คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 396

บทที่396 อุบายเด็ดของปาเอ่อ

อุบายนี้ของปาเอ่อ ทำให้แผนการที่ลู่เฉินวางไว้รวนไปหมด

เขาที่เป็นกองกำลังที่มาจากต่างแดน แน่นอนว่าต้องไม่สามารถบุกโจมตีปาเอ่อโดยตรง ไม่อย่างนั้นจะกลายเป็นการรุกรานประเทศอื่น

ถึงตอนนั้นสำนักงานใหญ่ป๋ายเย่าจะมีข้ออ้างนำกองกำลังมาแล้ว ถึงแม้เขาจะบ้าดีเดือด สำนักสังหารจะแข็งแกร่งมาก แต่ถ้าต้องเทียบกับกองกำลังพันธมิตรป๋ายเย่า พวกเขาเทียบไม่ได้เลย

ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่สนับสนุนให้เจ้าผู้ครองนคร (ในที่นี้หมายถึงซางปา)ขึ้นครองบัลลังก์ โดยใช้ฐานะกองทหารรับจ้างช่วยพวกเราล้มล้างระบบปกครองของปาเอ่อลง

นี่เป็นทางเดียวที่เขาจะอยู่ในประเทศเจียซืออย่างมั่นคง

“แล้วจะทำยังไงดีครับ ถ้าหากเจ้าผู้ครองนครคนอื่นๆไม่กล้าร่วมมือกับพวกเราล่ะ พวกเราไม่มาเสียเที่ยวเหรอครับ”หลินตงพูดอย่างไม่เต็มใจ

“ก็ใช่น่ะสิ ที่สำคัญคือเสียดายยูเรเนียมมากมายพวกนั้นมาก ตอนนี้เป็นช่วงที่บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีกำลังพัฒนา วัตถุดิบหายากเป็นปัจจัยที่สำคัญมาก”เสี่ยวจิงเองออกความคิดเห็นเช่นกัน

เห็นได้ชัดว่าเขารอบรู้เรื่องราวได้ละเอียดกว่าหลินตงมาก และเรื่องราวในบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี เขาก็รู้รายละเอียดมากกว่าหลินตงด้วย

“หลังจากกลับถึงโรงแรมบอกให้หวงไห่ทาวติดต่อผู้ครองนครคนอื่นๆให้ได้”ในเมื่อหวงไห่ทาวเป็นเอกอัครราชทูตที่ประจำอยู่ที่นี่ เขาจะต้องคุ้นเคยกับผู้ครองนครของที่นี่ทุกคนเป็นอย่างดี ถ้าให้เขาเป็นคนออกหน้า ลู่เฉินคิดว่าโอกาสที่จะสำเร็จจะมีมากกว่าหลายส่วน

หลังจากกลับถึงโรงแรม ลู่เฉินยังไม่ทันได้ไปหาหวงไห่ทาว อีกฝ่ายก็เดินทางมาหาเขาก่อนแล้ว

“ประธานลู่ครับ การทำสงครามในครั้งนี้คงจะไม่จบลงในช่วงเร็วๆนี้ใช่ไหมครับ ทีมงานของพวกเรายังอยู่ในมือพวกเขา จะทำยังไงดีครับ” หวงไห่ทาวพูดด้วยสีหน้าที่ไม่ค่อยดีนัก

“คุณยังไม่ได้รายงานเรื่องนี้ให้เบื้องบนฟังเหรอ”ลู่เฉินย้อนถามกลับ

“รายงานแล้วครับ ทางเมืองหลวงกำลังกดดันป๋ายเย่าอยู่ แต่คนพวกนั้นเป็นกองกำลังฝีมือดี ถึงแม้จะรู้ว่าพวกเขาเป็นกองกำลังที่ประเทศMสะสมขึ้นมาในภาคตะวันออกกลาง แต่ประเทศMไม่มีทางยอมรับเรื่องนี้แน่ๆ น่ากลัวว่ากองกำลังนี้ฆ่าปิดปากตัวประกัน”หวงไห่ทาวพูดด้วยความกังวลใจ

“ไม่หรอก ถ้าหากพวกเขาต้องการจะฆ่าปิดปากทีมงานของเราทั้งหมด คงจะไม่จับตัวคนของเราไปขังไว้เฉยๆ พวกเขาน่าจะใกล้ติดต่อหาคุณแล้วล่ะ”ลู่เฉินส่ายหน้าไปมา

ทหารรับจ้างพวกนั้นล้วนแต่เป็นลูกน้องของนายพลหมี่เล่อ ส่วนใหญ่จะเห็นแก่เงินทอง อีกทั้งการฆ่าคนหัวเซี่ยแค่ไม่กี่คนมันไม่ได้อะไร แล้วยังจะทำให้คนหัวเซี่ยโมโหด้วย ถึงแม้หัวเซี่ยจะไม่ส่งกองกำลังมาอย่างออกนอกหน้า และจะต้องส่งกองกำลังเพื่อช่วยเหลือประเทศที่เป็นคู่อริกับพวกเขามาทำลายล้างพวกเขาอย่างแน่นอน

