คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 279

บทที่ 279 ช็อก

หลิวหยานฉี๋เข้าใจสักที ในฐานะพนักงานขายธรรมดา เธอถูกเรียกตัวจากบริษัทกลุ่มตงเจียให้ไปทำงานในเทคโนโลยีอี้ฉี แถมยังได้เป็นหัวหน้าในแผนกพัฒนาธุรกิของเทคโนโลยีอี้ฉี ไม่ใช่ว่าเธอจะโดดเด่น

แต่เป็นเพราะลู่เฉินเป็นคนจัดการ

ความสามารถฟ่านหมิงโดดเด่นขนาดนั้น ทำไมถึงไม่ถูกเรียกตัวมาที่เทคโนโลยีอี้ฉี?

เพราะเขาทำให้หลินอี้จุนขุ่นเคือง

ในบริษัทกลุ่มตงเจียมีหัวหน้าที่เก่งตั้งมาก ทำไมพนักงานขายธรรมดาอย่างฉันถึงได้รายชื่อติดหนึ่งในห้าด้วย

เพราะว่าฉันขอโทษกับหลินอี้จุน หรือเพราะว่าฉันเคยช่วยหลินอี้จุนไว้ในมือของวังเหวินเสวี่ย

ดูเหมือนว่าวัฏจักรแห่งเหตุที่พุทธศาสนากล่าวไว้จะเป็นจริง

หากตอนนั้นฉันไม่ยอม ไม่ขอโทษกับหลินอี้จุนอย่างจริงใจ ฉันก็คงไม่มีวันนี้หรอก

ไม่แน่ อาจจะเหมือนกับฟ่านหมิงและหยูไห่ ถูกลงโทษให้ไปคุกเข่าตรงหน้าบริษัทหนึ่งวัน

“ท่านประธานวัง คุณเห็นข่าวยัง?” เสี่ยวซู่ถิงเดินเข้ามาในห้องทำงานวังเหวย

วังเหวยพยักหน้า เสี่ยวซู่ถิงนั่งลงตรงหน้าวังเหวย แล้วพูดอย่างไม่เข้าใจ: “ตระกูลใหญ่ทั้งสามบ้าไปแล้วหรือไง พวกเขายังจะให้ลู่เฉินขอโทษกับพวกเขาตรงชนชาติสแควร์ตอนเที่ยง นี่พวกเขาคิดว่าจะจัดการลู่เฉินอยู่ใช่มั้ย?”

วังเหวยหมุนปากกาในมือ ครุ่นคิดแล้วพูด: “อาจจะ พวกเขาลืมทักทายนักข่าวหรือเปล่า?

"อืม คงจะใช่ มิเช่นนั้นก็คงไม่แยกย้ายหลังจากที่ได้รับสารหรอก” เสี่ยวซู่ถิงพยักหน้า

วังเหวยนั่งตัวตรง พูด: “ตอนนี้สิ่งที่ผมกังวลก็คือ หากฐานะที่แท้จริงของลู่เฉินถูกเปิดเผย จะมีผลกระทบอย่างไรตามมา ใช่ ผมได้เรียงรายชื่อคนที่คิดร้านต่อลู่เฉินในครั้งนี้ไว้แล้ว ในพิธีเปิดบริษัทเดือนหน้า ปฏิเสธสื่อเหล่านี้เพื่อเข้าสัมภาษณ์ใด ๆกับบริษัทเรา”

ในขณะที่เขาพูดอยู่นั้นเขาก็ได้ผลักกระดาษ A4 ที่มีชื่อสื่อหลายชื่อเสี่ยวซู่ถิง

"ได้” เสี่ยวซู่ถิงดูข้อมูลในกระดาษ แล้วหยิบเก็บไว้

อันที่จริงเธอได้หาข้อมูลเหล่านี้ไว้แล้ก่อนที่จะมา แต่เธอก็ยังคงรับกระดาษจาก วังเหวยไว้

เพราะเธอรู้ ในพิธีเปิดบริษัทในเดือนหน้า วังเหวยจะได้เลื่อนตำแหน่งไปเป็นประธานที่แท้จริง แต่เธอ เป็นได้แค่รอง

