คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 328

บทที่ 328 การจัดนิทรรศการ

งานนิทรรศการเทคโนโลยีอี้ฉี ในวันนี้ความครื้นเป็นพิเศษ แต่ก็มีสิ่งที่ทำให้คนจำนวนมากในงานเทคโนโลยีอี้ฉี ฝืนยิ้ม ก็คือผู้คนส่วนมากในงานจะเป็นพวกสื่อ และก็มีผู้คนบางส่วนเหมือนมาดูตลก

มีเพียงผู้เชี่ยวชาญทางด้านการทหารและช่างเทคนิคที่เฉิงเฟยส่งมาเท่านั้นที่มาดูนิทรรศการจริงๆ

เป็นไปตามคาดผู้คนมาเพื่อที่จะดูตลก

แม้แต่นักข่าวจากสื่อหลักก็เขียนสคริปเอาไว้ล่วงหน้า ส่วนใหญ่หัวข้อสคริปก็จะประมาณนี้

เพื่อให้เทคโนโลยีอี้ฉี เป็นที่จับตามอง จึงปล่อยข่าวปลอมออกไป ทำให้ไม่มีใครสนใจงานนิทรรศการเลย

แน่นอน พวกนี้เป็นช่องสื่อที่รู้จักเป็นอย่างดี

นอกจากนี้ยังมีพวกสื่อขนาดเล็กบางแห่งก็เขียนเนื้อหาประณามพฤติกรรมที่แสดงความเกลียดชังแก่เทคโนโลยีอี้ฉี โดยตรง

สวัสดีค่ะ/ครับ ประธานลู่อยากทราบว่าทำไมคุณถึงเผยแพร่ข่าวปลอมออกมา ?

"ประธานลู่สำหรับเรื่องการวิพากวิจารณ์บริษัทของคุณบนอินเตอร์เน็ตในสองวันที่ผ่านมานี้ คุณมีความคิดเห็นอย่างไรบ้าง

ประธานลู่คิดว่ายังไง ถึงแม้ว่าคุณต้องการที่จะดึงดูดความสนใจของผู้คน ก็ควรที่จะเปลี่ยนวิธีการ คุณทำแบบนี้ไม่กลัวคนอื่นเขาหัวเราะคุณหรอ? คุณกลัวที่จะเสียตลาดทั้งหมดนี้หรือไม่?

ทันใดนั้นพอเห็นประธานลู่เดินมาพร้อมกับคนจำนวนหนึ่งคนนักข่าวก็รีบวิ่งเข้าไปหา

แต่ก็ถูกพนักงานรักษาความปลอดภัยกันไว้อยู่ข้างนอก

ลู่เฉินเดินมาพร้อมกับบุคคลสำคัญอีกสองคน เมื่อเจอผู้สื่อข่าวก็พูดเกี่ยวกับข่าวลือขึ้นมา ทำให้สีหน้าของเขาไม่ค่อยโอเค

เสี่ยวซู่ถิงขยิบตาให้ผู้ช่วย ให้ผู้ช่วยรีบไปจัดการทันที

ขออภัยค่ะ แต่ฉันไม่ได้พิจารณาเรื่องนี้ให้ดี ไม่ควรที่จะให้สื่อที่ไร้จรรยาบรรณเข้ามา “เสี่ยวซู่ถิงพูดตำหนิตัวเอง”

ออกไป และหลังจากนี้ห้ามไม่ให้ให้สื่อเหล่านี้ก้าวเข้ามาในบริษัทอีก ลู่เฉินพูดออกมาเบาๆ

ค่ะ เสี่ยวซู่ถิงพยักหน้ารับ เตรียมพร้อมดำเนินการ

รอเดี๋ยว

ในขณะนี้ ชายข้างๆเซ่เว่ยเหา โบกมือทักทายเสี่ยวซู่ถิง

ทุกคนหันไปมองชายคนนั้น ชายคนนั้นมีชื่อว่า หลิวฉางฟง เขาไม่ได้เป็นทหาร แต่ว่าเขาเป็นบุคคลสำคัญที่มาจากเมืองหลวง

สื่อพวกนี้ไม่ได้มาเพื่อที่จะดูเรื่องตลกหรอกหรอก มองฉันนี่ หลิวฉางฟงยิ้มพร้อมเดินเข้าไป

