บทที่ 43 วิกฤตบ้านคุณตา
“หยู่ฮันส์?”
เมื่อลู่เฉินมองเห็นผู้หญิงนั้นเขาเอ่ยชื่อเธอออกมาโดยอัตโนมัติ
เธอคือลูกพี่ลูกน้องของเขาคนหนึ่งชื่อว่าหยู่ฮันส์
“พี่เฉิน?” หยู่ฮันส์ถามขึ้นด้วยความงุนงงคล้ายกับไม่เชื่อ
“ใช่ พี่เอง พี่เพิ่งเดินทางมา” ลู่เฉินพยักหน้า
“แต่คุณลุงบอกว่าพี่ตายแล้ว?” โมหยู่ฮันส์ถามด้วยความสงสัย
“ใช่ สำหรับเมืองหลวงนี้พี่ตายแล้ว” ลู่เฉินไม่ได้พูดถึงเหตุผลที่ชัดเจน เขาเชื่อว่าคนอย่างโมหยู่ฮันส์นั้นคงเข้าใจในความหมายเขาดี
เป็นไปดังคาด โมหยู่ฮันส์พยักหน้ารับรู้ เธอคิดว่าคงมีเหตุผลที่ซับซ้อนบางประการ จึงได้จัดฉากให้ลู่เฉินเสียชีวิตในครั้งนั้น
“วันนี้เป็นวันครบรอบจากไปของคุณอา ที่บ้านไม่มีใครว่าง ฉันเลยเคารพศพอาแทนทุกคน” โมหยู่ฮันส์นำดอกไม้และผลไม้มาวางที่หน้าหลุมศพของแม่ลู่เฉิน
เมื่อโมหยู่ฮันส์ทำการเคารพหลุมศพเรียบร้อยแล้ว ลู่เฉินจึงถามขึ้นว่า “คุณตาคุณยายสุขภาพเป็นอย่างไรบ้าง?”
พวกท่านทั้งสองสุขภาพแข็งแรงดี ถ้าพี่ว่างก็เยี่ยมพวกท่านหน่อยไหม ถ้าพวกท่านเห็นว่าพี่ยังมีชีวิตอยู่คงจะดีใจมาก สองวันก่อนพูดถึงเรื่องยุบตัวของบ้านตระกูลลู่ก็ยังพูดถึงคุณอากับพี่อยู่เลย คุณยายเสียใจอยู่ตั้งนาน” โมหยู่ฮันส์พูด
“ครั้งหน้าแล้วกันนะ ตอนนี้พี่ไม่สะดวกไปพบใคร” เมื่อนึกถึงคำพูดของหยุนลาว ลู่เฉินจึงตัดสินใจไม่ไปพบพวกเขาในครั้งนี้ หากข่าวลือแพร่กระจายไปคงไม่ดี
“ค่ะ อย่างนั้นก็ได้” โมหยู่ฮันส์พยักหน้า
เรื่องการจัดฉากให้ลู่เฉินตาย อีกทั้งการที่ลุงเขยยุบตัวบ้านตระกูลหลี่จากเมืองหลวงไป บ่งบอกได้ว่ามีเรื่องที่เป็นอันตรายจะเกิดขึ้นกับลู่เฉิน เธอจึงเข้าใจความรู้สึกนี้
“อ้อ อีกอย่างอย่าให้ใครรู้ว่าพี่มาที่นี่นะ” ลู่เฉินกำชับ หากแม่ใหญ่ของเขารู้เรื่องนี้เข้ารับรองว่าเธอต้องมาบีบหาข้อมูลจากโมหยู่ฮันส์เป็นคนแรก เมื่อถึงเวลานั้นโมหยู่ฮันส์คงตกที่นั่งลำบาก
“ค่ะ เข้าใจแล้ว” โมหยู่ฮันส์ตอบ
เมื่อทั้งสองเดินออกมาจากสุสานก็พบรถ A8คันหนึ่งวิ่งมาหยุดอยู่ที่หน้าของพวกเขา จากนั้นมีชายหญิงวัยรุ่นคู่หนึ่งเดินลงมาจากรถ
ชายหนุ่มนั้นหน้าตาหล่อเหลา ส่วนหญิงสาวก็สะสวยไม่แพ้กัน
“โมหยู่ฮันส์นี่แฟนเธอเหรอ? เชยๆแบบนี้เธอชอบไปได้ยังไงกัน เอาอะไรมองเนี่ย” ชายหนุ่มมองมาที่ลู่เฉินด้วยสายตาดูถูก
“เขาคือ......”เมื่อนึกได้ถึงคำพูดของลู่เฉินเธอจึงไม่พูดประโยคต่อไป
“เหอะ สรุปว่าดีกว่าบางคนที่อ่อนแอแต่ชอบอวดเก่งแล้วกัน” โมหยู่ฮันส์ตอบ
ชายหนุ่มสีหน้าเปลี่ยนไปเป็นไม่พอใจแล้วพูดว่า “งั้นเหรอ อีกไม่กี่วันตระกูลโมก็จะล้มละลายแล้ว คนบางคนจากเจ้าหญิงคงกลายเป็นยาจก ก็สมควรแล้วที่จะคบหากับคนระดับเดียวกัน”
พูดจบก็พาหญิงสาวเดินเข้าไปข้างในสวน
“ตระกูลโมจะล้มละลาย เกิดอะไรขึ้น?” ลู่เฉินถามขึ้น จากที่เขาเคยรู้มาธุรกิจของบ้านตระกูลโมราบรื่นมาโดยตลอด
โมหยู่ฮันส์ครุ่นคิดแล้วบอกว่า “เมื่อสองเดือนก่อนบริษัทของเราทำโครงการในเขตตะวันตกด้วยงบประมาณกว่าหนึ่งพันห้าร้อยล้าน กู้เงินจากธนาคารมาหนึ่งพันล้าน แต่ไม่รู้ว่าเพราะอะไรสองวันก่อนเกิดการเปลี่ยนแปลงกะทันหัน ให้เราใช้หนี้คืนทันที”
เมื่อลู่เฉินได้ยินก็เข้าใจอย่างถ่องแท้
ธุรกิจของคุณตาโดยส่วนใหญ่มีพ่อของเขาคอยสนับสนุนอยู่ ตอนนี้พ่อของเขายุบตัวลงและไปจากเมืองหลวง เท่ากับว่าตระกูลโมไม่มีผู้สนับสนุนใดๆ
เมื่อขาดผู้สนับสนุน ก็คงถูกตระกูลอื่นรังแกได้โดยง่าย
จากสถานการณ์ในตอนนี้ไม่เพียงแต่จะถูกธนาคารตามทวงหนี้สิน คาดว่าบรรดาที่ไม่ถูกกับตระกูลโมเหล่านั้นคงใช้โอกาสในการกลั่นแกล้งด้วย
“หนึ่งพันล้านใช่ไหม ไปบอกคุณตานะว่าพี่ช่วยได้” ลู่เฉินพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์