คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 439

บทที่ 439 เอาชนะผู้อาวุโสสอง

ตู้เฟยและคนอื่นๆตกใจมากเมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสสองสามารถปล่อยกำลังภายในได้

เพราะแข็งแกร่งกว่าพวกเขามาก

แม้ว่าพวกเขาจะกินยาวิวัฒนาการยีน แต่เมื่อเทียบกับผู้อาวุโสสอง พวกเขาก็พบว่าตัวเองต่างก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเลย

เนื่องจากพวกเขายังไม่ได้ไปถึงขั้นปล่อยกำลังภายในได้

“ดูเหมือนว่าผู้อาวุโสของตระกูลลู่จะแข็งแกร่งจริงๆ!” ตู้เฟยถอนหายใจ

“อืม ก่อนหน้านี้ที่ฉันเอาชนะผู้อาวุโสสี่เป็นเพราะฉันยังเด็กและได้รับความได้เปรียบอย่างมากในด้านความแข็งแกร่งทางกายภาพ ด้วยเคล็ดวิชาศิลปะการต่อสู้ของตระกูลลู่ที่ซับซ้อนมาก ถ้าประมาทก็จะถูกจู่โจมเอาได้ และถ้าตอนนั้นยังต่อสู้ต่อไป ฉันก็อาจจะไม่ชนะ” เสี่ยวจิงพยักหน้าพูด

“ฉันเดาว่าแม้ว่าผู้อาวุโสสามจะไม่แข็งแกร่งเท่ากับผู้อาวุโสสอง แต่พวกเราก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาอยู่ดี” เซียวจ้านพูด

พวกเขามองไปทางผู้อาวุโสสามแล้วพยักหน้า

สำหรับฉุยหู่สามเจ้าและนักขโมยหลิวจื่อซิว พลังวิเศษของพวกเขาทั้งสี่คนยังห่างชั้นกับตู้เฟย เสี่ยวจิง เซียวจ้านมาก

เมื่อเห็นว่าผู้อาวุโสสองปล่อยกำลังภายใน ดวงตาลู่เฉินก็สว่างวาบด้วยความประหลาดใจ

เขาคิดว่าปู่ของเขาอาจบรรลุถึงขั้นปล่อยกำลังภายในไปแล้ว แต่ไม่คิดเลยว่าผู้อาวุโสสองจะได้รับการฝึกฝนจนถึงขั้นนี้เช่นกัน ก่อนหน้านี้เขาประเมินพวกผู้อาวุโสตระกูลลู่ต่ำไปหน่อย

แต่เขากลับไม่ได้เป็นกังวล

เพราะเขาเองก็สามารถปล่อยกำลังภายในได้แล้ว เขามีความมั่นใจอย่างมากว่าจะสามารถเอาชนะผู้อาวุโสสองได้

ผู้อาวุโสสองยกฝ่ามือขึ้นมาแล้วหันไปประทับตัวลู่เฉิน

ฝ่ามือของเขาดูเหมือนจะสงบ แต่ด้านหน้าของฝ่ามือกลับมีพิมพ์ฝ่ามือที่มีพลังแข็งแกร่งขนาดใหญ่พุ่งออกมา

พิมพ์ฝ่ามือนี้เกิดจากการกลั่นตัวของพลังงานที่แท้จริงที่มาจากกำลังภายใน มีพลังอนุภาครุนแรง ตราบใดที่โดนกระแทกเข้าอย่างจังก็จะสามารถทำลายก้อนหินขนาดใหญ่กว่าห้าสิบกิโลได้ด้วยฝ่ามือเดียว

ลู่เฉินไม่ได้ตื่นตระหนกแต่อย่างใด เขาบีบฝ่ามือขวา อากาศที่อยู่ในฝ่ามือก็ถูกเขาบีบอย่างรุนแรง จากนั้นอากาศที่ระเบิดออกก็ควบแน่นรอบๆกำปั้นจึงทำให้กำปั้นเขาถูกห่อหุ้มไปด้วยอากาศ

เพียงหมัดเดียวก็เหมือนกับสายรุ้ง

ตู้ม!

ฝ่ามือและหมัดชนกัน ทำให้เกิดเสียงดังนั่นหู คลื่นพลังอันทรงพลังเล็ดลอดออกมาจากฝ่ามือและหมัดของทั้งสองคน ทุกคนรู้สึกเพียงว่าในขณะนี้ความกดอากาศเพิ่มขึ้นอย่างมากและหายใจไม่สะดวก

ร่างของผู้อาวุโสสองสั่นเล็กน้อย ใบหน้าของเขาเผยให้เห็นถึงความตกใจ เขาไม่คาดคิดว่าลู่เฉินก็ปล่อยกำลังภายในได้

ต้องรู้ว่าทั้งโลกอิ่นมีเขากับผู้อาวุโสใหญ่ได้บรรลุมาถึงระดับนี้แล้ว แต่ลู่เฉินกลับไม่เคยผ่านการฝึกฝนอย่างเป็นระบบกับตระกูลมาตั้งแต่เด็ก เขาทำได้อย่างไร?

ในเวลานี้ผู้อาวุโสใหญ่และคนอื่นๆก็ตกใจเช่นกัน

ลู่เฉินแค่เพียงต่อสู้กับผู้อาวุโสสองแต่กลับทำให้พวกเขาอกสั่นขวัญแขวนซะแล้ว

ปล่อยกำลังภายในเข้าสู่แดนเทพ นี่คือพลังวิเศษขั้นสูงสุดของศิลปะการต่อสู้

ลู่เฉินอายุแค่ยี่สิบกว่า แต่ทำไมเขาถึงแข็งแกร่งขนาดนี้?

