บทที่ 421 สรุปสิ้นปีครั้งที่สอง1 – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์
ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 421 สรุปสิ้นปีครั้งที่สอง1 จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 421 สรุปสิ้นปีครั้งที่สอง1
ลู่เฉินพยักหน้า การวิเคราะห์ของเฉินจือหรานมีเหตุผล เหมือนกับที่เธอพูด ทุกอย่างก็สมเหตุสมผล
ตั้งแต่บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีของเขาปีที่แล้วทำการเปิดตัวเครื่องบินรบรุ่นที่หก รวมถึงจรวดแม่เหล็กไฟฟ้าไฮเปอร์โซนิกออกมา ประเทศ M ก็สูญเสียความเป็นผู้นำในโลกไปในทันที เมื่อต้องเผชิญหน้ากับเครื่องบินรบ Mie-100 รุ่นที่ 6 ของหัวเซี่ยและจรวดแม่เหล็กไฟฟ้าไฮเปอร์โซนิกที่ติดตั้งมาด้วยของหัวเซี่ย ถึงแม้พวกเขาจะส่งเครื่องบินรบ F22 ออกมายี่สิบสามสิบคันก็ยากที่จะกำจัดเครื่องบินรบ Mie-100 รุ่นที่ 6 เพียงลำเดียวได้
ทั้งนี้จรวดแม่เหล็กไฟฟ้าไฮเปอร์โซนิกก็ยิ่งเป็นอาวุธที่ไม่ว่าระบบป้องกันรูปแบบใดของพวกเขาก็ไม่สามารถป้องกันได้ เมื่อเกิดการสู้รบขึ้นมา อาวุธทั้งสองอย่างนี้ก็สามารถทำให้พวกเขาสูญเสียทั้งน่านฟ้าได้อย่างง่ายดาย
คนของประเทศ M ไม่มีทางที่จะยอมสูญเสียตำแหน่งอำนาจสูงสุดนี้ไปอย่างแน่นอน เพราะฉะนั้นการค้นคว้าวิจัยอาวุธชีวเคมีเพื่อมาต่อกรกับหัวเซี่ยก็เป็นเรื่องปกติ และเป็นเป็นเรื่องที่มีความเป็นไปได้สูงอยู่แล้ว
ลู่เฉินไม่ได้ทำการตัดสินใจในทันที เขานั่งลงบนโซฟา แล้วโทรหาเซ่เว่ยเหา เพื่อถามเขาว่าข่าวนี้เป็นจริงหรือไม่
เซ่เว่ยเหาคือคนใหญ่โตที่มาจากเมืองหลวง มีฐานะและตำแหน่งที่ใหญ่โต น่าจะรู้อะไรมากกว่า
“เรื่องนี้เป็นเรื่องที่รุนแรงมาก ฉันพึ่งจะโทรหาคนที่อยู่เมืองหลวง ความหมายของพวกเขาคือ พรุ่งนี้กับมะรืนนี้จะทำการอพยพคนของประเทศเราทั้งหมดออกไปจากประเทศตงอิ๋ง แน่นอนว่า ทุกคนต่างก็หวังว่าเรื่องนี้จะไม่รุนแรงอย่างที่คิดกันไว้”
นี่คือสิ่งที่เซ่เว่ยเหาบอกกับลู่เฉิน
เมื่อวางสายจากเซ่เว่ยเหา สีหน้าของลู่เฉินก็ไม่ดีนัก ดูท่าเรื่องนี้จะรุนแรงมากจริงๆ
“จองตั๋วเครื่องบินวันพรุ่งนี้ พรุ่งนี้เรากลับประเทศกันเถอะ ตลาดที่นี่ทิ้งไปก่อน” ลู่เฉินพยักหน้าพร้อมกับตัดสินใจ
ตลาดที่ตงอิ๋งค่อนข้างน่าสนใจทีเดียว แต่เขาไม่ได้ขาดแค่ตลาดนี้ มุ่งไปที่เอเชียตะวันออกกับยุโรปก็ถือว่าเพียงพอแล้ว
พอดีกับที่ตงอิ๋งและประเทศ M ต่างก็อยากที่จะกำจัดบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีของเขาอยู่แล้ว งั้นก็ให้พวกเขากำจัดไปเถอะ
เมื่อกลับถึงประเทศ ลู่เฉินก็ไม่ได้สนใจสถานการณ์ที่ตงอิ๋งอีกแล้ว
ในเมื่อยังไงเขาเองก็ตัดสินใจทิ้งขนมเค้กที่นั่นแล้ว ก็ไม่จำเป็นที่จะต้องเสียแรงไปสนใจตงอิ๋งอีกอีกต่อไป
แต่กระนั้น เขาก็ยังคงให้ความสนใจกับการระเบิดของบริษัทชีวภาพ ซึ่งเหมือนว่ามันจะไม่ได้รุนแรงอย่างที่คิดไว้
แต่เมืองหลวงก็ยังคงยืนยันที่จะอพยพคนของประเทศกลับมาตามเดิม พร้อมทั้งยังเตือนประชาชนให้งดการเดินทางไปที่ตงอิ๋งในช่วงเวลานี้
ยังมีอีกหลายประเทศที่ตัดสินใจอพยพประชาชนของประเทศกลับเหมือนกับหัวเซี่ย
แต่เมื่อเห็นว่าประเทศ M ไม่ได้อพยพประชาชนกลับประเทศแต่อย่างใด ก็มีหลายประเทศที่ไม่ได้ตัดสินใจอพยพประชาชนของประเทศตนเองกลับ
นี่เป็นสิ่งที่ทำให้ลู่เฉินยากที่จะมองสถานการณ์ได้อย่างชัดเจน
หลังจากนั้นเขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องนี้อีก