ทุกคนเดินตามขึ้นไป

โดยเฉพาะลู่เฉิน เขาเดินอยู่ข้างหลิวฉางฟง

นี่คือท่านรัฐมนตรีที่มาจากเมืองหลวง ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นมา

ฉันชื่อ หลิวฉางฟง ฉันรู้ว่าพวกคุณถูกนำมาที่นี่โดยเจตนา ให้ฉันบอกความจริงของเนื้อหาวันนี้เถอะ เนื้อหาทั้งสามของเทคโนโลยีอี้ฉี เป็นความจริงทั้งหมด เครื่องยนต์อากาศเป็นความจริงและพารามิเตอร์ทั้งหมดเป็นเหมือนกับสิ่งที่เขาส่งออกไปและข้อมูลของเจ้าหน้าที่วิจัยวิทยาศาสตร์ของเทคโนโลยีอี้ฉี จะสามารถสร้างนวัตกรรมทางเทคโนโลยีได้ในไม่ช้านี้

แน่นอน เรื่องนี้ไว้ค่อยพูดอีกที

ตอนนี้ฉันขอผู้ถึงเครื่องบินรบรุ่นที่ 6 เนื่องจากว่าได้มีการพัฒนาเครื่องยนต์ YQ--01อย่างอิสระ แล้วทำไมพวกเราถึงไม่เชื่อว่าพวกเขาสามารถผลิตเครื่องบินรบรุ่นที่6ได้แล้วหล่ะ?

ฉันเพิ่งคุยโทรศัทพ์กับจิงเฉิง ทางกองทัพจะส่งไปยวี่โจวเพื่อร่วมมือกับเทคโนโลยีอี้ฉี หลิวฉางฟงพูดผ่านไมโครโฟนของผู้สื่อข่าว

เหตุผลที่พวกเขาช่วยเทคโนโลยีอี้ฉี เป็นเพราะว่าเทคโนโลยีอี้ฉี สองชุดนี้มีความสำคัญมากต่อจีนและกองทัพ

สิ่งแรกที่เทคโนโลยีอี้ฉี คิดคือจะร่วมมือกับพวกทหาร เพื่อให้เห็นว่าจะต้องเอาประเทศตัวเองมาเป็นอันดับหนึ่ง

เทคโนโลยีอี้ฉี มีความจงรักกับประเทศเป็นอย่างมาก ทำไมเขาถึงจะทำเพื่อประเทศไม่ได้หล่ะ

หลิวฉางฟงคือใคร มีใครรู้จักบ้าง คุณกลัวว่ากองทัพเรือจะไม่ได้รับเชิญให้เข้าร่วมงานเทคโนโลยีอี้ฉี อย่างไรก็ตามเทคโนโลยีอี้ฉี ให้เงินคุณเท่าไหร่ บ้านจางให้คุณสองเท่า จางดาวเรนพูดขึ้นในทันที

หลิวฉางฟงไม่ใช่คนที่ชอบออกทีวี แน่นอนว่าทำให้ไม่มีใครค่อยรู้จักเขา

โดยเฉพาะพวกคนรวยที่อาศัยอยู่ที่ยวี่โจว พวกเขาไม่ค่อยให้ความสนใจกับบุคคลสำคัญจากเมืองหลวงหรอก

แต่ว่ากับพวกนักข่าวนั้นไม่เหมือนกัน เพราะเมื่อพวกเขาได้ทานอาหารมื้อนี้ไปแล้ว พวกเขาจะจดจำหลิวฉางฟงได้อย่างแน่นอน

เมื่อได้ยินจางดาวเรนถามหลิวฉางฟงด้วยความสงสัย ทุกคนก็ล้วนกลับหันไปมองที่จางดาวเรน

พวกคุณมองฉันทำไม จางดาวเรนขมวดคิ้วถามเมื่อรู้สึกว่ามีบางอย่างแปลกไป

ผู้สื่อข่าวบางส่วนส่ายหัวและค่อยๆหันไปมองรอบๆ นักข่าวบางส่วนที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบ้างจางมากระซิบเรื่องของหลิวฉางฟงให้จางดาวเรนฟัง

