คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 383

บทที่383 การเจอกับโจวเจินเฟ่ยอีกครั้ง

เมื่อเห็นโจวเจินเฟ่ย ลู่เฉินก็หรี่ตาเพ่งมอง ถ้าหากตระกูลโจวไม่มีแผนอะไรจริงๆ อีกฝ่ายคงไม่ส่งคนมาไกลถึงประเทศเจียซือแบบนี้

อย่างไรก็ตามลู่เฉินไม่ได้ลงจากรถเพื่อไปหาโจวเจินเฟ่ย ในเมื่อเขาอยู่ที่นี่แล้ว จะมีโจวเจินเฟ่ยหรือไม่มีก็เหมือนกัน ไม่ว่าอย่างไรก็ตามตระกูลโจวจะต้องมีเหตุผลที่สมเหตุสมผลให้กับเขา ถ้าไม่มี กลับไปในครั้งหน้าเขาจะต้องไปถามตระกูลโจวถึงที่บ้านของพวกเขาสักรอบซะแล้ว

ในตอนนี้โจวเจินเฟ่ยเองก็เห็นลู่เฉินเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเขาเห็นรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ของลู่เฉินหัวใจของเขาก็แทบจะกระเด็นออกมา

ปีที่แล้วเดิมทีเขาต้องการไปยวี่โจวเพื่อแย่งโครงการ แล้วยังพยายามจะลักพาตัวฉีฉีเพื่อบีบบังคับลู่เฉิน เพื่อหาฟื้นช่องทางธุรกิจกลับมาอีกครั้ง

แต่ไม่คาดคิดว่าสุดท้ายเขาก็ถูกลู่เฉินจับตัวไว้และขังเขาไว้ในห้องใต้ดินนานกว่าหนึ่งสัปดาห์

ในท้ายที่สุดพ่อของเขาเป็นคนจ่ายเงินให้ลู่เฉินเป็นพันล้านหยวน เขาถึงได้รอดชีวิตมาจากเงื้อมมือของ ลู่เฉิน ได้

เขามาที่เจียซือในครั้งนี้ แต่เดิมเขาคิดว่าลู่เฉินจะไม่สนใจช่องทางที่ขรุขระที่นี่ เพราะเมื่อปีที่แล้วลู่เฉินมีช่องว่างระหว่างพวกเขากับเสด็จท่านซางปา จนถึงตอนนี้ก็ยังไม่มีวี่แววว่าจะติดต่อหา ตระกูลของพวกเขาถึงได้คิดว่าลู่เฉินคงจะไม่สนใจโครงการในที่ชนบทแบบนี้แน่ๆเลย,

นอกจากนี้ในปีที่ผ่านมาการพัฒนาทางเทคโนโลยีของเทคโนโลยีอี้ฉีก็พัฒนาอย่างรวดเร็วเกินความคาดหมายโดยสิ้นเชิงและพวกเขาเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าลู่เฉินจะทิ้งโครงการนี้ไปแล้ว

ดังนั้นพวกเขาจึงต้องการร่วมมืออย่างลับๆกับ เสด็จท่านซางปา

ต้องเข้าใจว่า ตั้งแต่เหมืองแร่ของตระกูลโจวตกอยู่ในมือของลู่เฉินพวกเขาก็ไม่ได้นำเข้าแร่ดิบเลย ไม่เพียงแค่นั้น พวเขาได้แต่ต้องนำเข้าแร่ดิบจากข้างนอกเท่านั้น แต่ผู้ค้าอัญมณีในที่ราบภาคกลางทั้งหมดต้องนำเข้าแร่ดิบจากช่องทางเดียวกัน ทำให้อิทธิพลของตระกูลโจวลดลงเรื่อยๆ

นี่เป็นเหตุผลว่าทำไมตระกูลโจวจึงยอมเสี่ยงที่จะมาเพื่อฟื้นความร่วมมือกับเสด็จท่านซางปาอีกครั้งแบบนี้

แต่ในตอนนี้พอเห็นลู่เฉินมาที่เมืองหรื่นหม่าใบหน้าของโจวเจินเฟ่ยก็ซีดลงทันที

ความพิศดารของลู่เฉินมีแค่คนที่เคยสู้กับเขามาแล้วเท่านั้นถึงจะรู้

และเขาเองก็เป็นคนที่เคยสู้กับลู่เฉินมาแล้ว และยังพ่ายแพ้ต่อลู่เฉินมาแล้วอย่างย่อยยับ

“ กลับรถเถอะ ผมไม่ไปที่บาร์แล้ว” โจวเจินเฟ่ยพูดด้วยสีหน้าเศร้าหมอง

เขามีนัดกับลูกชายของซางปาเพื่อดื่มเหล้าในเวลานี้ พอเห็นลู่เฉินเขายังไม่มีอารมณ์จะดื่มอีก