เวลาเดินมาถึงท้ายปีอย่างรวดเร็ว ในปีนี้นั้น นอกจากตงอิ๋งเกิดปัญหาขึ้น แผนการทุกอย่างของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีต่างก็ประสบความสำเร็จลุล่วงไปด้วยดี แน่นอนว่ายังคงต้องจัดการสรุปท้ายปีและแผนการในปีถัดไป
การประชุมประจำปีในปีนี้นั้น บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีได้เชิญสมาชิกของสหพันธ์ธุรกิจทุกคนเข้าร่วมงาน ซึ่งสหพันธ์ธุรกิจทั้งหมดต่างก็พัฒนาร่วมกันกับบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี พวกเขาต่างก็ถือว่าเป็นสมาชิกส่วนหนึ่งของบริษัทเช่นกัน
เมื่อมองภาพรวมในปีที่ผ่านมากับการเริ่มต้นสงครามใหญ่ป๋ายเย่าแรกของประเทศ M ต่างก็เป็นสงครามที่เกี่ยวข้องกับพลังงานทั้งสิ้น
เพราะฉะนั้น การเกิดขึ้นของเทคโนโลยีฟิวชั่นนิวเคลียร์ที่ควบคุมได้นั้นคือกุญแจสำคัญในการแก้ไขปัญหาพลังงานให้หมดไป
อันดับแรก ถ้าหากสามารถใช้เทคโนโลยีฟิวชั่นนิวเคลียร์ที่ควบคุมได้ในการผลิตกระแสไฟฟ้าได้ ถ้าเช่นนั้นค่าใช้จ่ายในส่วนของไฟฟ้านั้นก็จะลดลงเรื่องๆ ซึ่งเมื่อค่าใช้จ่ายส่วนนี้ลดลงก็หมายความว่าเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้น ต้นทุนในการผลิตกระแสไฟฟ้าก็จะลดลง ค่าไฟก็จะลดลงไปด้วย
อันดับที่สอง ถ้าหากสร้างเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชัน อัตรากำลังของเครื่องยนต์ชนิดนี้จะน่ากลัวมาก หากนำไปติดตั้งในยานอวกาศจะมีกำลังแรงมากกว่าSaturn Vที่ใช้สำรวจดวงจันทร์ด้วยซ้ำ ซึ่งมันสามารถบรรทุกน้ำหนักมากเป็นพันเป็นหมื่นตันไปกลับยังดวงจันทร์ ดวงอังคาร ดาวพฤหัสและดาวอื่นที่อยู่ในระบบระบบสุริยะได้อย่างสบายๆ
ในปีหน้าไตรมาสที่สาม บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะทำการค้นคว้าวิจัยรถแลนด์โรเวอร์ดาวอังคาร โดยได้เตรียมเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันใหม่ล่าสุดเพื่อผลักดันโครงการดังกล่าว
เมื่อเทียบกับเทคโนโลยีอวกาศความเร็วสูงสุดขององค์กร NASA ในปัจจุบัน การใช้รถแลนด์โรเวอร์เพื่อเดินทางไปถึงดาวอังคารจะต้องใช้เวลานานประมาณเจ็ดเดือน
แต่เครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันที่อยู่ในโครงการของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีนั้น สามารถลดเวลาการเดินทางของรถแลนด์โรเวอร์เหลือเพียงเวลาประมาณหนึ่งเดือนเท่านั้น
ซึ่งก็หมายความว่า เครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันรุ่นแรกที่บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะทำการค้นคว้าวิจัยนั้น ก็จะมีความเร็วมากกว่าความเร็วในอวกาศอย่างอื่นในปัจจุบันได้มากกว่าเจ็ดเท่า นี่คือตัวเลขที่น่ากลัวเป็นอย่างมาก
ที่สำคัญที่สุดก็คือ เครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันจะเป็นกุญแจสำคัญในการสำรวจระบบสุริยะในอนาคตของมนุษยชาติ
สามารถคาดเดาได้ว่า ถ้าหากปีหน้าบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีสามารถค้นคว้าพัฒนาเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันออกมาได้ ถ้าเช่นนั้นมนุษย์เราก็มีโอกาสที่จะสามารถสร้างยานอวกาศได้อย่างในภาพยนตร์วิทยาศาสตร์ได้
เพราะว่าเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันเท่านั้นที่จะสามารถส่งยานอวกาศลำใหญ่เช่นนั้นจากพื้นผิวโลกไปยังอวกาศได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์