คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 283

บทที่ 283 ยี่สิบวินาที

“พ่อ คุณนี่เดาออกจริง ๆ ลู่เฉินเด็กหนุ่มนั้นยังคงมีทางออกอยู่ หลิวฉีฟูคุกเข่าลง ” ข้างๆสนามมีอาคารหนึ่ง เฉินกวงชิงมองทุกคนที่สนามจากกล้องส่องทางไกล

ชายชราเฉินนั่งบนโซฟาจิบน้ำชา แล้วพูดช้าๆว่า “คุณหลิวคุกเข่าครั้งนี้ เป็นการนำศักดิ์ศรีของตระกูลหลิวมาคุกเข่าลงด้วยนะสิ”

เฉินกวงชิงมองสถานการ์ณที่สนาม แล้วพูดว่า “ ใช่สิ แต่คราวนี้ฉันกลัวว่ามันไม่ใช่แค่เรื่องศักดิ์ศรี ลู่เฉินทำให้พวกเขาคุกเข่าต่อสาธารณชนได้ แน่นอนว่าฐานของตระกูลหลิวต้องสั่นคลอน ไม่อย่างนั้นหลิวฉีฟูคงจะไม่ยอมรับความอับอายได้หลอก”

ชายชราเฉินพยักหน้า และพูดว่า “ อื้ม นี่คือสิ่งที่ฉันหมายถึงที่พุดก่อนหน้านี้ว่าลู่เฉินไม่สามารถคาดเดาได้ ดูสิ ทุกคนคิดว่าเขาไม่ใช่คู่ต่อสู้ของทั้งสามบ้านใหญ่ แม้แต่ลูกสาวเปาคนนั้นก็ยังคุยกับฉันหลายครั้ง บอกให้ฉันชักชวนให้คุณออกช่วยลู่เฉิน ดูสิตอนนี้ทุกคนถูกตบหน้าไปแล้วสินะ ”

ชายชราเฉินลุกขึ้นและเดินไปที่หน้าต่าง หยิบกล้องส่องทางไกลคู่หนึ่งขึ้นมาดู

“เด็กน้อยลู่เฉิน ยังมีหลายสิ่งที่เราไม่รู้ ดังนั้นบ้านเฉินของเรา ไม่สามารถเข้าใกล้กับเขามากเกินไป แต่เราก็ไม่สามารถไปไหนได้ไกล เพียงแค่รักษาความสัมพันธ์ที่ดีเอาไว้ ” หลังจากมองดูอยู่ครู่ หนึ่งชายชราเฉินพูดขึ้นว่า

“ อื้ม ” เฉินกวงชีพยักหน้า เข้าใจความหมายของปู่ของเขา

ลู่เฉินคือสิงโตที่เพิ่งตื่น ถึงแม้ว่าความสัมพันธ์ตอนนี้กับบ้านเฉินของพวกเขาจะไม่แย่มากนัก แต่ก็ไม่แน่สักวันหนึ่งมันอาจจะระเบิดและทำร้ายใครสักคน

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องเฝ้าระวัง

“จั่วเจิ้งยี่ กับจางเชิงเฉินน่าจะใกล้ถึงแล้ว ในเมื่อหลิวฉีฟูคุกเข่าลง แน่นอนว่าชีวิตของเขาก็กำลังตกอยู่ในมือลู่เฉินด้วย งั้นนั้นบ้านจางและตระกูลจั่ว ก็ไม่มีข้อยกเว้น แน่นอนลู่เฉินกลุมชีวิตของพวกเขาแล้วสิ ” ชายชราเฉินกล่าว

เฉินกวงซิงใช้กล้องสส่องทางไกลมองไปที่ด้านนอก ไม่นานก็พบว่ามีรถหรูสองคันมาถึงสนามในเวลาไล่เลี่ยงกัน

รถหรูหยุดลง เฉินเชิงเฉียว และ จั่วเจิ้งยี่ ลงจากรถแยกกัน ทั้งสองก็มองหน้ากัน มีหมอกควันหนาทึบในดวงตาของเขา

“ มาแล้ว เพิ่งถึง ”เฉินกวงชิงพูด

“ มาแล้ว?งั้นไปกันเถอะ ไม่มีอะไรนะดูแล้ว ในเมื่อพวกเขาทั้งสองก็มาแล้ว ถ้าอย่างนั้นก็ต้องคุกเข่าแน่นอน ลู่เฉินเด็กคนนี้ไม่อาจคาดเดาได้จริงๆ ” ชายชราเฉินเก็บกล้องส่องทางไกล พูดอย่างเคร่งขรึม

เฉินกวงชิงพยักหน้า ดูจากท่าทางที่ไม่เต็มใจของจางเซิงเฉียวและ จั่วเจิ้งยี่ ก็รู้แล้วว่าพวกเขาจะต้องไปคุกเข่าแน่นอน

ลู่เฉินเด็กนั้นเขาทำมันได้อย่างไรกัน?