เขาฝึกฝนจนถึงขั้นสูงสุดของศิลปะการต่อสู้ได้ในวัยยี่สิบ พวกเขาไม่เคยพบเห็นมาก่อนในประวัติศาสตร์นับพันปีของตระกูลลู่

ตอนที่ทุกคนกำลังตกตะลึง ลู่เฉินกับผู้อาวุโสสองก็ต่อสู้กันเกือบจะสิบกระบวนท่าแล้ว

ทั้งสองคนต่างก็เป็นผู้มีระดับแข็งแกร่งที่สามารถปล่อยกำลังภายในได้ รู้สึกถึงแรงดันขนาดใหญ่ในขณะที่ยกมือยกเท้าและเห็นเพียงภาพติดตาเท่านั้น

การออกตัวด้วยความเร็วแสดงให้เห็นถึงความล้ำเลิศ

แต่เนื่องจากทั้งสองต่างก็เป็นผู้มีระดับแข็งแกร่งที่สามารถปล่อยกำลังภายในได้ ความแข็งแกร่งอันทรงพลังของพวกเขาจึงไม่มีใครเทียบได้

ทุกคนได้ยินเพียงเสียงตูมตามอย่างไม่ขาดสาย คลื่นพลังที่กระจัดกระจายไปทั่วยิ่งแข็งแกร่งมากขึ้นเรื่อยๆ

ทุกต่างเริ่มพากันถอยออกไป

ตู้เฟยและคนอื่นๆมายืนขวางข้างหน้าหลินอี้จุนและฉีฉีเพราะกลัวว่าทั้งสองจะได้รับผลกระทบจากคลื่นพลังงานที่กระจัดกระจาย

“ใช่แล้ว พวกเขาสู้กันไปกี่กระบวนท่าแล้ว?”

ผู้อาวุโสสองแพ้แล้ว?

ทุกคนไม่อยากจะเชื่อว่าผู้อาวุโสสองจะแพ้จริงๆ

แพ้ให้กับลู่เฉินในวัยยี่สิบกว่า

ทำไมเขาถึงเป็นได้ถึงขนาดนี้!

จริงสิ พวกเขาต่อสู้เกินยี่สิบกระบวนท่าหรือยัง?

ทุกคนมองไปที่ผู้อาวุโสสองอย่างคาดหวัง ในใจต่างก็คิดว่าอย่างไรก็ต้องเกินยี่สิบกระบวนท่าอย่างแน่นอน

แต่ในช่วงเวลาต่อมา เสียงของผู้อาวุโสสองก็ดังขึ้นอีกครั้ง ทุกคนในตระกูลลู่ต่างหน่ายใจ

“ผู้เฒ่าอย่างฉันแพ้แล้ว ต่อไปนี้ตระกูลลู่ทั้งหมดตกเป็นของแก” ผู้อาวุโสสองไม่อยากยอมรับแต่ก็ต้องยอมรับ

ความแข็งแกร่งของลู่เฉินทำให้เขาเชื่อมั่นไปโดยปริยายและในขณะเดียวกันเขาก็ค่อนข้างโล่งใจ

เพราะไม่ว่าจะอย่างไร ลู่เฉินก็เป็นสายตรงของตระกูลลู่ เลือดที่ไหลผ่านร่างกายเป็นเลือดสายตรงของตระกูลลู่

ดังนั้นการที่มอบตระกูลลู่ให้ลู่เฉิน พวกเขาจึงไม่มีความเห็นใด

คนที่มีพรสวรรค์ที่ไม่มีใครเทียบได้อย่างลู่เฉิน มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะดูแลตระกูลลู่ทั้งหมด

“พ่อ อาสองใช้ไม่ถึงยี่สิบกระบวนท่าจริงเหรอ?” ลู่จือสิงถามด้วยความตกใจ

“ไม่หรอก ครบสิบเก้ากระบวนท่าพอดี แต่ลู่เฉินตั้งใจอ่อนข้อให้ ถ้าไม่เป็นเพราะลู่เฉินยอมอ่อนให้ ตอนที่ถึงกระบวนท่าที่ยี่สิบ อาสองของแกก็คงแพ้ไปแล้ว” ลู่หลิงเซียวกล่าว

“ไม่เลว ความสามารถของลู่เฉินไร้ข้อกังขา แน่นอนว่าฉันไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ไม่เพียงแต่ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขาเพราะแม้แต่พ่อแกลงมือต่อสู้ด้วยตัวเองก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา ลู่เฉินถือว่าเป็นผู้มีระดับแข็งแกร่งอันดันหนึ่งแห่งตระกูลลู่ นับจากนี้ไปตระกูลลู่ทั้งหมดจะต้องฟังการเตรียมการจากลู่เฉิน ห้ามมิให้ผู้ใดต่อต้าน!” ผู้อาวุโสสองกล่าวอย่างเคร่งขรึม

“ผมไม่ยอม ถึงมันจะมีพลังมหาศาลก็ไม่มีสิทธิ์มานำตระกูลลู่!”

ในเวลานี้เห็นเพียงลู่หมิงที่ตะโกนออกมา