“อ้าว จะกลับโรงแรมเลยเหรอครับ” คนขับถามอย่างงง ๆ

“ไม่กลับแล้ว ตรงไปที่สนามบินเลย” โจวเจินเฟ่ยส่ายหัวเมื่อรู้ว่าลู่เฉินและคนอื่น ๆ ก็อยู่ในโรงแรมนี้เช่นกัน เขาจะกล้ากลับไปที่โรงแรมนี้อีกหรือไง เขาต้องออกจากที่นี่ทันที ไปให้ไกลจากลู่เฉิน เขาตัดสินใจจะไปพักโรงแรมที่ใกล้สนามบินเพื่อพักผ่อนในวันนี้ จากนั้นจองตั๋วเครื่องบินสำหรับกลับบ้านในวันพรุ่งนี้

สำหรับความร่วมมือกับซางปาที่ยังไม่ได้รับการเจรจาอย่างเป็นทางการ ตระกูลโจวของพวกเขาคงต้องยอมแพ้แล้ว ไม่เช่นนั้นพวกเขาคงจะถูกลู่เฉินรุกรานอย่างหนักแน่นอน

ลู่เฉินไม่รู้ว่าโจวเจินเฟ่ยกลัวเขาจนรีบหนีไปแล้ว หลังจากที่เขาลงจากรถเขาก็พูดกับเฉินจิงว่า “พรุ่งนี้นัดเสด็จท่านซางปามาคุยกันสักครั้งเถอะ”

“แต่ว่า คุณชายคะ ถ้าสถานกงสุลมาพบเราพรุ่งนี้ล่ะคะ” เฉินจิงสงสัย เธอรู้ว่าชุยหยุ่งจวี้นและคนอื่น ๆ จะไปฟ้องร้องที่สถานกงสุลเกาหลีของพวกเขาในคืนนี้แน่นอน และสถานกงสุลเกาหลีจะติดต่อหาสถานกงสุลจีน สุดท้ายสถานกงสุลจะให้พวกเขาไปที่เมืองหลวงเพื่อไกล่เกลี่ยอย่างแน่นอน

“อย่ากังวลเรื่องพวกเขา ก่อนอื่นจัดการเรื่องที่นี่ก่อน เรื่องพวกนั้นเป็นแค่เรื่องเล็กน้อย” ลู่เฉินส่ายหัว เขาจะโทรหาเซ่เว่ยเหากับหลิวจิง เขาเชื่อว่าทั้งสองคนนี้ต้องยินดีที่จะช่วยเหลือเขาติดต่อสถานกงสุลที่นี่แน่นอน

“ได้ค่ะ แล้วฉันจะติดต่อคุณทันทีนะคะ” เฉินจิงพยักหน้าและต้องหยิบโทรศัพท์มือถือของเธอออกมาและเริ่มติดต่อกับเสด็จท่านซางปาทันที

ลู่เฉินกลับไปที่โรงแรมและอาบน้ำ หลังจากออกมาเขาก็ได้ยินเสียงเคาะประตูของเฉินจิง

อันที่จริงเฉินจิงเคาะประตูสองครั้งแล้ว เพราะเธอรู้สึกว่าเรื่องนี้สำคัญมาก ดังนั้นเธอจึงต้องการจะบอกลู่เฉินเป็นคนแรก

ประตูเปิดออกและใบหน้าของเฉินจิงก็แดงระเรื่อ เมื่อลู่เฉินสวมชุดนอนและเพิ่งออกมาจากห้องอาบน้ำ

กลิ่นของเจลอาบน้ำบนตัวของลู่เฉินทำให้หัวใจของเธอเต้นเร็วขึ้น

“ติดต่อแล้ว?” ลู่เฉินถามเฉินจิงที่เข้ามาเพราะรู้ว่าทำไมเฉินจิงถึงตามหาเขา

เฉินจิงส่ายหัวไปมา แล้วพูดว่า “ฉันติดต่อแล้วค่ะ แต่พวกเขาบอกว่าพวกเขาไม่อยากคุยกับเราและไม่ต้องการร่วมมือกับเราอีกต่อไป”

ลู่เฉินขมวดคิ้วเสด็จท่านซางปาไม่ต้องการที่จะเผชิญหน้ากับเขาอย่างนั้นหรือ?

“อืมคุณไปพักผ่อนก่อนเถอะ ถ้าสถานกงสุลโทรมาพรุ่งนี้คุณก็อธิบายเรื่องราวให้พวกเขาเข้าใจ ส่วนผมจะไปพบเสด็จท่านซางปาด้วยตัวเอง” ลู่เฉินพยักหน้า เขาจะไปจะไปหาเสด็จท่านซางปาในพระราชวังในวังพรุ่งนี้ .

