คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 296

บทที่ 296 เล่นใหญ่

ลู่เฉินไม่ได้พูดอะไร เขาสูดบุหรี่อีกครั้ง ครั้งนี่เมียนมาร์ เขาจะต้องคว้าเอาช่องทางการค้าอัญมณีให้ได้แน่

เมียนมาร์มีพ่อค้าอัญมณีมากมาย ตามที่พวกเขาตรวจสอบมา อัญมณีของมังกรดำระดับความบริสุทธิ์สูงที่สุด นี่ก็คือเหตุผลที่คนมากมายชอบทำธรุกิจกับมังกรดำ

แน่นอน มังกรดำสำเร็จแล้ว ความสามารถก็แกร่งขึ้นทุกวัน ทำให้กองกำลังรัฐบาลเมียนมาร์ไม่กล้าที่จะลงมือจัดการเขา

"กล้าที่จะเล่นใหญ่ไหม” ลู่เฉินสูบบุหรี่หรี่ตาและพูด

ตู้เฟยตกใจและไม่สามารถหายใจได้ทั่วท้อง

เขาพอที่จะเข้าใจความคิดของลู่เฉิน

แต่นี่มันเป็นบ้ามากเลยนะ

แต่นี่คือรากฐานของมังกรดำ

"มันจะอันตรายไปหรือเปล่า?คุณตอนนี้ไม่ใช่เพื่อตัวคุณเอง บริษัทหลายบริษัทด้านล่างล้วนไปจากคุณไม่ได้ ยังมีพี่น้องอีกหลายคนที่กินดีอยู่ดีได้เพราะคุณ ฉันกลัวว่าจะไม่มีใครยอมให้คุณเสี่ยงง่ายๆ ” ตู้เฟยครุ่นคิด

ลูกน้องลู่เฉินไม่เพียงแต่มีเทคโนโลยีอี้ฉี ยังมีซุปเปอร์มาเก็ตอีกสองร้าน บริษัท อิเล็กทรอนิกส์และ บริษัทหินธรรมชาติคัยเทียนกรุ๊ปที่ให้พวกเขาบริหารอยู่

ตู้เฟยรวมถึงลูกน้องเกือบสี่ร้อยห้าร้อยล้วนแต่พึ่งพาลู่เฉินเพื่อจะมีชีวิตอยู่ ลู่เฉินไม่เพียงแต่ชุบชีวิตพวกเขาให้เป็นผู้เป็นคน ชีวิตอย่างนี้ กำลังระย้ำที่ไหนจะกล้าคิด แน่นอนว่าพวกเขาไม่สามารถทำให้ลู่เฉินมีอันตรายได้

"ฉันรู้สึกว่าโอกาสที่จะสำเร็จมีถึง 60 เปอร์เซนขึ้นไป ถ้าหากว่าไม่ทำแบบนี้ พวกเราก็ต้องถอดใจจากช่องทางอัญมณีแล้วล่ะ ” ดวงตาของลู่เฉินกระพริบอย่างรุนแรง

เขากล้าตัดสินใจ จั่วชิงเฉิง ต้องร่วมมือกับมังกรดำเพื่อกระทำเขา หรือถึงขั้นอาจจะทำให้เขากับตู้เฟยกลับประเทศไม่ได้ตลอดไป

ถ้าอย่างนั้นในกรณีนี้เขายังมีอะไรต้องลังเลอีก ต้องการคนที่เขาพามา แน่นอนว่าไม่ใช่ที่มือฝีมือ

"อย่างนั้นจะต้องทำยังไง” ตู้เฟยครุ่นคิดและถาม

ลู่เฉินกระซิปบางอย่างที่ข้างหูของตู้เฟย ตู้เฟยฟังไปหมดพยักหน้าไปด้วย

"ฉันจะเปลี่ยนเบี้ยก่อน สังเกตดูพื้นที่ประเทศล่างๆ” ตู้เฟยกระซิบจากนั้นหยิบเบี้ยในถาด แล้วเดินไปที่ชั้นหนึ่ง

ในเวลานี้ในอีกช่องหนึ่ง

"นายพลเฮ่ย มันคือสองคนตรงนั้น ” จั่วชิงเฉิง พบ ลู่เฉินและตู้เฟย

ในกล่องนี้ เปิดไว้แล้ว ดังนั้นหากเป็นคนสนิทก็ง่ายที่จะพบเห็น

มังกรดำมองไปที่ลู่เฉินและตู้เฟย มองดูตู้เฟยวางเบี้ยในถอด พูดติดตลกๆว่า “ ดูสิ พวกเขาทั้งสองคนคงชนะไม่น้อยแล้วสิ”