หลังจากที่ร่วมงานกันมาหลายเดือน เธอรู้ความสามารถที่ครอบคลุมของวังเวยดีกว่าเธอ

เสี่ยวซู่ถิงดูนาฬิกา ลุกขึ้นพร้อมพูดว่า: “งั้นฉันขอตัวก่อน อีกสักครู่ฉันต้องไปหม่าอันซานอีก พิธีเปิดบริษัทกำลังจะมาถึงเร็ว ๆ นี้แล้ว ฉันต้องไปเร่งกำชับพวกเขาหน่อย”

"ผมไปเป็รเพื่อนคุณแล้วกัน ผมก็อยากไปดูว่างานถึงไหนแล้ว” วังเหวยพยักหน้า ลู่เฉินได้นำบริษัทให้เขาสองคนดูแลแทน และแน่นอนพวกเขาจะทำงานพลาดไม่ได้เด็ดขาด

สำหรับความแค้นระหว่างลู่เฉินและตระกูลใหญ่ทั้งสามนั้น พวกเขาไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปยุ่งอะไร สิ่งที่พวกเขาทำได้ ก็คือดูแลจัดการเรื่องของบริษัทให้ดี ไม่ทำให้ลู่เฉินต้องวอกแวกใจ

เหมือนกันกับเทคโนโลยีอี้ฉี ในวันนี้เมื่อข่าวได้เผยออกมา บริษัทกลุ่มตงเจียก็เดือดร้อนไปหมด

"จริงหรือเนี่ย ลู่เฉินเป็นบอสใหญ่ลังหลังของเทคโนโลยีอี้ฉี?”

"อะไรนะ? ลู่เฉินที่เป็น รปภ ในบริษัทเราก่อนหน้านี้นี่นะ?”

"คุณดูสิ สื่อหลายสำนักได้ตีข่าวแล้ว”

“พระเจ้า เขาจริงๆด้วย ถ้าอย่างนี้ เขาก็คือเจ้านายของเราหนะสิ!”

"ให้ตายสิ นี่มันเป็นไปได้ไง เขาเป็นแค่ รปภ ไม่ใช่หรือไง? ทำไมไม่เจอกันแค่ไม่กี่เดือน ถึงกลายเป็นเจ้านายเราหละ โลกนี่ช่างตลกจริงๆ!”

ทันทีที่มีข่าวออกมา ทั้งบริษัทกลุ่มตงเจียวุ่นวายไปหมด

พนักงานเหล่านี้เห็นเพียงฐานะตัวตนของลู่เฉิน หลายคนได้มองข้ามข้อมูลที่เสียหายของสื่อทิ้ง นี่หรือความรักที่พนักงานมีต่อเจ้านาย?

ไม่ใช่ เพียงแค่พวกเขาตกใจกับฐานะตัวตนที่แท้จริงของลู่เฉิน จึงยังไม่ทันดูข้อมูล

"ดูนี่สิทุกคน ประธานลูดูเหมือนจะทำให้สามตระกูลใหญ่ขุ่นเคือง!”

ทันใดนั้นมีพนักงานคนหนึ่งอุทานออกมา

หลังจากที่ทุกคนอ่านเนื้อหาแล้วต่างวิจารณ์กันขึ้นมา

"พวกแกว่าประธานลู่จะขอโทษพวกเขามั้ย?”

"ไม่รู้สินะ ก็ต้องดูว่าประธานลู่กล้าเปิดศึกกับตระกูลใหญ่ทั้งสามหรือไม่”

"เรื่องนี้ฉันก็ได้ยินมาเหมือนกัน เรื่องนี้ประธานลู่ผิด ทั้งที่จะได้แชมป์แน่นอนอยู่แล้ว แต่ยังแกล้งแพ้ ไม่แคร์ความรู้สึกคนที่ชื่นชอบหินหยาบและร้านเครื่องประดับต่างๆของยวี่โจวเราเลย”

ทุกวันเงียบสักพัก หากเป็นงี้จริงแล้วก็ ประธานลู่ก็แพ้แล้วหละสิ ยังไงก็สู้เอาชนะตระกูลใหญ่ทั้งสามไม่ได้