เขาทำอย่างไรถึงทำให้ทั้งสามบ้านต่างก็ยอมมาคุกเข่าต่อหน้าสาธาราณชน ?

หากไม่ใช่เพราะสิ่งที่คุกคามผลประโยชน์หลักขอทั้งสามบ้าน บ้านทั้งสามบ้านไม่ยอมรับความอับอายนี้ได้อย่างแน่นอน

เวลานี้การมาถึงของจางชิงเฉียวและ จั่วเจิ้งยี่ ทำให้ทั้งสนามปั่นปวนขึ้นอีกครั้ง

“มาแล้ว มาแล้ว คุณจางและคุณจั่ว มาถึงแล้ว”

“ช่างเป็นการรอมาคนตายจริงๆ มาดูกันว่าครั้งนี้ลู่เฉินเด็กนั่นจะพลิกผันอย่างไร”

“ใช่สิ ไม่รู้ว่าคุณหลิวกินยาผิดหรือเปล่า คาดไม่ถึงว่าเด็กนั้นก็คุกเข่าลง ซ้ำตอนนี้ก็ยังคงคุกเข่าลง ตระกูลหลิวไม่สนใจเรื่องนี้ก็เลยทำให้ชายชราออกมาอับอายแบบนี้ ”

“ช่างเถอะ อย่าสนใจคุณหลิวเลย ดูคุณจางและคุณจั่วเถอะ ตระกูลหลิวเป็นกลางตลอด สำหรับทั้งสี่บ้านแล้วก็เป็นบ้านที่มีสถานะน้อยที่สุด”

“ใช่สิ เขาคุกเข่าวันนี้ ตระกูลหลิวคาดว่าคงจะออกจากทั้งสี่บ้านใหญ่สินะ ”

ครั้งนี้เห็นว่า จางเชิงเฉียว และ จั่วเจิ้งยี่ มาด้วยกัน ทุกคนก็จุดประกายความหวังขึ้นอีกครั้ง หลิวฉีฟู ทำให้พวกเขาเสียหน้า พวกเขารอจางเชิงเฉียวและ จั่วเจิ้งยี่ ทั้งสองช่วยกู้หน้าพวกเขากลับมา

ดังนั้นครั้งนี้หลิวฉีฟูเปลี่ยนความเคารพก่อน ได้กล่าวหา

จางเชิงเฉียว และ จั่วเจิ้งยี่ เดินตามทางที่ผู้คนทำไว้ให้ และมาถึงที่ข้างๆลู่เฉิน

มองดูการคุกเข่าเป็นผงขี้เถ้าต่อหน้าลู่เฉิน ทั้งสองสั่นสะท้านอย่างรุนแรง

เท้าทั้งสองของ จั่วเจิ้งยี่ อ่อนลง แต่หัวใจของเขากำลังดิ้นรนอย่างมาก

จะคุกเข่าหรือเปล่า?

ถึงแม้ว่าเขาจะตัดสินใจมาแล้วเมื่อวาน เมื่อเผชิญหน้ากับลู่เฉินในเวลานี้ เขาถึงรู้ว่าทางเลือกนี้ยากเพียงใด

จางเชิงเฉียว มองไปที่หลิวฉีฟู ที่คุกเข่าอยู่บนพื้น กัดฟันด้วยความเกลียดชัง เขาคิดไม่ถึงว่าลู่เฉินต่ำช้าไร้ยางอาย ขู่เขาด้วยทั้งสองมือหลานชายของเขา คาดไม่ถึงว่าจะยังขโมยเอกสารลับสำคัญของตระกูลจั่ว ไป และยังประกาศขู่ว่าจะส่งเอกสารนี้ไป

ถึงแม้ว่าจะเป็นเรื่องยี่สิบกว่าปีที่แล้ว แม้ว่าลู่เฉินจะมอบให้ เซ่เว่ยเหา และเซ่เว่ยเหา ไม่สามารถทำอะไรโดยตรงกับบ้านจางของเขาได้ แต่กลับสามารถทำให้ความสัมพันธ์ของ เซ่เว่ยเหา กับบ้านจางจบลงได้

เพราะในเอกสารนั้นล้วน แต่เป็นรายชื่อเจ้าหน้าที่ระดับสูงที่บ้านจางของเขาติดสินบน

ถ้าหากว่าถึงขั้นนั้นแล้ว เขาเชื่อว่าก่อนที่คนเหล่านั้นจะล้มลง แน่นอนว่าจะต้องเคี้ยวบ้านจางของเขาจนไม่เหลือแม้แต่กระดูก

“ลู่เฉิน อย่าคิดว่าจะควบคุมสถานการณ์แบบนี้ได้เหรอ คุณต้องการให้พวกเราคุกเข่าลงจริงๆ คุณสามารถยอมรับสิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหลังได้ไหม?”

