกแล้ว
เมื่อชายชราทั้งสามเดินจากไป คนอื่นๆก็แยกย้ายตามๆกันไป
ผู้บริหารของเทคโนโลยีอี้ฉี รู้สึกสับสนเล็กน้อย เมื่อกี้ยังว่างอำนาจกันอยู่ไม่ใช่เหรอ แล้วทำไมพอรับโทรศัพท์แล้วถึงหนีไปไหนกันหมด
วังเหว่ยและเสี่ยวซู่ถิงมองกันไปมองกันมา แล้วพวกเขาก็เห็นความประหลาดใจในดวงตาของกันและกัน
"ลู่เฉินออกโรงแล้ว!”
ทั้งสองพูดขึ้นอย่างพร้อมเพรียงกัน
"ฉันตื่นเต้นอยากรู้เรื่องแล้ว แต่ฉันรู้ว่ามีบางอย่างที่ระดับเราไม่สามารถสัมผัสได้ ดังนั้นก็ช่างมันเถอะ" เสี่ยวซู่ถิงหมายความว่าตอนนี้เธอต้องการโทรหาลู่เฉินมาก แต่เธอก็รู้ดีว่าต้องทำยังไง
ดังที่จางเซิงเฉียวกล่าวไว้ก่อนหน้านี้ ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นว่าการแทนประธาน แต่เธอก็ทำงานให้กับลู่เฉินอยู่ดี
ความคับแค้นใจระหว่างลู่เฉินและสามตระกูลใหญ่มันช่างอยู่ไกลเกินเอื้อม
วังเหว่ยพยักหน้า เพราะเขาเองก็คิดเช่นเดียวกับเสี่ยวซู่ถิง
ในที่สุดเขาก็ระงับความอยากรู้อยากเห็นในใจได้และหันกลับมาบอกให้ทุกคนเข้าสู่สถานการณ์ปกติได้
……
ไม่นานหลังจากที่ชายชราที่ได้ทำการปิดล้อมเทคโนโลยีอี้ฉี ได้แยกย้ายกันไปหมดแล้วก็ไดมีสื่อหลักรายงานเกี่ยวกับความคับข้องใจระหว่างสามตระกูลใหญ่และลู่เฉิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์