บทที่ 351 ยึดยวนโจวกรุ๊ป – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์
ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 351 ยึดยวนโจวกรุ๊ป จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 351 ยึดยวนโจวกรุ๊ป
“ฮ่าๆๆ ประธานเฉิงทำงานเรียลไทม์จริงๆ” ลู่เฉินหัวเราะแล้วเดินกลับมาใหม่
จากนั้นโทรหากลุ่มทนายความของเทคโนโลยีอี้ฉีเพื่อลงนามสัญญา
ที่เขาต้องการหุ้นของของตระกูลเฉิง เนื่องจากต้าหลี่เป็นเมืองที่เต็มไปด้วยวัตถุดิบด้านยาจีน ยาจีนต่างๆจากทั่วประเทศล้วนมาจากต้าหลี่
และตระกูลเฉิงได้กำอำนาจด้านการค้ายาแผนจีนนี้ไว้
ตอนนี้เขามีเทคโนโลยีที่ทันสมัย คาดว่าอีกไม่นานจะวิจัยเทคโนโลยีด้านการแพทย์ออกมา
ในปัจจุบันนี้ผู้คนล้วนให้ความสำคัญกับสุขภาพ ดังนั้นผลิตภัณฑ์ด้านบำรุงสุขภาพจึงได้กำไรดี เพียงแค่มีเทคโนโลยีล้ำหน้า วัตถุดิบที่ดีเลิศ ก็เรียบร้อย
ดังนั้นการที่ลู่เฉินต้องการหุ้นของตระกูลเฉิง70% ก็เท่ากับการให้โอกาสตระกูลเฉิง และบีบให้ตระกูลเฉิงรับใช้เขา
เขาลงนามหุ้น70%ของตระกูลเฉิง แต่เขาก็ยังต้องการให้ตระกูลเฉิงดูแลบริษัทเวชภัณฑ์
หากตระกูลเฉิงทำได้ดี และต่อไปเทคโนโลยีการแพทย์ของเขาพัฒนาอย่างต่อเนื่อง แม้ว่าตระกูลเฉิงจะมีหุ้นเพียง30% แต่ก็ได้กำไรไม่น้อย หรืออาจจะมากกว่าที่ตอนนี้พวกเขามีอยู่ก็ได้
แน่นอนต้องดูว่าตระกูลเฉิงจะมีท่าทางอย่างไร หากไท่เป็นมิตรหรือต่อต้านเขา ลู่เฉินคงเตะเขาออกไปจากวงโคจรนี้
ในคืนนั้นเอง กลุ่มทนายของเทคโนโลยีอี้ฉีได้นั่งเครื่องบินพิเศษมายังต้าหลี่ จากนั้นทำการลงนามมอบอำนาจหุ้นส่วนของตระกูลเฉิงแก่ลู่เฉิน นับจากนี้บริษัทเวชภัณฑ์ของตระกูลเฉิงก็ขึ้นอยู่ในนามของเทคโนโลยีอี้ฉี
เฉิงหูก็ยอมรับในการแนะนำของลู่เฉิง อีกทั้งให้เขาดูแลบริษัท
ท้ายที่สุดเมื่อเห็นลู่เฉินกุมตัวฮัวหลุนจากไป สมาชิกตระกูลเฉิงก็ถอนหายใจออกมา
หากว่าเฉิงเฉวียนไม่ได้ไปรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล คาดว่าเฉิงหูก็คงจะสั่งสอนเขาอย่างสาสม
เนื่องจากนิสัยที่ดื้อด้านของเขา จึงทำให้ตระกูลเฉิงต้องตกอยู่ในอุ้งมือของเทคโนโลยีอี้ฉี