โดยที่เมืองหลวงของหัวเซี่ยจะต้องติดต่อเฮยกวนเป็นสิ่งแรกแน่นอน ถึงแม้เฮยกวนจะไม่ยอมรับ แต่ก็คงจะติดต่อหาหมี่เล่อ เพราะพวกเขาคงไม่คิดจะมีปัญหาแตกหักกับหัวเซี่ยเพื่อเรื่องแค่นี้แน่นอน

ดังนั้นลู่เฉินเชื่อว่าหมี่เล่อคงจะไม่โง่ถึงขนาดนั้น เพื่อจะฆ่าคนแค่ไม่กี่คนจะต้องเอาชีวิตของตัวเองมาแรก

“อืม ผมก็หวังว่าอย่างนั้นครับ” หวงไห่ทาวถอนหายใจออกมา

“จริงสิ เอกอัครราชทูตหวง คุณรู้จักกับผู้ครองนครคนอื่นด้วยใช่ไหม”ลู่เฉินเอ่ยถาม

“มีเคยติดต่อกันครับ มีอะไรหรือเปล่าครับ”หวงไห่ทาวพยักหน้าตอบรับ ก่อนจะถามกลับ

“คุณน่าจะเข้าใจผู้ครองนครทุกคนพอสมควรใช่ไหม คุณช่วยติดต่อหนึ่งในผู้ครองนครที่คุณรู้สึกน่าเชื่อถือที่สุด แล้วบอกเขาว่าผมจะช่วยพวกเขากอบกู้ประเทศกลับคืนมาให้”ลู่เฉินพูดออกมากะทันหัน

เรื่องนี้ยกให้เป็นหน้าที่ของหวงไห่ทาวไปจัดการ ดูจะน่าเชื่อถือมากกว่า เพราะไม่ว่าจะเป็นเขา หรือว่าเฉินจิ้ง ล้วนแต่ไม่เข้าใจเรื่องราวของผู้ครองนครของที่นี่สักเท่าไหร่

“ประธานลู่คิดจะช่วยพวกเขากอบกู้เจียซือมาจากพระราชวงศ์ปาเอ่อเหรอครับ แต่ตอนนี้พระราชวงศ์ปาเอ่อมีกองทัพของเกาะอิงลอนกับทหารรับจ้างของหมี่เล่อสนับสนุนอยู่นะครับ”หวงไห่ทาวตกใจ ก่อนจะเอ่ยถาม

“ใช่ มีแต่ต้องให้คนที่ผมไว้วางใจดูแลพระราชวงศ์เจียซือ พวกเราถึงจะได้ผลประโยชน์มากที่สุด”ลู่เฉินพยักหน้าแล้วพูด

เหมืองแร่ยูเรเนียมที่เซิ่งหูอานเขาจะต้องเอามาครอบครองให้ได้

ไม่อย่างนั้นการมาที่เจียซือในครั้งนี้ของเขา ก็จะไม่มีประโยชน์อะไรเลย

“ได้ข่าวว่ากองทัพใหญ่ของปาเอ่อมีกองทัพของเกาะอิงลอนกับหมี่เล่อร่วมมือด้วย จำนวนทหารรวมแล้วมีถึงห้าหมื่นคน ผู้ครองนครคนอื่นถ้าหากไม่ร่วมมือกัน ไม่มีทางสู้กับเขาได้ ดังนั้นถ้าหากมีแค่ผู้ครองนครคนเดียวที่คิดจะต่อสู้กับปาเอ่อก็ไม่มีความหมายอะไรเลยนะครับ”หวงไห่ทาวส่ายหน้าไปมา เขารู้สึกว่าแผนการของลู่เฉินมุทะลุเกินไป

“วางใจได้ ในกองกำลังห้าหมื่นคนของพวกเขามีแค่ทหารรับจ้างของหมี่เล่อหนึ่งหมื่นนายที่มีกำลังรบจริง ขอแค่พวกเขาจู่โจมทุกด้านพร้อมกัน กองทัพทหารสามหมื่นปาเอ่อก็จัดการได้ไม่ยาก”ลู่เฉินพูดก่อนจะยกยิ้ม

หวงไห่ทาวอ้าปากค้าง ไม่รู้ว่าควรจะพูดอะไรดี นอกจากตกใจก็คือตกใจ

พอเห็นว่าลู่เฉินไม่มีท่าทีว่าล้อเล่น เขาก็พูดเสียงขรึม “ผู้ครองนครขู้ปานั้น ผมติดต่อกับเขาบ่อยที่สุดครับ เขาเป็นผู้ครองนครที่มีสัมพันธมิตรกับหัวเซี่ยของเรามากทที่สุด ตอนที่ผู้ครองนครขู้ปายังหนุ่มเขาเคยไปเรียนแลกเปลี่ยนเย็นจิง เขาบอกว่าชื่นชอบมิตรภาพและวัฒนธรรมของประเทศเรามาก หลายปีก่อนเกิดสงครามระหว่างผู้ครองนคร บิดาของเขาถูกยิงจนเสียชีวิต เขาจึงรับตำแหน่งผู้ครองนครแทนที่ ผมคิดว่าเขาน่าจะยินยอมร่วมมือกับประธานลู่นะครับ แต่ว่าเขามีกองกำลังอยู่แค่ประมาณหนึ่งหมื่นห้าพันคน คงจะช่วยอะไรไม่ได้มากนะครับ”

