คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 361

บทที่ 361 เสี่ยวจิงทำคนอื่นหน้าแตก

"แค่พวกแกไม่กี่คนนี้เหรอ?ยังไม่พอหรอก"เสี่ยวจิงยิ้มออกมาอย่างดูถูก วิ่งหน้าไปทางเจ็ดคน

เดิมทีเสี่ยวจิงก็ไม่ใช่ทหารธรรมดา เป็นทหารกองกำลังพิเศษ เขาฝึกหัดการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก เป็นผู้เชี่ยวชาญทางด้านการต่อสู้อย่างแท้จริง

สาเหตุที่ลู่เฉินให้ความสำคัญกับเขา เนื่องจากยอมรับความสามารถของเขา จึงวางใจให้เขามาปกป้องฉีฉี เห็นจากเช่นนี้ก็รู้ว่าความสามารถของเสี่ยวจิงต้องแข็งแกร่งขนาดไหนแล้ว

แม้ว่าอีกฝ่ายมาปิดล้อมเขาด้วยคนเจ็ดคน แต่พอต่อสู้ไปสักพัก ทั้งเจ็ดคนแม้กระทั่งมุมเสื้อของเสี่ยวจิงก็สัมผัสไม่ถึง แถมในนั้นยังมีคนสองคนถูกเสี่ยวจิงตบหน้าไปสองรอบ ทันใดนั้นก็กระเด็นไปไกลเลย

ห้าคนที่เหลือก็แค่ยืนหยัดไปไม่ถึงนาทีเดียว ก็ล้วนนอนกรีดร้องอยู่บนพื้นแล้ว

เมื่อเห็นว่าภายในนาทีเดียวก็ต่อยจนบอดี้การ์ดของไอดอลล้วนนอนกรีดร้องอยู่บนพื้น แฟนคลับทั้งหมดของหูเยี่ยล้วนมึนงงไปหมด สายตาที่ทุกคนมองไปที่เสี่ยวจิงนั้น ไม่มีความนับถือ มีแต่ความโกรธขรึม

สาเหตุที่พวกเขาโกรธขรึมก็เพราะเสี่ยวจิงไปทำบอดี้การ์ดของไอดอลบาดเจ็บ

แต่เมื่อเห็นว่าความสามารถของเสี่ยวจิงแข็งแกร่งจนราวกับเทวดา เขาก็ไม่กล้าพูดอะไร

นับบัดนี้ สีหน้าของหูเยี่ยและผู้ช่วยหลิวแย่จนถึงขีดสุด คาดไม่ถึงว่าบอดี้การ์ดแปดคนของเธอนั้นไร้ประโยชน์เช่นนี้ ทำให้เธอขายหน้าไปหมด

"ขับรถมา รับซูเปอร์สตาร์ไปบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย"ลู่เฉินพูดกับเสี่ยวจิงประโยคหนึ่ง จากนั้นก็จากไปกับหลินตงก่อน

เมื่อเห็นเงาหลังที่จากไปของลู่เฉิน หูเยี่ยไม่สบายใจเป็นอย่างยิ่ง แต่ต่อหน้าแฟนคลับมากมายขนาดนี้ เธอไม่มีทางเลือกอื่น

ในเมื่อที่กล้าเดิมพันก็ต้องกล้ายอมแพ้ เธอมีแต่ต้องไปที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียก่อน

แต่ในใจของเธอมีความคิดหนึ่งเกิดขึ้น พอถึงบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย เธอค่อยมาล้างแค้นนี้ละกัน

แต่เมื่อเห็นว่ารถที่เสี่ยวจิงขับมาเป็นแค่รถเก๋งสี่ที่นั่งคันหนึ่ง แถมราคาก็เป็นแค่หลักล้าน เธอเลยโมโหขึ้นมา

"มีแค่รถเก่าคันนี้หรือ?"หูเยี่ยเบิกตากว้าง มองไปที่เสี่ยวจิงที่นั่งอยู่ที่นั่งคนขับอย่างเหลือเชื่อ

รถเก่า?

เสี่ยวจิงรู้สึกจนคำพูดจริงๆ ดาราที่ร่ำรวยในปัจจุบันนี้มีอยู่มากมาย แต่คุณนึกว่าเงินแค่นั้นก็คุณนั้นมากมายมหาศาลหรือ?รถราคาหลักล้านในสายตาของคุณยังไกลเป็นรถเก่าเชียวหรือ?

คุณมองดูสิ พี่เฉินของเรานั้นทรัพย์สินหลักล้านล้าน แต่แม้กระทั่งรถเมล์เขายังนั่งได้เลย

นำคนสองคนมาเทียบกันไม่ได้จริงๆเลย

"เออ มีแต่คันนี้ ถ้าคุณไม่นั่ง ก็ออกเงินซื้อรถหรูคันหนึ่งแล้วค่อยไปเองเถอะ"เสี่ยวจิงก็เป็นคนที่มีนิสัย หูเยี่ย มายั่วยุเขาซ้ำแล้วซ้ำเล่า ทำให้เขาก็โมโหขึ้นมาหน่อย

ท่าทีอะไรเนี่ย?

