บทที่ 438 ปล่อยกำลังภายใน
“ได้ ผู้เฒ่าอย่างฉันตกลง”
ลู่เฉินส่งจดหมายท้ามาแล้วหลายครั้ง ถ้าลู่หลิงเซียวยังเพิกเฉยต่อไป เขาก็จะกลายเป็นผู้อาวุโสใหญ่ที่ไร้เกียรติ
พอทุกคนเห็นว่าผู้อาวุโสใหญ่รับคำท้าลู่เฉินต่างก็มีสีหน้ายิ้มเยาะ
แม้ว่าเมื่อครู่นี้บอดี้การ์ดของลู่เฉินจะเอาชนะผู้อาวุโสสี่ได้ แต่พวกเขาก็ไม่เชื่อว่าบอดี้การ์ดคนนั้นจะเป็นคู่ต่อสู้ของผู้อาวุโสอีกสามท่านได้
ผู้อาวุโสอีกสามท่านล้วนแข็งแกร่งกว่าผู้อาวุโสสี่
ยิ่งไปกว่านั้นคราวนี้คนที่ออกมาต่อสู้ก็คือลู่เฉิน
ลู่เฉินไม่ได้เติบโตอยู่ในตระกูลนักศิลปะการต่อสู้มาตั้งแต่เด็ก แม้ว่าลู่เทียนสิงจะเป็นคนสอนวิชาศิลปะการต่อสู้เขามากับมือ แต่เขาจะแกร่งถึงขนาดไหนกัน?
“ผู้อาวุโสใหญ่ตอบรับเงื่อนไขอะไรกับลู่เฉิน?” ลู่ไห่และคนอื่นๆถามคนในครอบครัวสายหลักที่เพิ่งเข้ามาในห้องโถงของลู่เทียนสิง
ครอบครัวของพวกเขาไม่ใช่ครอบครัวสายหลักจึงไม่มีสิทธิ์เข้าไปยังที่ของลู่เทียนสิง เว้นแต่ว่าลู่เทียนสิงจะอนุญาต
“เจ้าเด็กนี่หยิ่งผยองเกินไปแล้ว เมื่อกี้มันเพิ่งเดิมพันกับพวกผู้อาวุโสใหญ่ของพวกเรา โดยบอกว่ามันรับคำท้าผู้อาวุโสคนไหนก็ได้ ถ้ามันแพ้ มันจะยกบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีให้และจะยอมให้ตระกูลเราลงโทษแต่โดยดี แต่ถ้ามันชนะ ทั้งตระกูลลู่จะต้องอยู่ภายใต้การควบคุมของมัน” คนในครอบครัวสายหลักกล่าว
“ให้ตายเถอะ มันกร่างขนาดนี้เลยเหรอ? ใครให้มันกล้าถึงขนาดท้าทายผู้อาวุโสพวกนั้น?” ลู่ไห่เบิกตากว้างอย่างไม่อยากจะเชื่อ
“จริงด้วย ถึงบอดี้การ์ดคนนั้นจะแข็งแกร่งมาก แต่ก็คงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเหล่าผู้อาวุโสหรอกมั้ง” ลู่เว๋ยเว๋ยพูดด้วยความประหลาด
“ไม่ใช่บอดี้การ์ดของมัน แต่มันจะลงมือเอง” คนในครอบครัวสายหลักย้ำ
“มันจะลงมือเองเนี่ยนะ?” ลู่เว๋ยเว๋ยไม่อยากจะเชื่อเลยจริงๆ เธอมองลู่เฉินด้วยความงุนงง ดูแล้วลู่เฉินน่าจะอยู่ในวัยยี่สิบกว่าปี ซึ่งอายุไม่ได้มากไปกว่าเธอ ทั้งยังไม่เคยฝึกซ้อมกับตระกูลอย่างเป็นระบบมาตั้งแต่เด็ก เขาไปเอาความมั่นใจมาจากไหน?
ใช่ ตอนนี้คนทั้งตระกูลลู่ล้วนมองไปที่ลู่เฉิน พวกเขาอยากจะรู้นักว่าลู่เฉินไปเอาความมั่นใจมาจากไหน
ทว่าลู่เทียนสิงกับลู่ไห่อิงเป็นข้อยกเว้น
ก่อนที่เสี่ยวจิงจะเอาชนะผู้อาวุโสสี่ได้นั้น แม้ว่าลู่เฉินจะบอกว่าเขามีฝีมือในการบ่มเพาะผู้มีระดับแข็งแกร่งไร้เทียมทานได้ แต่พวกเขาก็ยังคงสงสัย
อย่างไรก็ตามหลังจากที่เสี่ยวจิงเอาผู้อาวุโสสี่ได้แล้ว พวกเขาก็ไม่สงสัยในตัวลู่เฉินอีกต่อไป
บางทีลู่เฉินอาจจะมีความแข็งแกร่งพอที่จะเอาชนะผู้อาวุโสใหญ่ก็เป็นได้
แต่ยิ่งเชื่อก็ยิ่งรู้สึกตกใจ
เพราะนี่เป็นเรื่องที่น่าทึ่งและถือว่าเป็นประวัติศาสตร์
“ปู่ ไม่แปลกใจเลยที่ปู่เป็นปู่ของผม” ลู่เฉินยกนิ้วโป้งให้ลู่หลิงเซียวโดยมีความหมายว่าลู่หลิงเซียวช่างกล้าหาญเสียจริงๆ
นี่ทำให้ลู่หลิงเซียวโมโหจนแทบกระอักเลือด
คิดไม่ถึงว่าหลานชายของเขาจะไม่รู้จักที่ต่ำที่สูงแบบนี้ เขาโกรธมากจนอยากจะสอนบทเรียนให้ลู่เฉิน
“ปู่ เมื่อเทียบกับปู่สองแล้ว ปู่แกร่งกว่าหรือปู่สองแกร่งกว่าล่ะ?” ลู่เฉินถาม
ลู่หลิงเซียวหน้าแข็งทื่อ เขาไม่คิดจะตอบคำถามนี้ของลู่เฉิน
“แน่นอนว่าปู่ของแกแกร่งกว่าอยู่แล้ว แต่แกไม่ต้องห่วง ศึกครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องให้ปู่ของแกลงมือ ถ้าแกเอาชนะฉันได้ ตระกูลลู่ทั้งหมดก็ขึ้นอยู่กับแก” ผู้อาวุโสสองพูดด้วยความเย็นชา
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์