“ถ้าหากเขามี ความทะเยอทะยานที่จะกอบกู้ประเทศ ก็ให้เขามาหาผม บอกเขาว่าผมสามารถช่วยเขากอบกู้ประเทศได้”ลู่เฉินพยักหน้าขึ้นลง

เขาไม่ได้ต้องการให้ขู้ปามีกำลังที่แข็งแกร่งอะไรมาก เขาแค่อยากให้ขู้ปามีความกล้าที่จะแตกหักกับปาเอ่อ

ในตอนนี้ปาเอ่อยึดเซิ่งหูอานไว้ ถือว่าได้ครอบครองสมรภูมิที่ดี แล้วยังมีอิงลอนกับหมี่เล่อคอยสนับสนุน แน่นอนว่าผู้ครองนครคนอื่นไม่มีใครกล้าเป็นศัตรูกับปาเอ่อ

รวมทั้งปาเอ่อได้ออกประกาศแล้ว ดังนั้นคนที่กล้ามีปัญหากับปาเอ่อคงจะมีไม่มาก

แต่ถ้าหากขู้ปากล้าสู้กับปาเอ่อจริงๆ เขาก็มีความมั่นใจว่าตัวเองสามารถช่วยให้ขู้ปาขึ้นไปนั่งบนบัลลังก์ได้

“ผมต้องพูดเรื่องของคุณให้อีกฝ่ายรู้ไหมครับ”หวงไห่ทาวถาม

อืม คุณบอกเขาได้ ว่ากองกำลังสำนักสังหารของผมหนึ่งหมื่นนายได้เดินทางมาถึงเมืองหรื่นหม่าแล้ว”ลู่เฉินพยักหน้าให้ แน่นอนว่าต้องบอกขู้ปาไว้ถึงความแข็งแกร่งของพวกเขา ไม่อย่างนั้นขู้ปาไม่มีทางกล้ามีปัญหากับปาเอ่อแน่นอน

“ได้ครับ”หวงไห่ทาวพยักหน้าเข้าใจ เขาเองก็ไม่รู้ว่าที่ลู่เฉินพูดมาเป็นเรื่องจริงหรือเปล่าแต่เขาคิดว่าสามารถช่วยงานลู่เฉินเล็กน้อย สำหรับเขาแล้วนับว่าเป็นเรื่องดี

หลังจากหวงไห่ทาวออกไปแล้ว ลู่เฉินก็หยิบบุหรี่ขึ้นมาหนึ่งมวน แล้วลุกขึ้นเดินไปทางหน้าต่าง

เขาดึงผ้าม่านออก แล้วมองลงไปที่ผู้คนในเมืองหรื่นหม่าที่เดินผ่านไปมาอยู่ด้านล่าง ก่อนที่สายตาจะจ้องมองไปสุดขอบฟ้า ในใจเริ่มทอดถอนใจ

สนามธุรกิจก็คือสนามรบ ทุกก้าวของตัวหมากจะเดินผิดไม่ได้ เพราะตัวหมากทุกตัวเต็มไปด้วยความสำคัญ

จากความสำเร็จของเขาในตอนนี้ เขาสามารถหยุดพักได้แล้ว

แต่เขายังหยุดตอนนี้ไม่ได้

เขารู้ว่าตอนนี้ยังไม่ใช่เวลาที่เขาจะหยุดพักได้ ถึงแม้เขาอยากจะหยุดพัก ประเทศก็ไม่ยอมให้เขาหยุดพักแน่นอน

และที่สำคัญที่สุดคือ เขาเองก็หวังว่าในขณะที่เขายังมีชีวิตอยู่ บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีของเขาจะสามารถช่วยเหลือประเทศและช่วยเหลือประชาชนให้ได้มากที่สุด

ดังนั้นในตอนนี้บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี จึงไม่ใช่แค่บริษัทของเขาแต่เพียงผู้เดียวแล้ว

“พี่เฉิน กำลังคิดอะไรอยู่เหรอครับ”

ในขณะนั้นเอง เสี่ยวจิงเปิดประตูเดินเข้ามา แล้วเดินมาหยุดข้างๆลู่เฉิน

ลู่เฉินหันกลับไปมองหน้าเสี่ยวจิง ก่อนจะส่ายหน้า แล้วพูด “ไม่ได้คิดอะไรหรอก”

“พี่เฉิน มีข่าวรายงานมาว่ากองทัพพระราชวงศ์เจียซือที่ต่อสู้กับทหารรับจ้างของหมี่เล่อหนีมาถึงเมืองหรื่นหม่าแล้วครับ เราลองไปคุยกับหัวหน้าทัพของเขาดูไหมครับ ผมคิดว่าพวกเขาคงอยากกอบกู้เซิ่งหูอานคืนมามากกว่าคนอื่นแน่นอน”เสี่ยวจิงพูด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์