บทที่ 330 ทั่วโลกตะลึง
เครื่องบินรบในรูปแบบจานบินค่อยๆลอยขึ้นไปบนอากาศและหายลับตาไป ในไม่ช้าทุกคนก็สามารถติดต่อกับจานบินนั้นได้อย่างสมบูรณ์แบบผ่านทางวิทยุสื่อสาร
อย่างไรก็ตามเนื่องจากจานบินนั้นมีการซ่อนตัวที่ดีมาก แม้แต่ระบบเรดาร์ที่ทันสมัยที่สุดในปัจจุบันยังไม่สามารถสแกนจับพิกัดได้ สามารถติดต่อกันผ่านนักบินเท่านั้น
ผู้นำกองทัพพยายามติดต่อสื่อสารแบบไร้สายกับนักบินทั้ง 5 คนตลอดเวลา และสั่งให้พวกเขาทดสอบข้อมูลต่างๆตามที่ได้รับมาจากเทคโนโลยีอี้ฉี
สิ่งที่ทำให้ผู้นำกองทัพตกใจมากที่สุดนั่นก็คือ
ข้อมูลที่ได้รับนั้นชัดเจนกว่าที่เทคโนโลยีอี้ฉีคาดการณ์ไว้มาก!
เหตุนี้ทางเทคนิคของเทคโนโลยีอี้ฉีจึงต้องทำการปรับเทียบพารามิเตอร์ของเครื่องบินอีกครั้ง
แน่นอนว่าหากต้องการใช้เครื่องบินนี้จริงๆแล้วล่ะก็ พวกเขาจะต้องทำการทดสอบการบินอีกจำนวนครั้งนับไม่ถ้วนและยังต้องเลือกนักบินที่เหมาะสม
พวกเขาได้ใช้เวลาทดสอบการบินอยู่หนึ่งสัปดาห์เต็มโดยไม่พบปัญหาใดๆ และทางกองทัพเองก็ไม่ได้เสนอแนะให้มีการเปลี่ยนแปลงใดๆอีก
ในที่สุดทั้งสองฝ่ายก็ได้ลงนามสัญญาฉบับใหม่
ทางกองทัพได้ตั้งหลักอยู่ที่ด้านข้างของเทคโนโลยีอี้ฉี ส่วนเรื่องของค่ายทหารจำนวนกว่า 5,000 นาย เทคโนโลยีอี้ฉีเป็นผู้ออกแบบให้ตามความต้องการของทางกองทัพ อีกทั้งเทคโนโลยีอี้ฉียังยินดีที่จะมอบเครื่องบินรบรุ่นที่ 6 จำนวน 20 ลำให้กับทางกองทัพโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งต่อไปทางกองทัพจะต้องจัดซื้อเครื่องบินรุ่นที่ 6นี้ จำนวน 100 ลำ ในราคาลำละ 1,000ล้านกับเทคโนโลยีอี้ฉี และต้องส่งมอบให้เสร็จภายใน 3 ปี
เครื่องบินรบรุ่นที่ 6 นี้ถูกตั้งชื่อโดยทางกองทัพว่า MIE-100
ต่อไปรุ่นที่ 6.5 รุ่นที่ 7 รุ่นที่ 7.5อีกทั้งระดับที่สูงกว่าก็จะได้รับการตั้งชื่อคำว่าMIEนำหน้าเช่นกัน
เกี่ยวกับเรื่องพวกนี้ทางเทคโนโลยีอี้ฉีไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวแต่อย่างใด เนื่องจากพวกเขาเป็นคนใช้ก็ให้พวกเขาเป็นคนตั้งชื่อตามต้องการ
เดิมทีทางกองทัพต้องการที่จะปฏิบัติงานอย่างเงียบๆ แต่ในช่วง 7 วันที่ผ่านมาของการฝึกทดสอบการบินอย่างเข้มงวดดาวเทียมสอดแนมของหลายประเทศยังคงตรวจพบภาพถ่ายระหว่างที่ทำการบิน
ตอนแรกทุกคนคิดว่าเป็นจานบินของต่างดาวที่ปรากฏในประเทศจีนด้วยซ้ำ และยิ่งมีภาพดังกล่าวแพร่กระจายมากขึ้นเรื่อยๆ ก็ส่งผลต่อความตื่นตระหนกของผู้คนในต่างประเทศมากขึ้นเท่านั้น
โดยต่อมาอาณาจักร M และประเทศทางตะวันตกต่างก็ถามขึ้นว่าเกิดอะไรขึ้นกับเมืองจีน?
สุดท้ายแล้วทางกองทัพก็ต้องออกมายอมรับว่าจานบินนี้เป็นเครื่องบินรบรุ่นล่าสุดชื่อว่าMIE-100 ที่พัฒนาโดยเทคโนโลยีอี้ฉี
ข่าวนี้เมื่อแพร่กระจายออกไปทำให้ชาวโลกล้วนตกตะลึง
ผู้เชี่ยวชาญด้านเครื่องบินจากต่างประเทศล้วนคาดเดาถึงประสิทธิภาพของ MIE-100
แม้อาจจะไม่ตรงมากนัก แต่ข้อมูลที่ออกมาก็ทำให้ประเทศ M ถึงกับสั่นสะเทือน
พวกเขามั่นใจว่าหาก MIE-100 พบเข้ากับ F22 ซึ่งเป็นเครื่องบินรบรุ่น 5 ที่แข็งแกร่งที่สุดของประเทศเขา แม้แต่ F22 เองก็ไม่มีโอกาสที่จะรอดไปแม้แต่เปอร์เซ็นต์เดียว อีกทั้ง MIE-100 นี้ยังสามารถสู้กับ F22ได้ถึง30-40ลำ
ข้อมูลนี้ทำให้คนทั้งโลกตกตะลึง หากทางประเทศจีนใช้ MIE-100 สัก 40 หรือ 50 ลำ เช่นนั้นกองทัพของประเทศจีนคงจะสามารถควบคุมทั้งโลกได้
ขณะเดียวกันเทคโนโลยีอี้ฉีก็ได้ออกมาประกาศว่า
พวกเขาจะทำการส่งมอบเครื่องบิน MIE-100 ให้กับกองทัพอากาศภายใน 1 ปี จำนวน 100 กรัม
ข่าวนี้สร้างความตกตะลึงให้แก่ทั้งโลก อีกทั้งบรรดาผู้ผลิตเครื่องบินรบจำนวนนับไม่ถ้วนจากทั่วโลก รู้สึกถึงความน่ากลัวในการผลิตของเทคโนโลยีอี้ฉีเป็นอย่างมาก
ในวันนี้ผู้คนจากทั่วโลกจดจำชื่อเทคโนโลยีอี้ฉีได้เป็นอย่างดี
และแฟนๆที่คลั่งไคล้ทหารจากทั่วโลกล้วนพากันตื่นเต้นเกี่ยวกับ MIE-100
วันนี้ผู้คนจากทั่วทุกมุมโลกกำลังให้ความสนใจกับเว็บไซต์ของเทคโนโลยีอี้ฉีอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์