บทที่ 302 ยุทธศาสตร์ของฝ่ายเมียนมาร์
"ทุกท่าน คนที่ฆ่ามังกรดำและควบคุมคนของสมาคมมังกรดำได้เป็นคนจีน ก่อนหน้านี้กงสุลใหญ่จินจื่อจุนของจีนโทรมาหาฉันแล้ว เขาต้องการเจรจากับพวกเรา พวกคุณมีความเห็นอย่างไรกับเรื่องนี้บ้าง”
การประชุมพึ่งจะเริ่มต้นขึ้น ประธานาธิบดีก็เข้าหัวข้อหลักในการประชุมเลย
"อะไร?คนจีน เป็นผู้ค้ายาที่สามเหลี่ยมทองคำหรือเปล่า?”ชายคนหนึ่งกล่าว
แปลกใจ
เมื่อเช้านี้พวกเขาเพิ่งรู้ข่าวว่ามังกรดำถูกฆ่า ทั้งหมดกำลังเริ่มการสอบสวน คิดไม่ถึงเลยว่าทางฝ่ายนั้นจะมาหาถึงที่หน้าประตูบ้าน
"คงไม่ใช่ผู้ค้ายาที่สามเหลี่ยมทองคำหรอก หากใช่พ่อค้ายาของฝั่งนั้นแล้วล่ะก็ กงสุลใหญ่จินจื่อจุนคงไม่ติดต่อพวกเรามา”ชายอีกคนพูด
พวกเขามักจะร่วมกับคนจีนเพื่อต่อสู้กับอาชญากรยาเสพติดบ่อยๆ และเชื่อว่าคนจีนนั้นจะทำให้ผู้ค้ายารายใหญ่ทั้งหมดเข้าไปในบัญชีดำได้ เป็นไปไม่ได้ที่จะร่วมมือกับพวกเขา
"ถ้าไม่ใช่ผู้ค้ายาเสพติด ใครจะมีฝีมือที่เก่งกาจเช่นนี้ล่ะ สามารถฆ่ามังกรดำและยังควบคุมกองทัพของมังกรดำได้ในชั่วข้ามคืนเชียวนะ” ชายอีกคนรู้สึกงง
"อาจจะเป็นคนของมังกรดำ ที่ฝ่าฝืนการควบคุมของมังกรดำแล้วก่อกบฏ?”ชายอีกคนพูดด้วยตาที่เป็นประกาย
"อาจเป็นไปได้ ที่เขาหมายถึงในวันนี้คือ ต้องการให้พวกเราปฏิบัติต่อพวกเขาเช่นเดียวกับมังกรดำ จากนั้นก็ลงทุนอย่างน้อยห้าพันล้านหยวนเพื่อสร้างโกก้าง(ชายแดนระหว่างจีนกับเมียนมาร์)และเนปิดอว์(เมืองหลวงของเมียนมาร์) พวกคุณเชื่อหรือไม่?”ประธานาธิบดีมองไปที่ทุกคน
"อะไรนะ?ลงทุนอย่างน้อยห้าพันล้านหยวนเพื่อสร้างโกก้าง? ถ้าหากสิ่งที่เขาพูดเป็นความจริง เขาคงไม่ใช่คนของสมาคมมังกรดำเป็นแน่ แม้ว่าจะเป็นมังกรดำก็คงไม่สามารถหาเงินได้มากนัก” ชายคนหนึ่งประหลาดใจ
อืม ฉันก็คิดแบบนี้เหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นพวกคุณคิดว่าข้อเสนอของเขาเป็นไปได้ไหม?ท่านประธานาธิบดีถามอีกครั้ง
ทุกคนหลงอยู่ในความคิดสักพักหนึ่ง
แม้ว่าขุนศึกของพวกเขาในประเทศเมียนมาร์จะแตกแยกจากกัน แต่พวกเขาก็เป็นคนเมียนมาร์ อีกฝ่ายนั้นไม่ใช่คนเมียนมาร์แต่เป็นคนจีน พวกเขาจะมั่นใจได้อย่างไรว่าคนจีนจะควบคุมขุนศึกได้?
ถ้าหากนี่คือแผนก่อการร้ายของคนจีน ถ้าหากวันหนึ่งชายคนนั้นเติบโตขึ้นเป็นขุนศึก แล้วพวกเขาจะต่อสู้กับมันได้อย่างไรล่ะ?
แต่ที่ทุกคนกังวลมากที่สุดคือแผนก่อการร้าย ถ้าหากเป็นแผนก่อการร้ายของจีนจริงๆล่ะก็ พวกเขาก็ไม่สามารถแก้ไขปัญหาได้ชั่วคราว
ถ้าหากพวกเขาปฏิเสธการเจรจาหรือส่งกองกำลังเข้าโจมตีฝ่ายตรงข้ามโดยตรง พวกเขาจะต้องถูกจีนลงโทษอย่างลับๆแน่นอน หากมีการเจรจา พวกเขาก็ไม่สบายใจ
"ฉันมีวิธีดีๆอยู่สักอย่างสองอย่าง” อั๋งลี่หมินพูดขึ้นอย่างกะทันหัน
อั๋งมี่หลินเป็นตัวแทนของฝั่งกองกำลังทหาร และยังเป็นนายพลของเมียนมาร์ แม้ว่าตอนนี้ฝ่ายกองกำลังทหารจะถอนตัวออกจากการควบคุมโดยตรง แต่ทางทหารก็ยังมีเรื่องที่จะพูดอยู่อีกมาก
ทุกคนค่อยๆมองไปทางอั๋งลี่หมิน อั๋งลี่หมินกล่าว “พวกเราสามารถถ่วงเวลาได้ ในขณะที่ปล่อยให้ขุนศึกคนอื่นโจมตีเขา จะดีที่สุดหากเราเอาชนะหรือฆ่าเขาได้ หากไม่ เราสามารถเจรจากับเขาได้
"อืม ฉันคิดว่าวิธีนี้เป็นวิธีที่ดีที่สุดแล้วดีที่หลิวชางซานไม่ไกลจากโกก้าง เมื่อก่อนเขาเคยมีข้อพิพาทกับมังกรดำสองครั้งเกี่ยวกับภูเขาหิน ดังนั้นให้เขาเป็นฝ่ายโจมตีดีแล้ว” ชายท่านหนึ่งพยักหน้าและกล่าว
ทุกคนก็ค่อยๆพยักหน้า ในที่สุดประธานาธิบดีก็กล่าวคำสุดท้าย และเห็นด้วยกับมุมมองของอั๋งลี่หมิน
หลังจากที่ลู่เฉินเชิญจินจื่อจุนและคนอื่นๆมาทานอาหารเย็น และโทรหาตู้เฟยแล้ว เขาก็ตรงกลับประเทศเลย
ฝ่ายเมียนมาร์ไม่ต้องการเจรจากับเขา เขาเตรียมที่จะซื้ออาวุธชุดใหม่ เพื่อทำให้ผู้นำสูงสุดของเมียนมาร์กลัว
มังกรดำเคยซื้อเครื่องบินรบและระบบขีปนาวุธธรรมดาๆมาก่อน แต่ทั้งหมดก็ถูกจีนกำจัดออกไปหมดแล้ว และอาวุธของทางเนปิดอว์ก็น่าจะล้าหลังมากแล้ว
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์