คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 442

บทที่ 442 แผนอันบ้าระห่ำ

แผนงานของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีปีนี้ได้ทำการประกาศในการประชุมประจำปีเรียบร้อยแล้ว ดังนั้นทุกคนจึงรู้ว่าบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะเปิดตัวเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้ในไตรมาสแรกของปีนี้

นี่คือเทคโนโลยีชั้นยอดที่เปลี่ยนแปลงชีวิตมนุษย์และยังเป็นสัญญาณว่าเทคโนโลยีของมนุษย์ได้ก้าวเข้าสู่ยุคหลังอารยธรรมไปอีกขั้น

ผู้คนทั่วโลกต่างรอคอยว่าบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีจะนำการเปลี่ยนแปลงอะไรในการดำรงชีวิตมาสู่มนุษยชาติหลังจากที่เปิดตัวเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้

โดยรวมแล้วในช่วงสองปีที่ผ่านมาเทคโนโลยีที่ใช้ในครัวเรือนที่เปิดตัวโดยบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีได้เปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการใช้ชีวิตของมนุษย์หลายอย่าง

ยกตัวอย่างเช่น เครื่องยนต์อเนกประสงค์ที่ช่วยลดต้นทุนรถทั้งคันไปมาก โดยทั่วไปจึงทำให้ราคารถยนต์ลดลงด้วยเช่นกัน กลุ่มคนที่เดิมทีไม่มีกำลังซื้อก็ซื้อรถได้มากขึ้น

ประการที่สองคือการเปิดตัวหุ่นยนต์อัจฉริยะ โดยอย่างแรกหุ่นยนต์อัจฉริยะได้เข้ามาแทนที่พนักงานส่งของและพนักงานส่งอาหาร แม้ว่าจะทำให้พนักงานส่งของและส่งอาหารตกงานและทำให้รู้สึกไม่เป็นที่ฮือฮาเหมือนเช่นเคย แต่ในไม่ช้าบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีก็ได้ร่วมมือกับทางรัฐบาลเพื่อแก้ไขปัญหาด้านอาชีพให้กับทุกคน

เพียงเท่านี้ก็ช่วยให้ทุกคนมีการเตรียมความพร้อม ในอนาคตงานประเภทนี้มีแนวโน้มที่จะถูกแทนที่ด้วยหุ่นยนต์มากขึ้นเรื่อยๆ

ดังนั้นในเวลานี้คนทั่วทั้งโลกต่างเชื่อกันว่าตราบใดที่บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีเปิดตัวเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้ รูปแบบการใช้ชีวิตของมนุษย์ทั้งหมดจะพลิกกลับมาอีกครั้ง

แน่นอนว่าเป็นการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น

พลังงานแสงอาทิตย์ถูกนำมาใช้อย่างแพร่หลาย ทรัพยากรเช่นน้ำมันและถ่านหินจะไม่ได้เป็นสิ่งจำเป็นในชีวิตอีกต่อไป

ด้วยการส่งเสริมเทคโนโลยีไร้คนขับรถยนต์จะก้าวไปสู่การขับขี่อัตโนมัติแบบไร้คนขับ พฤติกรรมการใช้ชีวิตจะเปลี่ยนไปมากขึ้นเรื่อยๆโดยบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี

ช่วงปลายเดือนมีนาคม ในที่สุดบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีได้รายงานความเคลื่อนไหวว่าอีกสามวันต่อมาจะมีการจัดงานแถลงข่าวเปิดตัวเทคโนโลยีนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้ไปทั่วโลก

ทันทีที่ข่าวออกไปก็เป็นที่ฮือฮาไปทั่วทั้งโลก ผู้รายงานข่าวจากนานาประเทศต่างรีบเดินทางไปที่ยวี่โจวเพื่อเข้าร่วมงานแถลงข่าวของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี

แน่นอนว่าหลังจากที่พวกเขาออกข่าวนี้ หัวหน้าแผนกหลิวหลิวฉางเฟิงก็ได้เดินทางมายังยวี่โจวในวันนั้น จากนั้นเซ่เว่ยเหากับผู้ติดตามได้เจรจาถึงความเป็นไปได้ในการซื้อเทคโนโลยีนี้กับลู่เฉินและคนอื่นๆ