พอหูเยี่ยได้ยินเช่นนี้ ก็โมโหขึ้นมาทันที

มือสองข้างเท้าสะเอว และพูดอย่างไม่พอใจ"โฆษณานี้ฉันไม่ถ่ายแล้ว รีบจองตั๋วเครื่องบินไปเมืองหลวงให้ฉันเดี่ยวนี้ ฉันจะกลับไปตอนนี้เลย"

ผู้ช่วยหลิวเห็นเช่นนี้ จึงรีบปลอบใจเธอว่า"หูเยี่ย คุณใจเย็นๆก่อนนะ สัญญานี้ได้เซ็นกับบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย พวกเราไม่สามารถผิดสัญญาโดยฝ่ายเดียวนะ เขาก็แค่บอดี้การ์ดคนนึงเอง อย่าไปสนใจเขาเลย"

ผู้ช่วยหลิวรู้อยู่แก่ใจว่าค่าโฆษณาของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียสูงมากๆ เป็นไปไม่ได้ที่บริษัทจะผิดสัญญาหรอก

ถ้าผิดสัญญาต้องชดจ่ายเงินสามสิบเปอร์เซ็นต์ นั่นเป็นเงินก้อนใหญ่มาก

แถมถ้าหากผิดสัญญา เงินนี้ก็ต้องหูเยี่ยออกเองแน่นอน

"โอเค นั้นฉันก็ไม่ไปสนใจเขา"หูเยี่ยเอ่ยเสียงเย็นชาออกมา จากนั้นเปิดประตูนั่งอยู่เบาะหลัง

ผู้ช่วยมองไปดูบอดี้การ์ดพวกนั้น สั่งให้พวกเขาเรียกรถไปที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียเอง จากนั้นก็ขึ้นรถตามหูเยี่ย

หลังจากเสี่ยวจิงนำหูเยี่ยและผู้ช่วยของเธอมาส่งที่บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียเสร็จ ก็ฝากพวกเธอให้กับทีมงานประชาสัมพันธ์ของบริษัท จากนั้นตัวเองก็กลับไปที่สวนเทคโนโลยี

ลู่เฉินก็ไม่ได้ยุ่งกับเรื่องนี้อีก

เพราะยังไงแล้วหลินอี้จุนก็แค่ให้เขาปกป้องหูเยี่ยให้ดี ลู่เฉินเห็นว่าเดิมทีเธอเองก็มีบอดี้การ์ดแปดคนแล้ว ก็เลยขี้เกลียดไปยุ่งอีก

เขาเคยต้อนรับคนใหญ่คนโตหลานคน แต่ยังไม่เคยได้เห็นคนที่หยิ่งกำเริบอย่างหูเยี่ยเลย

ถ้าพูดตามตรงนะ หูเยี่ย เป็นแค่นักแสดงคนหนึ่งเอง มีสิทธิ์อะไรมาถือตัวต่อหน้าเขา

"ท่านประธานสมาคม ก่อนหน้านี้พ่อฉันได้มาแล้ว เขาฝากฉันมาถามคุณว่า คืนนี้มีเวลาไปดูการแข่งขันฟุตบอลหรือเปล่า ทีมประเทศจีนเราแข่งกับทีมเกาหลี"พอมาถึงสมาคม เฉินจือหรานก็มาถาม

"มาแข่งที่เมืองยวี่โจวเราหรือ?"ลู่เฉินถามพล่ามปาก

ตอนนี้เรียนอยู่มหาวิทยาลัย เขาก็ชอบฟุตบอลเป็นอย่างยิ่ง เคยนอนดึกเพื่อดูการแข่งขันฟุตบอล

แต่หลังจากนั้นฟุตบอลของประเทศยิ่งเตะยิ่งแย่ แถมเขาก็ได้แต่งงานมีลูกแล้ว ก็เลยไม่ได้ดูอีก

แต่คำพูดของเฉินจือหราน กลับทำให้เขานึกถึงช่วงเวลาชมดูการแข่งขันฟุตบอลของเมื่อก่อน

"ใช่ไง คุณไม่รู้หรือ แข่งกันที่สนามกีฬาในเมืองยวี่โจวเรานี่เอง นี่เป็นศึกชิงแชมป์เอเชียรอบแรก ถ้าหากวันนี้ประเทศเราชนะทีมเกาหลีได้ ก็จะเป็นที่หนึ่งในกลุ่มแล้ว"เฉินจือหรานพูด ใบหน้ายังปรากฏความตื่นเต้นอยู่ เพียงเห็นก็รู้ว่าเธอก็เป็นแฟนคลับฟุตบอล