เขาไม่อธิบายยังจะดีซะกว่า เมื่อเขาพูดเสร็จ สีหน้าของจางดาวเรนก็เริ่มซีดลง

เขาเป็นคนใหญ่คนโตจากเมืองหลวง หรือว่านี่เขากำลังสร้างปัญหาให้กับบ้างจาง

เมื่อคิดได้เช่นนั้น จางดาวเรนไม่พูดอะไรและรีบออกไปขอโทษหลิวฉางฟง

แต่เมื่อเขาผลักนักข่าวออกแล้วรีบวิ่งไป หลิวฉางฟงและลู่เฉินก็เดินห่างออกไปไกลแล้ว

เขารีบเดินไป แต่ก็ถูกกันไว้ด้วยพนักงานรักษาความปลอดภัย

จางดาวเรนเริ่มหมดหวังในทันที

เมื่อคนของเทคโนโลยีอี้ฉี เห็น เขาก็ยืนมองจางดาวเรนเงียบๆ

อย่างไรก็ตามพวกเขารู้อยู่แล้วว่าประธานลู่ของพวกเขากับพวกตระกูลใหญ่อีกสามตระกูลต่างก็เป็นคู่แข่งกัน และแน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้รู้สึกดีต่อตระกูลจางเลย

พวกเพื่อนของบ้านจาง หันกลับมาพร้อมกล่าวทักทาย เซ่เว่ยเหา

ไม่ต้อง หลิวฉางฟงส่ายหัว ตามการคาดการณ์ แน่นอนว่าพวกเขาไม่ใช่แค่รู้จักจางดาวเรนแน่

นอกจากนี้ จางดาวเรนยังกล้าที่จะรังแกเขาโดยที่ไม่รู้จักเขา แต่ถ้าหากว่ารู้จักแล้วยังกล้าที่จะทำแบบนั้นแสดงว่าเขาก็น่าอดสู่ไม่น้อยเลย

ขอบคุณมากประธานหลิว ลู่เฉินไม่คิดว่าหลิวฉางฟงจะมีความสามารถมากขนาดนี้ เล่นงานโดยที่ไม่รู้สึกรู้สาอะไร

ปกติเวลาที่ผู้บริหารเจอเรื่องแบบนี้ แน่นอนเขาจะไม่พูดออกมาก่อนอย่างแน่นอน

อย่างน้อยก็ต้องได้รับการตรวจสอบและยืนยันนับครั้งไม่ถ้วน ก่อนที่จะประกาศออกไป

ไม่คิดว่าเพื่อที่จะช่วยพวกเขาแก้ข่าวลือ หลิวฉางฟงได้ประกาศออกไปก่อนหน้านี้แล้ว

ทำให้ลู่เฉินเกิดความประทับใจขึ้นมา

เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว ในอนาคตคุณจะต้องพัฒนาเทคโนโลยีห้สูงขึ้นเพื่อที่จะให้ประเทศพัฒนายิ่งขึ้นไป เมื่อถึงตอนนั้นผู้คนจะยินดีและชื่นชมคุณ หลิวฉางฟงกล่าวขึ้นอย่างเป็นทางการ

ลู่งเฉินยิ้มกว้าง พร้อมกับพูดว่าผมจะไม่ทำให้ประธานหลิวผิดหวัง

ผู้คนจำนวนหนึ่งไปยังห้องรับรอง นั่งพูดคุยกันจนถึงเวลาอาหาร ลู่จงตามหลิวฉางฟงไปทานอาหาร

การเดินทางมายวี่โจวในครั้งนี้ ทำให้หลิวฉางฟงรู้สึกประทับใจและทำให้เขามีความรู้สึกตื่นเต้นและความคาดหวังขึ้น

ประเทศจีนเริ่มต้นจากการขับเครื่องบินรบ ก่อนที่Chengdu J20 จะออกมามันล้าหลังมาก แต่ไม่คิดเลยว่าChengdu J20 ยังไม่ได้รับการติดตั้งให้สมบูรณ์ เทคโนโลยีอี้ฉี ก็แซงข้ามอุปสรรคและพัฒนาเทคโนโลยีเครื่องบินรบรุ่นหกได้แล้ว

ตราบที่รุ่นที่หกสามารถออกมาได้ภายในปีหน้านี้ เขารู้ดีว่าจะทำให้จักรวรรดิ M ก้าวหน้าไปได้อีกอย่างน้องสิบปี

หลังจากที่กองทัพจีนติดตั้งและเผยแพร่สู่สายตาทั่วโลกแล้ว จะกล้ามีใครมาประกาศสงครามกับจีนอีก?

คำตอบคือปฎิเสธแน่นอน

เมื่อเวลานั้นกองทัพอากาศของจีนจะยึดครองน่านฟ้า