บทที่ 441 ผมไม่สนใจตระกูลลู่ – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์
ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 441 ผมไม่สนใจตระกูลลู่ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที
บทที่ 441 ผมไม่สนใจตระกูลลู่
ในตอนนี้ใจเขารู้สึกซับซ้อน
เพราะมีเรื่องที่น่าประหลาดใจกว่านั้น
ใช่ วันนี้ลู่เฉินพกพาเรื่องน่าประหลาดใจมาให้เขามากมาย มันเกินคาดไปมาก
เขารู้ดีว่าลูกชายตัวเองโดดเด่นมากและเขาก็เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดในการดำรงตำแหน่งผู้นำครอบครัวในอนาคต
แต่ไม่คาดคิดเลยว่า
ลู่เฉินจะโดดเด่นได้ถึงขั้นนี้ เหนือความคาดหมายของเขาโดยสิ้นเชิง!
“ไม่ต้องหรอก ผมไม่ได้สนใจจะเป็นผู้นำครอบครัวอะไรทั้งนั้น ตอนนี้ไม่สน ในอนาคตก็ไม่สน ผมก็แค่ต้องการแหล่งแร่ธาตุหายากในประเทศพรูลันเซียเท่านั้น”
ในตอนนี้คำพูดของลู่เฉินทำให้ทุกคนตกใจ
ลู่เฉินดูถูกแม้กระทั่งการเป็นผู้นำครอบครัวตระกูลลู่ เขาถึงขนาดดูหมิ่นตระกูลลู่ นี่มันเย่อหยิ่งถึงขนาดไหนกัน?
แต่ในเวลานี้พวกเขาก็พบว่าลู่เฉินมีเงินทุนในการเย่อหยิ่ง
ประการแรกในด้านศิลปะการต่อสู้ ผู้อาวุโสสองทำไม่จบครบยี่สิบกระบวนท่าภายใต้เงื้อมมือเขา นี่ก็ถือว่าครอบคลุมแล้ว
ประการที่สองด้วยความแข็งแกร่งและอิทธิพลของบริษัทเทคโนโลยีอี้ฉี ประเทศพรูลันเซียทั้งหมดสามารถถูกทำลายได้ภายในไม่กี่นาที และนี่ก็ไม่ใช่สิ่งที่พวกเขาคาดหวัง
แม้ว่าพวกเขาจะไม่เคยคิดถึงประเด็นเหล่านี้ แต่บริษัทเทคโนโลยีอี๋มีสิ่งนี้เป็นจุดแข็ง
ลู่เทียนสิงและผู้อาวุโสทั้งห้าต่างก็ตกตะลึงเล็กน้อย
ก่อนหน้านี้ลู่เฉินบอกไว้ไม่ใช่เหรอว่าขอแค่เขาชนะ ก็จะเข้าควบคุมตระกูลลู่?
แต่ตอนนี้กลับบอกว่าเขาไม่สนใจตระกูลลู่?
หรือว่าในสายตาของเขา ตระกูลลู่ทั้งหมดดีไม่เท่าแหล่งแร่ธาตุหายากอะไรนั่น!
ใช่แล้ว ในสายตาลู่เฉิน ตระกูลลู่ทั้งหมดดีไม่เท่าแหล่งแร่ธาตุหายาก!
เขาไม่มีความรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของตระกูลลู่ และไม่คิดว่าในขณะที่เพิ่งเดินทางมาวันนี้ ตระกูลลู่จะทำลายขีดจำกัดของเขาทุกวิถีทาง มันได้ทำลายสายสัมพันธ์อันน่าสมเพชของเขา
ตระกูลลู่ในสายตาคนอื่นคือผู้ครอบครองประเทศเกาะแห่งนี้ เป็นตระกูลอันดับหนึ่งแห่งโลกอิ่น มีชีวิตอยู่โดยไม่มีใครเทียบได้
แต่สำหรับเขาแล้ว ครอบครัวที่ไม่มีความรู้สึกผูกพันก็เป็นแค่ภาระ
เขาไม่พึ่งตระกูลลู่หาเงินและไม่คิดจะเลี้ยงดูปูเสื่อคนตระกูลลู่
ดังนั้นไม่สู้มาพูดตามความเป็นจริงเสียดีกว่า
ก่อนที่เขาจะมา เขาได้ตรวจสอบสถานการณ์ประเทศพรูลันเซียมาแล้ว ประเทศพรูลันเซียมีแหล่งแร่ธาตุหายากอย่างแบสต์นีไซต์อยู่ที่หนึ่ง โดยมีปริมาณที่ค่อนข้างน่าทึ่งอย่างมาก ซึ่งเป็นผลพลอยได้จากเหมืองถ่านหินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศพรูลันเซีย เนื่องจากประเทศพรูลันเซียทำเหมืองถ่านหินเป็นหลักและขุดแร่แบสต์นีไซต์เป็นงานเสริม
เนื่องจากสาเหตุในด้านเทคโนโลยีเป็นหลักจึงมีการขุดกันน้อยมาก ดังนั้นพวกเขาจึงซื้อมาจากประเทศอื่นๆในแถบยุโรปในรูปของแร่ดิบโดยตรง
แร่แบสต์นีไซต์เป็นแร่ธาตุหายากที่สำคัญมาก มันเป็นวัตถุดิบสำคัญในการสกัดธาตุดินมูลสารจากกลุ่มซีเรียม
โดยทั่วไปแล้วองค์ประกอบของกลุ่มซีเรียมจะใช้ในการทำโลหะผสมเพื่อเพิ่มระดับความยืดหยุ่น ความเหนียวทนทาน และความแข็งแรงของโลหะ ซึ่งเป็นอะไหล่สำคัญในการผลิตเครื่องบินเจ็ท เครื่องบินรบรุ่น 5 รุ่น 6 ขีปนาวุธทุกรูปแบบ เครื่องยนต์และรวมไปถึงเครื่องจักรทนความร้อนต่างๆ