“สิ่งที่จะเกิดขึ้นในภายหลังเหรอ?พวกคุณทั้งสามบ้านมีความสามารถขนาดนั้น?”

ลู่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา และประชดว่า “หมู่จองที่สนับสนุนคุณมาก่อนอยู่ที่ไหน? หลายวันมานี้เขาไม่ได้ติดต่อกับพวกคุณหรอ?”

“ คุณ คุณรู้จักคุณนายหมู่ ?”จางเชิงเฉียวตกใจ คิดไม่ถึงว่าลู่เฉินจะรู้เรื่องนี้ ซ้ำยังรู้จักชื่อของนายหมู่

ซ้ำสองวันที่ผ่านมานี้พวกเขาไม่ได้ติดต่อกับนายหมู่เลย พวกเขาติดต่อนายหมู่ไม่ได้ หรือว่าจะมีเรื่องเกิดขึ้นกับนายหมู่

“ก็แค่เศษขยะเพียงชิ้นเดียว คาดไม่ถึงว่าจะนับถือเป็นพี่ใหญ่ น่าขำทั้งสามบ้านของพวกคุณจะโง่ขนาดนี้ ”

ลู่เฉินหัวเราะและพูดต่อว่า “คนที่กล้าหาญของคุณไม่มีใครเท่านอกจาก เสี่ยวเบชิงจากเมืองหลวง ไปตรวจดู ยังมีใครอยู่ในเมืองหลวงบ้าง?จะโต้กลับฉัน พวกคุณทั้งสามบ้านจะเอาอะไรมาโต้กลับฉัน? ”

“ยกโทษให้ฉันที่ไม่ยอมเสียหน้า จริงๆชีวิตและความตายของบ้านใหญ่ทั้งสามของคุณอยู่ในมือของฉัน เอาอย่างนี้ลองทายดูสิว่าขีดกำจัดของฉันมันอยู่ที่ไหน ”

ลู่เฉินพูดไปพร้อมกับจุดบุหรี่หนึ่งม้วน ลุกขึ้นมองจางเชิงเฉียว และ จั่วเจิ้งยี่ ว่า “ พวกคุณยังมีเวลายี่สิบวินาที หลังภายจากยี่สิบวินาที พวกคุณดูสิว่าฉันจะกล้าทำให้พวกเขาเป็นคนไร้ประโยชน์”

จางเชิงเฉียว และ จั่วเจิ้งยี่ สีเปลี่ยนทั้งสองเปลี่ยนไปมา คำพูดของลู่เฉินข้อมูลมีน้ำหนักมากเกินไป

ก่อนอื่นพวกเขาถูกฆ่าโดยเขาในฐานะเจ้านายของเมืองปักกิ่ง สิ่งนี้จะเป็นไปได้อย่างไร?

เด็กคนนี้คือปีศาจหรือเปล่า เขาทำให้เจ้านายของหมู่จองหายไปจากโลกได้อย่างไร?

ทั้งสองสั่นสะท้าน พวกเขาไม่เชื่อว่าซากุระจะทำทั้งหมดนี้ได้ ในความคิดของพวกเขา ซากุระคลับไม่มีจุดแข็งนี้

“เกิดอะไรขึ้น ไม่ใช่ว่าพอคุณจางและคุณจั่ว มาแล้วสถานการ์ณจะพลิกพันหรือ ทำไมลู่เฉินยังไม่คุกเข่า?”

“ไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้น พวกเราก็ไม่ได้ยินในสิ่งที่เขาพูด ว่าแต่เมื่อเห็นสีหน้าของทั้งสอง พวกเขาดูไม่สู้ดีนัก อย่าบอกนะว่าพวกเขาก็ไม่สามารถกดลู่เฉินลงได้?”

เมื่อเห็นว่าลู่เฉินไม่ได้คุกเข่าลงคนรอบข้างต่างก็งงงวย

ในขณะนี้ ลู่เฉินมองไปที่เวลา และพูดว่า “ พวกคุณมีเวลาอีกสิบวินาที”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์