จั่วชิงเฉิง พูดน้ำเสียงประชดว่า “พวกเขาชนะหลายครั้ง ก็เอาออกไปไม่ได้ ”

คำพูดของเขากำลังหยั่งเชิงมังกรดำ ดูสิว่าเขาจะลงมือที่นี่คืนนี้หรือไม่

เขาหวังว่ามังกรดำจะลงมือที่นี่

แต่ว่าเขาโดยลู่เฉินหลอกมานับครั้งไม่ถ้วนแล้วสิ ทุกครั้งที่ จั่วชิงเฉิง เห็นลู่เฉิน จะรู้สึกกระสับกระส่ายตลอด เขากลัวว่าหากใช้เวลานานมังกรดำจะไม่กล้าฆ่าลู่เฉินได้

สำคัญที่สุดคือ เขาสังสัยว่าลู่เฉินอาจจะคาดการณ์ได้ว่าเขากับมังกรดำร่วมมือกัน

เวลานี้เขาปรากฏตัวที่นี่ ซ้ำยังอยู่ใกล้ๆกับลู่เฉิน แน่นอนว่าลู่เฉินไม่ใช่คนโง่ จะต้องเดาได้ว่าเขาและมังกรดำมีอะไรเกี่ยวพันืกัน

หากว่าลู่เฉินมีการป้องกัน ไม่ไปค่ายทหารของมังกรดำ เขารู้สึกว่ามังกรดำไม่จำเป็นต้องเป็นคู่ต่อสู้ของลู่เฉิน

"ฮ่า ฮ่า ก็ใช่ วันนี้ฉันก็จะช่วยคุณจัดการเรื่องวุ่นวายทั้งสองเรื่องนี้ มา ยกหมดแล้ว” มังกรดำชอบคำพูดเลียแข้งเลียขาของ จั่วชิงเฉิง เขาหยิบแก้วไวน์ขึ้นมาและชนเข้ากับ จั่วชิงเฉิง

แน่นอนว่าพวกเขาดื่มไวน์แดงแท้ๆ

เมื่อเห็นลู่เฉิน และตู้เฟย มังกรดำก็นับว่าพวกเขาทั้งสองเป็นคนตายไปแล้ว

เพราะว่าเขาไม่ได้รู้สึกว่าทั้งสองจะเป็นคนเก่ง

ดังนั้นเตรียมที่จะลงมือในคืนนี้

จั่วชิงเฉิง ยกเหล้าดื่มหมดในครั้งเดียว เลียแข้งเลีบขามังกรดำเสร็จ พร้อมมองไปที่ลู่เฉิน

ลู่เฉินนะลู่เฉิน ถึงแม้ว่าตอนคุณอยู่ที่หวูโจวจะปิดท้องฟ้าด้วยมือเดียว แต่ที่นี่คือเมียนมาร์ เป็นเขตของจะมังกรดำ ฉันจะดูสิว่าคืนนี้คุณและตู้เฟยจะสามารถพลิกแผลงสถานการณ์อย่างนั้นได้เหมือนตอนที่อยู่ยวี่โจวหรือเปล่า

"นายพลเฮ่ย มา ยกแก้วนี่น้อมนับคุณ ขอให้การร่สมมึงของเราครั้งนี้เป็นไปด้วยดี ” จั่วชิงเฉิง มองลู่เฉินอย่างเยาะเย้ยจากนั้นก็หันไปชนแก้วกับมังกรดำ

อีกด้านหนึ่ง ไม่นาน ตู้เฟยเปลี่ยนเบี้ยเรียบร้อยก็กลับมา ชนะไปทั้งหมดสิบสี่ล้าน เขาไม่ได้ให้ลู่เฉิน เขารู้ว่าลู่เฉินไม่ได้คาดเงิน

"วิธีที่ดีที่สุดของรีบวิ่งผ่านทางสังเวียน ไม่อย่างนั้นจะถูกสังสัย ” ตู้เฟยจงใจนั่งข้างๆลู่เฉิน และพูดเบาๆว่า

ลู่เฉินมองสังเวียนมองแล้วมองอีก ห่างจากชั้นสองประมานสองเมตร ไม่ว่าจะเป็นเขา หรือตู้เฟย ก็กระโดขึ้นไปได้อย่าง่ายดาย ซ้ำ จั่วชิงเฉิง และมังกรดำนั่งอยู่ตรงกล่องนั้น ตรงกับสังเวียนพอดี เพียงขึ้นไปก็สามารถจู่โจมเอาชนะมังกรดำได้