แม้ว่าตอนนี้พวกเขายังมีหุ้นอยู่30% แต่อีก70%นั้น คาดว่าคงเอากลับมาไม่ได้แล้ว
กระทั่งหากต่อไปพวกเขาแสดงออกไม่ดี 30%ที่เหลืออยู่อาจจะหลุดลอยไปได้
“พ่อครับ นี่ก็เป็นเพราะพ่อชอบตามใจเขาตลอดเวลา ถ้าไม่ใช่เพราะพ่อตามใจ ตระกูลเฉิงจองพวกเราจะกลายเป็นแบบนี้ไปได้ยังไง?” เฉิงหูมองดูพ่อของเขาแล้วพูดออกมาอย่างหน่ายใจ
เฉิงกงหมิงก็ถอนหายใจออกมา เขาทำได้เพียงยอมรับความผิดของตน
หลายปีมานี้ตระกูลเฉิงดำเนินไปอย่างราบรื่น ราบรื่นเสียจนคิดว่าตนยิ่งใหญ่ที่สุดในต้าหลี่ และสามารถทำตามใจได้ทุกอย่าง
คิดไม่ถึงว่าการเอาแต่ใจตนของเขา อีกทั้งการตามใจหลานชาย จะทำให้เกิดเรื่องใหญ่โตเพียงนี้
แต่ถึงแม้ธุรกิจของพวกเขาจะอยู่ในมือของเทคโนโลยีอี้ฉี แต่ก็ไม่มีเรื่องใดร้ายแรงกว่านี้ นับว่าโชคดีของพวกเขา
“คิดว่าพวกเขาจะทำอย่างไรกับฮัวหลุน?” เฉิงกงหมิงเปลี่ยนหัวข้อ
เฉิงหูนั่งลงอย่างไร้เรี่ยวแรงที่โซฟา เขาไม่อยากตอบคำถามนั้น
แต่ที่จริงการที่ตระกูลเฉิงกลายมาเป็นแบบนี้ได้ ก็เพราะถูกฮัวหลุนลากเข้ามามีส่วนเกี่ยวข้อง แน่นอนว่าเขารู้สึกไม่ดีกับฮัวหลุน
นอกจากเเย่งเอาบริษัทเขามา
“ผมเลือกทางที่สอง” ฮัวหลุนตอบออกมาอย่างไม่คิด
เขารู้ดีว่าตัวเองไม่อาจต่อรองกับลู่เฉินได้ และเขารู้ดีว่าหากเขาเลือกทางเลือกแรกลู่เฉินคงฆ่าเขาจริงๆ
ผู้บังคับบัญชาอย่างเขาจะสนใจชีวิตเล็กๆอย่างฮัวหลุนเหรอ?
“เรียกกลุ่มทนายความของคุณมาซะ” ลู่เฉินพูด
เขาเด็ดเดี่ยวในทุกๆเรื่อง แม้ตอนนี้จะดึกมากแล้ว แต่เขาก็ต้องจัดการให้เร็วที่สุด
จนกระทั่งเที่ยงคืน กลุ่มผู้มีอำนาจของยวนโจวกรุ๊ปก็เดินทางมาพร้อมครบ และจัดการโอนอำนาจให้แก่เทคโนโลยีอี้ฉี
ท้ายที่สุดก็เปลี่ยนชื่อเป็น บริษัทอี้ฉียวนโจวกรุ๊ป
ส่วนเงินในธนาคารของฮัวหลุน ลู่เฉินไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยว
เพียงแค่ฮัวหลุนช่วยให้เขาหาคนในเมืองหลวงเจอ การที่เขาบอกว่าไม่ฆ่าเขาก็คือไม่ฆ่า
จากนั้นลู่เฉินก็เรียกประชุมคณะกรรมการยวนโจวกรุ๊ป และต่อด้วยอาหารมื้อดึก
ช่วงนี้เขาให้บรรดาผู้รับผิดชอบดูแลไปก่อน เมื่อเขาจัดการธุระของหยุนลาวเรียบร้อยแล้ว ก็จะกลับมาดูแลด้วยตนเอง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์