“หะ? แต่พวกเขาไม่อยากเจอพวกเรานะคะ” เฉินจิงพูดด้วยความประหลาดใจ เธอรู้สึกว่าเจ้านายคงจะไม่ได้ยินที่เธอชัดเจนเท่าไหร่

“ ผมรู้แล้ว เพราะอย่างนี้ผมถึงต้องไปที่วังของเขาไงล่ะ” ลู่เฉินพูดแล้วยิ้มเล็กน้อย

“หะ!” เฉินจิงอ้าปากรู้สึกว่าเธอคิดไม่ออกจริงๆว่าเจ้านายเธอกำลังคิดอะไรอยู่

“ ถ้าอย่างนั้นเขาจะให้เราเข้าไปเหรอคะ เขาแสดงท่าทีแล้วว่าจะไม่ร่วมมือกับพวกเราแบบนั้น” เฉินจิงพูด

“ เขาจะต้องร่วมมือด้วยแน่นอน” ลู่เฉินตอบแล้วยิ้มอย่างมั่นใจ

“ คุณชายคะ คุณคงไม่ได้คิดจะใช้วิธีบีบบังคับหรอกใช่ไหมคะ” เฉินจิงมองไปที่ลู่เฉินอย่างไม่เชื่อ เธอรู้สึกว่าเจ้านายของเธอต้องบ้าไปแล้วแน่ ๆ

เธอเชื่อว่าเจ้านายเธอนั้นยอดเยี่ยมมาก แต่เสด็จท่านซางปาเป็นราชาพื้นเมืองที่มีกองทหารนับหมื่น ส่วนเจ้านายของเธอของเธอกลับคิดจะบีบบังคับเสด็จท่านซางปามันไม่ต่างจากการตีไข่ในหินเลยนะ

“จะเรียกได้ว่าเป็นวิธีบีบบังคับหรือจะเรียกว่าเป็นการคุกคามเสด็จท่านซางปา ก็ได้ มันขึ้นอยู่กับการกระทําของเขาในวันพรุ่งนี้ ผมจะปฏิบัติต่อเขาอย่างไรขึ้นออยู่กัตัวเขาเอง” ลู่เฉินพูดเบา ๆ

เฉินจิงอ้าปากกว้าง ดวงตาของเธอเต็มไปด้วยความไม่เชื่อ

บอสบ้าไปแล้วจริง ถึงได้คิดจะบุกเข้าไปในวังแบบนี้

เฉินจิงไม่รู้ว่าเธอถอยออกมาจากห้องของลู่เฉินตั้งแต่เมื่อไหร่ จนเธอกลับไปที่ห้องของตัวเองแล้ว เธอก็ยังไม่หายตะลึงอยู่ดี

บุกเข้าวัง!

นี่มันบ้าเกินไปแล้ว!

เธออยากจะควักหัวใจของลู่เฉินออกมาเพื่อดูว่ามันใหญ่แค่ไหน ถึงได้คิดแผนบ้าๆแบบนี้ออกมาได้

ตลอดทั้งคืนเฉินจิงนอนหลับไม่สนิทเลย เพราะเธอลังเลใจไม่รู้ว่าจะไปกับลู่เฉินหรือไม่

เมื่อพวกเขาตื่นขึ้นในวันรุ่งขึ้น แล้ว เสี่ยวจิงกับหลินตง รู้ว่า ลู่เฉิน กำลังจะบุกเข้าวัง ทั้งคู่ก็ชะงักไปเล็กน้อย

เมื่อคืนพวกเขาไม่เห็นกาซีเกลูข่าอยู่ในสายตาเลย เพราะกาซีเกลูข่าไม่มีกำลังภายในอะไร

แต่ในวังมันแตกต่างกันแน่นอน ที่นั่นจะต้องเป็นแดนนรก ที่มียามคุ้มกันแน่นหนา

“คุณ คุณชายใหญ่ครับ คุณคิดทบทวนก่อนดีไหมครับ ถ้าพวกตู้เฟยและกองทัพของเขามาถึง คุณชายสามารถพูดคุยกับ เสด็จท่านซางปา ได้จนพอใจเลยก็ได้นะครับ” หลินตงพูดเกลี้ยกล่อม

การแอบลักลอบเข้ามาในวังของแผ่นดินเท่ากับการเป็นกบฏ

“ไม่ ฉันจะไปวันนี้” ลู่เฉินส่ายหัวแล้วเดินลงไปชั้นล่างทันที

เสี่ยวจิงกับหลินตงมองหน้ากันไปมา และทั้งคู่มองหน้ากันด้วยความวิตกกังวลใจ

แต่สุดท้ายพวกเขาก็ยังไล่ตามไปด้วย

ในเมื่อลู่เฉินยังไม่กลัว แล้วพวกเขาจะถอยหนีได้ยังไงกัน

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์