"ฉันไม่เชื่อว่าประธานจะขอโทษ ถ้าพรุ่งนี้เขาคุกเข่าลง ไม่ว่าเขาจะเป็นใคร นับตั้งแต่นั้นทั้งเทคโนโลยีอี้ฉีก็อย่าคิดที่จะมีหน้ามีตาในยวี่โจวอีกเลย”

"เธอดูถูกกำลังตระกูลใหญ่ทั้งสามไปนา ฉันไม่เห็นด้วยกับประธานลู่ ถึงแม้ว่าเทคโนโลยีอี้ฉีจะดังก็จริงแต่ตอนนี้ยังไม่ได้เปิดบริการเลย จะสู้กับตระกูลใหญ่ทั้งสามด้วยวิธีนี้ มันไม่คุ้มเลย ฉันเชื่อว่าประธานลู่ไม่โง่ พรุ่งนี้ไม่มีทางขอโทษเด็ดขาด”

"งั้นเรามาเดิมพันกัน ฉันแทงว่าพรุ่งนี้ประธานลู่จะไม่ขอโทษกับตระกูลใหญ่ทั้งสาม หากฉันแพ้ ฉันเลี้ยงข้าวเช้าแกหนึ่งเดือน แต่ถ้าฉันชนะ แกจะต้องเลี้ยงข้าวฉันหนึ่งเดือน กล้ามั้ยหละ?”

"ได้ พรุ่งนี้ฉันพักผ่อน ฉันไปที่รอดูที่ชนชาติสแควร์เอง และถ่ายวิดีโอให้พวกแกดู”

ไม่ช้า ก็ได้มีพนักงานหลายคนเข้ามาร่วมด้วย คนเกือบสองในสามคิดว่าลู่เฉินจะยอมอ่อนข้อให้กับสามตระกูลใหญ่ และหนึ่งในสามคิดว่าเป็นไปไม่ได้ที่ลู่เฉินจะยอมอ่อนข้อให้กับสามตระกูลใหญ่

แม้แต่ผู้จัดการบางคนก็เดิมพันเป็นการส่วนตัว ทั้งบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย ไม่มีใครมีกระจิตกระใจในการทำงานต่อ

หลังจากที่เสี้ยจุนได้ยินข่าวนี้แล้ว เกิดโกรธมาก ปรับเงินพนักงานที่เดิมพันเหล่านั้นคนละสองพันหยวน บริษัทถึงจะเงียบสงบไป

"ฟ่านหมิงคุณคิดว่าประธานลู่จะยอมอ่อนข้อให้กับตระกูลใหญ่ทั้งสามมั้ย?” ตอนเวลาเลิกงาน หยูไห่และฟ่านหมิงได้ไปโรงจอดรถพร้อมกัน ถามอย่างสงสัยขึ้นมา

"ตระกูลใหญ่ทั้งสี่มีรากฐานที่ลึกซึ้งในยวี่โจว ไม่ใช่ใครก็ได้ที่จะขุนเคือง แต่เมื่อสิบปีที่แล้ว กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยได้โด่งดังขึ้นมา ผลสุดท้ายหละ?” ฟ่านหมิงพูดอย่างจืดชืด

หยูไห่ตะลึง เขาลืมเรื่องนี้ไปได้ไงเนี่ย

เมื่อสิบปีที่แล้วที่ตอนกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยโด่งดังขึ้นมา ได้ถึงกับถล่มทลายตระกูลใหญ่ทั้งสี่นานถึงสิบปีเลย ลู่เฉินก็คือคนที่อยู่เบื่อหลังทั้งหมดของกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย เขาจะกลัวตระกูลใหญ่ทั้งสามร่วมมือกันได้ยังไง?

"พรุ่งนี้ตอนเที่ยงคุณต้องการพักผ่อนสองชั่วโมงไม่ใช่หรือไง ไปดูละครสนุกๆที่ชนชาติสแควร์กัน มันคงต้องยอดเยี่ยมมาก ฟ่านหมิงยิ้มให้กับหยูไห่ จากนั้นก็ขึ้นรถ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์