ทั้งยังใช้เคลือบป้องกันพลังงานรังสีเป็นต้น นอกจากนี้องค์ประกอบของกลุ่มซีเรียมยังสามารถใช้ทำแก้วสีได้ทุกชนิด
แร่ธาตุหายากประเภทนี้จึงเป็นสิ่งที่บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีต้องการ
แม้ว่าลู่เฉินจะไม่อยู่ในตระกูลต่อไปและเป็นการจุดประกายความหวังให้พวกเขาอีกครั้ง แต่พวกเขาก็รู้ว่าการที่ลู่เฉินออกจากตระกูล นับว่าเป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดของทั้งตระกูล
หลังจากกลับมาถึงยวี่โจว ทุกอย่างก็ดำเนินไปตามปกติ ช่วงนี้ Rare Earth Group ได้กักตุนแร่ธาตุหายากไว้จำนวนหนึ่ง ลู่เฉินจึงขนส่งกลับมายังยวี่โจวโดยตรง
ปัจจุบันRare Earth Groupสกัดวัตถุดิบหายากทุกวัน นอกเหนือจากการจัดหาซัพพลายเออร์วัตถุดิบแร่ธาตุหายากรายใหญ่ในประเทศแล้ว ลู่เฉินก็ไม่ส่งออกวัตถุดิบแม้แต่กรัมเดียว
หัวเซี่ยเป็นประเทศที่กักตุนแร่ธาตุหายากมากที่สุดในโลก เนื่องจากไม่มีเทคโนโลยีการสกัด แร่ธาตุหายากในอดีตล้วนเป็นแร่ดิบที่ขายให้ต่างประเทศทั้งหมด จากนั้นตัวแทนจำหน่ายวัตถุดิบหายากของหัวเซี่ยก็ซื้อวัตถุดิบหายากกลับคืนมาจากต่างประเทศ ชาวต่างชาติจึงได้กำไรหัวโต
อย่างไรก็ตามตั้งแต่ลู่เฉินก่อตั้ง Rare Earth Groupในจงไห่ เหมืองแร่ธาตุหายากทั้งหมดของหัวเซี่ยล้วนเสนอขายให้กับRare Earth Group ไม่ว่าประเทศMและประเทศใหญ่ๆประเทศอื่นจะคัดค้านอย่างไร หัวเซี่ยก็ต่อต้านแรงกดดันและไม่ส่งออกแร่ธาตุหายากออกไปแม้แต่กรัมเดียว
อย่างไรก็ตามผู้ค้าวัตถุดิบหายากเหล่านั้นที่อยู่ในประเทศก็ย่อยวัตถุดิบเหล่านั้นไม่ได้อยู่แล้ว ดังนั้นลู่เฉินจึงกักตุนวัตถุดิบมากมายเหล่านั้นทั้งหมดเพื่อเตรียมไว้ใช้ภายหลัง
หลังจากถอดรหัสเทคโนโลยีชั้นยอดมากมายในลูกปัด ลู่เฉินก็ตระหนักถึงความสำคัญของวัตถุดิบหายาก ในอนาคตมันจะกลายเป็นวัตถุดิบหายากที่อุตสาหกรรมนับไม่ถ้วนจำเป็นต้องใช้ ดังนั้นการกักตุนไปอีก4-5ปีถือว่าเป็นกำไรมหาศาล
คนส่วนใหญ่ในบริษัทยังไม่เข้าใจว่าทำไมลู่เฉินถึงไม่ส่งออกวัตถุดิบหายากเหล่านี้ เพราะRare Earth Groupจะได้มีผลกำไรเพิ่มถึงสองเท่าภายในระยะเวลาสั้นๆ
แต่การที่ลู่เฉินกักตุนโดยไม่ส่งออกไปแบบนี้ย่อมส่งผลกระทบกับผลประโยชน์ของคนจำนวนมาก ดังนั้นในช่วงเวลานี้ผู้บริหารหลายคนของRare Earth Groupในจงไห่โดยเฉพาะผู้บริหารบางคนที่มีหุ้นลมต่างก็เกิดเสียงวิพากษ์วิจารณ์
อย่างไรก็ตามพวกเขามีสิทธิในการจ่ายเงินปันผลเท่านั้น ไม่มีสิทธิในฐานะผู้ถือหุ้น แม้ว่าหลายคนจะร้องเรียน แต่ก็ไม่เป็นผล
ดังนั้นสวี่ซูถิงจึงหารือกับเขาอยู่หลายครั้งเกี่ยวกับเรื่องนี้ แต่เขาก็ยังยืนหยัดในความคิดของตัวเอง
ไม่รู้ว่าทำไมลู่เฉินมักจะรู้สึกอยู่ตลอดว่าอาจจะเกิดเหตุการณ์สำคัญขึ้นในอนาคตอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การกักตุนวัตถุดิบหายากเหล่านี้เป็นสิ่งที่เขาคิดโดยจิตใต้สำนึกคล้ายกับมีอะไรบางอย่างที่ลิขิตให้มาควบคุมความรู้สึกนึกคิดของเขาโดยให้เขามุ่งมั่นที่จะสะสมวัตถุดิบหายากถึงขนาดนี้
ลู่เฉินรู้สึกถึงมันได้ เขาไม่มีเสียงหรือความรู้สึกใดๆที่จะต่อต้านเลย
จนกระทั่งหนึ่งปีกว่าที่ผ่านมานี้ ความหลงใหลในแร่ธาตุหายากของเขาก็มีมากกว่าวัตถุดิบอื่นใด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์