คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 343

บทที่ 343 ฮัวหลุน

ที่ลู่เฉินเดินทางไปหาเจ้าของยวนโจวกรุ๊ป ไม่ใช่ว่าเพราะเขากลัวฮัวหลุน เขาจะไปกลัวฮัวหลุนได้ยังไง? เขากลัวว่าฮัวหลุนจะไม่มาหาเรื่องเขาต่างหาก

ที่เขาเดินทางมานี้ก็เพื่อต้องการจะรู้ว่าใครกันแน่ที่เป็นผู้นำสร้อยเส้นนี้เข้ามาให้ยวนโจวกรุ๊ปประมูล

เจ้าของยวนโจวกรุ๊ปชื่อว่าฮัวหลุน อายุ 40 ปี เป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีหมื่นล้านของประเทศ

นอกจากการประมูลแล้ว เขายังมีธุรกิจด้านการเดินเรือและการส่งออกต่างประเทศ

ครอบครัวของลู่เฉินพร้อมทั้งผู้จัดการหลิวเดินมายังห้องโถงใหญ่สำหรับรับแขก และเห็นว่าฮัวหลุนนั่งรออยู่ที่โซฟาแล้ว

ความสูงของเขาประมาณ 175 เซนติเมตร ผมทรงรองหวีจัดเป็นระเบียบเรียบร้อย สวมใส่ชุดราชวงศ์ถัง มองดูแล้วช่างสบายตาสะอาดสะอ้าน

“คุณลู่ ที่ผมเรียกคุณทั้งสองมาพบในวันนี้โดยไม่ได้นัดไว้ล่วงหน้า ต้องขออภัยด้วย ผมชื่อว่าฮัวหลุนหรือพวกคุณจะเรียกผมว่าพี่ฮัวก็ได้” ฮัวหลุนลุกขึ้นยืนเพื่อต้อนรับลู่เฉินและหลินอี้จุน

“เถ้าแก่ฮัว วันนี้ที่คุณเรียกพวกเรามามีธุระอะไรพิเศษอย่างนั้นหรือครับ?” ลู่เฉินนั่งลงที่บนโซฟาและเอ่ยถาม คนที่ให้เขาเรียกว่าพี่ได้บนโลกนี้มีเพียงไม่กี่คนเท่านั้น

เมื่อฮัวหลุนได้ยินลู่เฉินเรียกตนว่าเถ้าแก่ก็รู้สึกประหลาดใจ แต่เขาก็ควบคุมตัวเองให้กลับมาเป็นปกติได้ในไม่ช้า

“คุณลู่มีปัญหากับฮัวหลุน เกรงว่าจะเป็นเรื่องใหญ่แล้วสิ เนื่องจากตระกูลเฉิงเปรียบเสมือนจักรพรรดิแห่งต้าหลี่ พวกเขาไม่เห็นแก่หน้าของผมแน่” ฮัวหลุนพูดจบก็มองไปยังลู่เฉิน

“จักรพรรดิแห่งต้าลี่อย่างนั้นเหรอ? เหอะๆ! ในสายตาของผมเขาไม่ต่างอะไรกับลูกหมาเลย ผมต้องขอบคุณสำหรับความหวังดีของเถ้าแก่ฮัวมาก หากมีโอกาสเดินทางไปยังยวี่โจว ผมจะต้อนรับคุณอย่างดี” ลู่เฉินหัวเราะออกมาเบาๆ

ลู่เฉินไม่ได้โอ้อวดถึงอำนาจของเขาที่มี แต่คำพูดเมื่อสักครู่ก็ทำให้ฮัวหลุนตกตะลึงไปไม่น้อย

คนที่ไม่เห็นตระกูลเฉิงอยู่ในสายตานั้นมีบ้าง แต่ไม่เยอะ......

โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ต้าหลี่ของพวกเขา

แม้ว่าพ่อหนุ่มคนนี้จะมีเงิน แต่การที่จะจัดการบ้านตระกูลเฉิงไม่ใช่เพียงแค่มีเงินก็สามารถทำได้

เนื่องจากฉายาที่ว่าตระกูลเฉิงเปรียบเสมือนจักรพรรดิแห่งต้าหลี่ เพราะพวกเขาสามารถใช้กลยุทธ์ต่างๆได้อย่างไม่เลือก

แต่ว่าเมื่อฮัวหลุนได้ยินประโยคสุดท้ายของลู่เฉินก็รู้สึกประหลาดใจขึ้นมา

“คุณลู่มาจากยวี่โจวเหรอครับ? ฟังสำเนียงของคุณคล้ายกับเมืองหลวงเสียมากกว่า”