"อื้ม ประเดี๋ยวหาโอกาสขึ้นเวทีตอนท้าประลองเถอะ ” ลู่เฉินพยักหน้า

การแข่งนัดสุดท้ายจบลง ชนะสามารถรับคำท้าจากคนด้านล่างได้ หากไม่มีคำท้า การแข่งขันชักมวยวันนี้ก็จบลง หากมีคำท้า ก็จะเข้าสู่เกมที่สอบทันที

ตู้เฟยพยักหน้า นี่เป็นโอกาสเพียงหนึ่งเดียวของพวกเขา

ประเด็นคือพวกเขาไม่มีปืน ไม่อย่างนั้นคงจะไท้ต้องวุ่นวายขนาดนี้

ครึ่งชั่วโมงต่อมา ในที่สุดก็มาถึงคราวที่ฮัวเซียหวังซานจ้าวจะต้อสู้กับมวยไทยหวังเกาจากประเทศไทย

ทั้งสองขึ้นเวที มีเสียงเชียร์จากผู้ชมอย่างอึกทึก แม้จะอยู่ในห้องส่วนตัวบนชั้นสอง ก็มีคนไม่น้อยลุกขึ้นมาปรบมือให้ทั้งสอง

นัดนี้คือไฮไลท์ของคืนนี้ เป็นคนสุดท้ายที่จะเดิมพัน ผู้คนจำนวนมากต่างก็สตั๊ดการชนะหรือแพ้ขึ้นอยู่กับเกมสุดท้ายนี้

เมื่อพิธีกรแนะนำตัวทั้งสอง ผู้ชมด้านล่างส่งเสียงเชียร์ โดยเฉพาะตอนที่แนะนำเซียวจ้าน เกือบทั้งสนามคิดว่าเขาจะชนะ

ในทางกลับกันมวยไทยไม่ได้รับความนิยมมากนัก

"คุณดูสิพวกเขาทั้งสองใครจะชนะ” ลู่เฉินถาม

"เกา เพราะว่า เซียวจ้าน ได้รับการบาดเจ็บ ” ตู้เฟยจ้องทั้งสองคนอีกครั้ง และพูดว่า

"อื้ม ถ้าหากฉันทายผิด เซียวจ้าน ไม่ได้บาดเจ็บอย่างที่พูด เกาไม่น่าจะใช่คู่ต่อสู้ของเขา ดังนั้นกลังจากที่เกาชนะสักพัก คุณก็น่าจะขึ้นท้าทายบนเวทีทันที สุดท้ายให้เขาเตาะคุณลอยขั้นไป อย่างโอกาสสำเร็จจะมีมากขึ้น ” ลู่เฉินวิเคาระห์และพูดเบาๆ

ตู้เฟยหันมามองสังเวียนสักพัก จากนั้นพยักหน้า

ตอนนี้ทั้งสองบนเวทีเริ่มแข่งขันแล้ว ตู่เฟยดินลงไปชั้นล่าง

อีกทางด้านนึ่ง

"นายพลเฮ่ย พวกเขาอาจจะออกไปก่อน” จั่วชิงเฉิง พบตู้เฟยลงมาด้านล่าง พูดรีบเตือน

"วางใจแถอะ ฉันส่งให้พวกเขาปิดประตูแล้ว พวกเขาออกไปไม่ได้ ณ เวลานี้” มังกรดำพยักหน้า เขาชอบดูการแข่งชักมวย โอนเฉพาะอย่างยิ่งในเกมที่มีคนฝีมือดีลงแข่ง ดังนั้นพวกเขาลงดู เซียวจ้าน และ เกา ชกเสร็จแล้วค่อยลงมือ

และเพื่อทำให้ จั่วชิงเฉิง สบายใจ เขายังคงกวักมือเรียกบอดี้การ์ดมากกว่าสิบคนที่อยู่ข้างหลังเขา

"ส่งคนสองคนไปเฝ้ามองเด็กนั้น ตราบใดที่เขากล้าลงไปชั้นล่าง ฆ่าเขาได้เลย” มังกรดำสั่ง

เหตุผลหลักที่เขาไม่ปล่อยให้บอดี้การ์ดโจมตีลู่เฉินทันที ก็เพราะเขาไม่ต้องการให้มีผลกับการแข่งขัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์