ท้ายที่สุดลู่เฉินก็ตัดสินใจที่จะยกสิทธิบัตรเทคโนโลยีเครื่องยนต์นิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้ให้กับประเทศโดยที่ประเทศจ่ายเงินเป็นจำนวนหนึ่งหมื่นล้านเป็นการชดเชย

เงินจำนวนหนึ่งหมื่นล้านกลายเป็นตัวเลขทางดาราศาสตร์สำหรับยักษ์ใหญ่ในวงการอันนับไม่ถ้วน แต่สำหรับลู่เฉินแล้ว มันเป็นเพียงผลกำไรต่อปีส่วนหนึ่งของบริษัทเท่านั้น เขาไม่ได้สนใจเลย

แน่นอนว่าเขารู้ว่าเพื่อที่จะได้รับการสนับสนุนและการปกป้องจากรัฐ เขาจะต้องยอมเสียเลี่ยงผลกำไรจากเทคโนโลยีที่สำคัญมากมาย

สำหรับเทคโนโลยีในครัวเรือนและพาณิชยกรรม หลิวฉางเฟิงไม่ได้ร้องขอและลู่เฉินก็ไม่พร้อมที่จะปล่อยมันไป

เพราะอย่างไรก็ตามสถานีพลังงานนิวเคลียร์ฟิวชันที่ควบคุมได้จำเป็นต้องร่วมมือกับรัฐ

ทุกคนรวมถึงลู่เฉินพยักหน้าโดยไม่รู้ตัว พวกเขารู้สึกว่าการวิเคราะห์ของติงต้าเฉิงนั้นสมเหตุสมผล

“แล้วพวกคุณคิดว่าเราจำเป็นต้องเข้าร่วมหรือไม่?” ลู่เฉินมองไปทางกลุ่มผู้บริหาร

“จำเป็น จำเป็นแน่นอน” ติงต้าเฉิงพยักหน้าอย่างหนัก

“อันดับแรกพวกเราเข้าร่วมหน่วยงานอวกาศ ไม่ว่าพวกเขาจะมีเทคโนโลยีอวกาศที่สมบูรณ์หรือไม่ แต่สำหรับพวกเราแล้วมีแต่ได้กับได้ไม่มีเสีย เนื่องจากหน่วยงานอวกาศสงสัยว่าตอนนี้พวกเรามีเทคโนโลยีครบชุด เป้าหมายของเขาก็คืออยากให้พวกเราจัดหาเทคโนโลยีให้ และถ้าหากพวกเราไม่ออกตัวเข้าร่วมกับพวกเขา จะทำให้พวกเขาคิดว่าเรามีเทคโนโลยีอวกาศครบชุดจริงๆ อย่างน้อยพวกเราจะได้คลายข้อสงสัยของพวกเขา”ติงต้าเฉิงอธิบาย

“อืม” ลู่เฉินพยักหน้าเห็นด้วยกับการวิเคราะห์ของติงต้าเฉิง

ดังที่กล่าวไว้ว่าไม้ใหญ่โดนลมโค่น สองปีมานี้บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีทำตัวอวดดีมากเกินไป อาจเป็นการทำให้พวกยักษ์ในวงการเกิดความไม่พอใจและอิจฉาริษยาอยู่ไม่น้อย ในแง่บางแง่ก็มีความเป็นไปได้ว่าอาจจะเจตนาทำให้บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีอับอาย

“ในเมื่อประเทศมีโครงการดาวอังคาร งั้นเรามาเปลี่ยนกลยุทธ์กันเถอะ...”

ทันใดนั้นความคิดที่กล้าหาญก็ปรากฏขึ้นในใจของลู่เฉิน สาเหตุของความกล้าหาญคือแผนงานนี้ได้รับการเสนอโดยนักวิทยาศาสตร์หลายคนแล้ว แต่เนื่องจากไม่มีการสนับสนุนทางเทคโนโลยีจึงไม่แน่ว่าจะเป็นจริงในอีกสิบปีข้างหน้า

เมื่อเวลาผ่านไปเทคโนโลยีชั้นนำก็ถูกถอดรหัสโดยบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีมากขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นแม้ว่าลู่เฉินจะรู้สึกว่าแผนงานนี้บ้าระห่ำ แต่ก็มีความเป็นไปได้

ตราบใดที่เขาทำมันให้เป็นจริง บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีทั้งหมดจะกลายเป็นบุคคลชั้นนำแห่งมวลมนุษยชาติ