ฮัวหลุนมองไปยังลู่เฉินด้วยความสงสัย

ที่ยวี่โจวมี 4 ตระกูลใหญ่ เรื่องนี้เขารู้ดี

หากจะกล่าวถึงมหาเศรษฐีอันดับหนึ่งของยวี่โจว แน่นอนว่าเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีแน่ๆ

นับจากที่พวกเขาทำการวิจัยและพัฒนา YQ 01 และ MIE100 รุ่นที่ 6 คนจากทั่วทุกมุมโลกก็ได้รู้จักอุทยานวิทยาศาสตร์แห่งนี้

อีกทั้งยังมีคนนำมาเปรียบเทียบกับนาซ่าอีกด้วย

มีคนสืบข้อมูลเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีและได้ยินมาว่าเทคโนโลยีอี้ฉีนั้นมีมูลค่าทางตลาดมากกว่า หนึ่งหมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ

แน่นอนว่าพวกเขาไม่กล้าเปิดเผยข้อมูลเจ้าของเทคโนโลยีสี แต่คงมีทรัพย์สินไม่ต่ำกว่า หนึ่งหมื่นล้านหยวน

ถ้าไม่อย่างนั้นเขาจะกล้านำเงินมาลงทุนสร้างอุทยานเทคโนโลยีนี้จำนวนกว่าห้าหมื่นล้านหยวนได้ยังไง!

หรือว่าเขาจะเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉีกัน?

ฮัวหลุนสับสนไปหมด

“ที่จริงผมเป็นคนที่เมืองหลวง แต่ผมอยู่ที่ยวี่โจวมา 10 กว่าปีแล้ว” ลู่เฉินตอบ

“ผมอาจจะเสียมารยาทไปหน่อย แต่จากที่ผมรู้มาที่ยวี่โจวมีมหาเศรษฐีที่แท้จริงอยู่เพียงคนเดียว นั่นก็คือเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉี เรื่องนี้ทุกคนก็ล้วนรู้ดี” ฮัวหลุนหัวเราะออกมาและสำรวจไปที่ลู่เฉิน

“ถูกต้องแล้วครับ ผมเป็นเจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉี และนี่ไม่ได้เป็นความลับอีกต่อไป” ลู่เฉินหัวเราะแล้วพูดออกมาเหมือนเป็นเรื่องปกติทั่วไป

แต่กลับทำให้ฮัวหลุนตกตะลึงอ้าปากค้าง

เจ้าของเทคโนโลยีอี้ฉี!!! แค่เพียงทรัพย์สมบัติที่เขามีก็มากมายเสียจนเหลือเชื่อ

อีกทั้งเขาทำความร่วมมือเฉพาะกับทางกรมทหารเท่านั้น ทางทหารจึงได้ปกป้องเทคโนโลยีอี้ฉี และยังได้สร้างอาคารที่ข้างๆเทคโนโลยีอี้ฉีเพื่อสะดวกต่อการดูแลตลอด 24 ชั่วโมง มีพลทหารกว่า 5,000 นาย นี่มันไม่ต่างอะไรกับกรมทหารของประเทศเลย!!!

เห็นชัดว่าอำนาจและบารมีของเขานั้นมากกว่าเงินที่เขามีหลายเท่า

เขามีภูมิฐานที่ดีเช่นนี้นี่เอง มิน่าเล่า.....จึงได้กล่าวว่าไม่เห็นบ้านตระกูลเฉิงในสายตา เพราะตระกูลเฉิงเทียบไม่ได้แม้แต่น้อยเลย

“ท่านประธานลู่นี่เอง การที่ท่านประธานร่วมเดินทางมาบริษัทของเราเพื่อร่วมประมูล นับว่าเป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ” ฮัวหลุนหายใจออกมา เขาเปลี่ยนวิธีการเรียกลู่เฉินไปทันทีทันใด

“ที่คุณเรียกผมมามีธุระอะไรหรือเปล่า?” ลู่เฉินเปลี่ยนหัวข้อคุย

“เอ่อ......ไม่มีครับ ไม่มีก็แค่เพียงจะเตือนคุณเกี่ยวกับเรื่องเฉิงเฉวียนเท่านั้นเอง” ฮัวหลุนยิ้มแห้งๆ เดิมทีเขาต้องการจะจัดการกับลู่เฉินสักหน่อยจากนั้นก็จะทำทียื่นมือเข้าไปช่วย