"โอเค ถ้ามีตั๋วเหลือ ฉันจะไปดูกับเขา"ลู่เฉินพูดพร้อมพยักหน้า

"ตั๋วที่พ่อฉันซื้อนั้นเป็นตั๋วของห้องวีไอพี นั่งได้หลายคนอยู่"เฉินจือหรานพูด

"โอเค ได้ เริ่มกี่โมง?"ลู่เฉินถาม

"เริ่มทุ่มครึ่ง กินข้าวเย็นเสร็จแล้วค่อยไปดูจะพอดีเลย เอ๊ะ จะกินข้าวเย็นด้วยกันไหม"เฉินจือหรานพูด

"เรื่องกินข้าวช่างเถอะ วันหลังค่อยกินด้วยกัน"ลู่เฉินยิ้มขึ้นมา ไม่อยากเดินใกล้กับเฉินจือหรานจนเกินไป

แม้กระทั่งเรื่องที่เธอมาเป็นผู้ช่วยนั้น ลู่เฉินก็กลัวว่าจะถูกหลินอี้จุนรู้และหึงหวงขึ้นมา

ครั้งที่แล้วเขาก็เห็นอย่างชัดเจนว่าหลินอี้จุนเป็นคนขี้หึง

เฉินจือหรานผิดหวังเล็กน้อย แต่สีหน้าไม่ได้ปรากฏออกมา

เธอยิ้มและพูดว่า"งั้นพอถึงเวลาแล้วฉันโทรหาคุณนะ

"ไม่ต้อง ฉันจะไปถึงที่สนามกีฬาตรงเวลา พวกคุณรอฉันอยู่ที่นั่นก็พอ"ลู่เฉินส่ายหน้า

"เออ ได้ค่ะ"เฉินจือหรานพยักหน้า ไม่ได้ยืนหยัด

หลังจากจัดการเรื่องที่สมาคมเสร็จ ลู่เฉินก็ได้ไปที่สวนเทคโนโลยีรอบนึง หลังจากถามเรื่องกระบวนการของSuperchipเสร็จ จึงกลับไปที่วิลล่า

ลู่เฉินพิงอยู่บนโซฟาดูข่าวอยู่ เมื่อเห็นว่าหลินอี้จุนกลับมาอย่างเศร้าโศก จึงอดไม่ได้ที่จะถามเธอว่า"เกิดอะไรขึ้น?"

"ฉันรู้สึกโมโหมากๆ" หลินอี้จุนนั่งลงไปที่ข้างๆลู่เฉิน และบ่นว่า"ไอ้ซูเปอร์สตาร์หูเยี่ยคนนั้นช่างหยิ่งกำเริบหรือเกิน"

"วันนี้ฉันก็ได้เห็นเธอด้วย หยิ่งกำเริบจริงๆ ไม่นั้นก็เปลี่ยนอีกคนเถอะ"ลู่เฉินพูด

"ช่างเถอะ ถ้าหากผิดสัญญา นั้นเงินมัดจำที่เราจ่ายนั้นก็จะหายไปเลย.แม้ว่านิสัยของหูเยี่ยไม่ดีเลย แต่สิ่งที่เปลี่ยนแปลงไม่ได้ก็คือเธอเป็นซูเปอร์สตาร์ และแฟนคลับก็มีอยู่มากมาย"หลืนอี้จุนส่ายหน้า รู้สึกว่าใช้หูเยี่ยต่อดีกว่า

ลู่เฉินยิ้มและพูดว่า"ฉันไม่เคยได้ยินหูเยี่ยคนนี้มาก่อนเลยนะ อาจจะมีชื่อเสียงเพราะถ่ายละครเรื่องหนึ่งแล้วละคนนั้นโด่งดังขึ้นมา ไม่แน่อีกช่วงสักพักหนึ่งเธออาจจะถูกลืมไปแล้วก็ได้ เห็นจากท่าทางที่หยิ่งกำเริบของเธอในวันนี้ ฉันสามารถเดาได้ว่าเธอจะโด่งดังไม่ถึงสามปีหรอก"

"นั้นก็พอแล้ว เวลาสามปีผลิตภัณฑ์ของเขาเปลี่ยนรุ่นไปนายแล้ว"หลินอี้จุนพูดด้วยรอยยิ้ม

ลู่เฉินยักไหล่ ไม่อยากพูดหัวข้อนี้ต่อ

"เอ๊ะ เดี๋ยวฉันจะไปดูการแข่งขันฟุตบอลกับเฉินกวงซิง ทีมประเทศเราแข่งกับทีมประเทศเกาหลี คุณจะไปดูหรือเปล่า?"ลู่เฉินถาม

"ช่างเถอะ พวกคุณไปกันเลย ฉันไม่ค่อยสนใจฟุตบอล คืนนี้ฉันยังต้องทำงานล่วงเวลาเพื่อวางแผนโฆษณานี้ด้วย"หลินอี้จุนพูดพร้อมส่ายหน้า

"เออ"ลู่เฉินพยักหน้า จากนั้นดูข่าวต่อ

หลังจากกินข้าวเย็นเสร็จ เขาก็ขับรถไปที่สนามกีฬาเอง

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์