แต่วันนี้เขาจึงได้รู้ว่าความคิดนั้นช่างโง่เขลาจริงๆ

“ผมอยากให้คุณช่วยผมสักหน่อย หากคุณทำสำเร็จรับรองว่าผมจะต้องให้รางวัลอย่างงาม “ลู่เฉินพูด

“ท่านประธานลู่เชิญพูดเลยครับ การที่ได้ช่วยเหลือคุณนับว่าเป็นเกียรติของผม” ฮัวหลุนแววตาเป็นประกาย

สองปีมานี้บริษัทของเขานับว่าดำเนินไปได้อย่างสวย หากได้รับความช่วยเหลือจากลู่เฉินอีกละก็คาดว่ากิจการคงจะไปได้ดีกว่านี้ และทำให้หุ้นของบริษัทขึ้นอย่างต่อเนื่อง

“สร้อยหยกเลือดที่เฉิงเฉวียนประมูลไปได้เมื่อสักครู่ เป็นใครกันที่นำมาให้บริษัทคุณประมูลหรือคุณได้สร้อยเส้นนั้นมาจากไหน?”

“เรื่องนี้คุณไม่ต้องกังวลไป ผมจะบอกคุณตรงๆว่าสร้อยเส้นนั้นเป็นของคนรู้จักเก่าแก่ของผมคนหนึ่ง ผมเพียงต้องการที่จะพบเขาเท่านั้น”

“แน่นอนว่าถ้าอีกฝ่ายหนึ่งมีความสามารถเข้มแข็ง เขาจะรังแกคุณละก็ให้คุณบอกกับผมได้ตลอดเวลา ถ้าผมไม่อาจปกป้องบริษัทคุณได้ถือว่าผมแพ้”

“ผมจะต้องสืบหาให้ถึงที่สุด ไม่มีใครจะมาขัดขวางผมได้!”

ลู่เฉินดูฮัวหลุนแล้วพูดออกมา เขาไม่ได้ข่มขู่และไม่ได้ยั่วยุอย่างใด

แต่คำพูดของเขาเมื่อสักครู่เขาเชื่อว่าฮัวหลุนไม่ใช่คนโง่ และไม่เลือกที่จะเป็นปรปักษ์ต่อเขา

แม้เขาจะสงสัยว่าของนี้อาจจะเป็นของตระกูลเสี่ยว แต่เขาก็ไม่มีหลักฐาน และไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับตระกูลลึกลับนั่นเลย

บางทีหยุนลาวอาจจะไปขัดขวางตระกูลที่แข็งแกร่งตระกูลใดตระกูลหนึ่งเข้า ที่สำคัญคือต่อให้เป็นตระกูลเสี่ยว เขาก็ไม่มีข้อมูลใดๆอยู่ในมือ ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพวกเขาเป็นไปมาอย่างไร

เขาจะต้องใช้โอกาสนี้ในการสืบสาวราวเรื่อง

เนื่องจากสิ่งนี้มีผลต่อชื่อเสียงของบริษัทโดยตรง ดังนั้นฮัวหลุนจึงได้เงียบๆไป

เนื่องจากข้อมูลส่วนตัวของผู้นำของมาประมูลและผู้ประมูลจะต้องเก็บเป็นความลับ

หากข้อมูลของลูกค้าเล็ดลอดออกไปก็เท่ากับว่าทำผิดต่อลูกค้า อีกทั้งทำผิดกฎหมาย

“เทคโนโลยีอี้ฉีของผมได้ทำการผลิตสินค้าชั้นเลิศทางเทคโนโลยีขึ้นมาอีกสามชิ้นที่ยังไม่ได้ประกาศให้แก่ภายนอกรู้ ผมจะให้ยวนโจวกรุ๊ปของพวกคุณชิ้นหนึ่ง คุณลองไปคิดดู เมื่อคิดได้แล้วให้แจ้งมาที่ผม สองสามวันนี้ผมยังจะอยู่ที่ต้าหลี่” ลู่เฉินทิ้งวิธีการติดต่อของตนไว้บนโต๊ะ จากนั้นเดินพาครอบครัวจากไป

เรื่องของหยุนลาวทำให้เขาร้อนรนใจมาก แต่เขาก็รู้ดีว่าเรื่องบางเรื่องต่อให้เร่งรีบไปก็ไม่มีประโยชน์

ลู่เฉินจึงได้ถือโอกาสใช้ช่วงเวลานี้ไปกับครอบครัวและค่อยๆจัดการปัญหานี้ต่อไป

หากว่าถึงเวลาแล้วฮัวหลุนยังไม่ยอมอ่อนข้อ เขาคงต้องใช้ไม้แข็ง!

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์