สรุปตอน บทที่ 444 สิ้นหวัง – จากเรื่อง คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
ตอน บทที่ 444 สิ้นหวัง ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง คุณพ่อสายเปย์ โดยนักเขียน ลู่ลู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 444 สิ้นหวัง
ช่วงเทศกาลตรุษจีนทั้งประเทศหัวเซี่ยล้วนไม่มีใจอยากจะฉลองตรุษจีน เนื่องจากผู้คนนับไม่ถ้วนยังอยู่ในสภาวะตื่นตระหนก
ปีนี้ทั้งโลกถูกปกคลุมไปด้วยความมืดมน แม้ว่าจะไม่ได้เกิดเหตุจลาจลที่ใหญ่โตอะไร เพราะสาเหตุหลักก็คือทุกคนยังคงเชื่อมั่นในนักวิทยาศาสตร์
แต่ความเชื่อนี้ย่อมเปลี่ยนไปตามกาลเวลาอย่างช้าๆ ณ เวลานั้นไม่มีใครรู้ว่าสถานการณ์ที่ไม่คาดคิดจะเกิดขึ้น
ลู่เฉินเองก็รู้สึกหนักอึ้งมากเช่นกัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งหลังจากที่เขามีส่วนร่วมในการถอดรหัสไวรัส D เขาก็รู้สึกหงุดหงิดอย่างอธิบายไม่ถูก
เนื่องจากไวรัส D ผิดเพี้ยนมากเกินไปจึงไม่สามารถถอดรหัสได้ด้วยเทคโนโลยีของมนุษย์ในปัจจุบัน
ลู่เฉินได้วางแผนที่เลวร้ายที่สุดไว้ในใจของเขาแล้ว
ดังนั้นหลังจากเทศกาลตรุษจีนเขาจึงถอนตัวจากการวิจัยเกี่ยวกับไวรัส D ทำให้นักวิทยาศาสตร์บางส่วนที่เตรียมใช้แผนสำรองตกอยู่ในสภาพอับจนหนทาง
วันนี้ลู่เฉินรับโทรศัพท์จากเฉิงหู่ ในสายเฉิงหู่บอกเขาว่าการเพาะปลูกเมล็ดโพธิ์ประสบความสำเร็จอย่างมาก พวกเขาค้นพบเทคโนโลยีในการเร่งการเจริญเติบโตของเมล็ดโพธิ์แล้วและครั้งนี้ก็เก็บเกี่ยวเมล็ดโพธิ์ได้ถึง500กิโลกรัม
เมื่อลู่เฉินรับสายนี้เขาก็ไปที่ต้าหลี่โดยเร็วที่สุด
จนถึงขณะนี้ตามที่เขากล่าวไว้ว่าไม่มีนักศิลปะการต่อสู้คนใดในหัวเซี่ยที่ติดเชื้อไวรัส D ดังนั้นเขาจึงวางแผนที่จะสกัดชุดยาวิวัฒนาการยีนเพื่อปรับปรุงสมรรถภาพทางร่างกายของผู้คนรอบตัวเขา
หลังจากมาถึงต้าหลี่ ลู่เฉินก็ไม่รอช้าและขอให้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์สกัดยาวิวัฒนาการยีนทันที
ครั้งล่าสุดเมล็ดโพธิ์จำนวนครึ่งกิโลกรัมสกัดยาวิวัฒนาการยีนออกมาได้สิบเม็ดโดยที่วัตถุดิบหนึ่งในสามถูกทิ้งไป
จากการคำนวณด้วยวิธีนี้ เมล็ดโพธิ์ห้าร้อยกิโลกรัมชุดแรกสามารถสกัดได้อย่างน้อยประมาณหนึ่งหมื่นเม็ด
แน่นอนว่าหลังจากที่พวกเขาสกัดมันอยู่หลายครั้งด้วยเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้ว คาดว่าจะสกัดออกมาได้ประมาณหนึ่งหมื่นเม็ด
ทว่าหนึ่งหมื่นเม็ดก็ยังไม่เพียงพอต่อคนทั้งบริษัท
และยามหัศจรรย์อย่างยาวิวัฒนาการยีนชนิดนี้จะต้องทำให้คนทั้งโลกอิจฉาอย่างแน่นอน ถ้าเขาใช้มันกับพวกพนักงานบริษัทก็เห็นจะไม่ได้
“ลองวิจัยดูว่าเราสามารถลดประสิทธิภาพของยาแล้วเพิ่มกำลังการผลิตได้หรือไม่ พวกคุณลองคิดถึงความเป็นไปได้ดูซิ” ลู่เฉินพูดกับทีมนักวิจัย
กว่าจะเก็บเกี่ยวเมล็ดโพธิ์ชุดที่ 2 ต้องใช้เวลาถึงหนึ่งปี และตอนนี้เขาก็จำใจที่ต้องทำเช่นนี้
แม้ว่าพวกเขาจะเชี่ยวชาญวิธีการเพาะปลูก แต่อัตราการงอกของเมล็ดโพธิ์ก็ยังน้อยมากและเป็นการยากที่จะเพาะปลูก
อีกหนึ่งเดือนกว่า ลู่เฉินให้ทางต้าหลี่ทำการวิจัยเทคโนโลยีโดยการลดประสิทธิภาพของยาวิวัฒนาการยีนลงครึ่งหนึ่ง ในอีกทางด้านหนึ่งก็วางแผนเตรียมการถ้าหากเจอทางตัน
ตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมาสถานการณ์เลวร้ายลงเรื่อยๆ ข่าวที่ว่านักวิจัยติดไวรัส D ก็ไม่รู้ว่าแพร่ออกไปได้อย่างไร นี่จึงทำให้ผู้คนที่เก็บกดความตื่นตระหนกมาตลอดปีระเบิดออกมาในที่สุด ทวีปยุโรปครึ่งหนึ่งเกิดเหตุจลาจลอยู่หลายครั้ง เหตุการณ์จลาจลเกิดขึ้นบ่อยถึงขนาดที่ทางการทหารระงับเหตุไว้ไม่ได้แล้ว
ทางด้านแอฟริกาก็มีประเทศเล็กๆที่รัฐบาลถูกโค่นล้มด้วยเหตุจลาจล
สถานการณ์ในประเทศMก็เลวร้ายมากเช่นกัน ทั้งยังเกิดเหตุจลาจลขนาดใหญ่ในหลายทวีป
แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่ายาวิวัฒนาการยีนจะสามารถยับยั้งเชื้อไวรัส D ได้จริงหรือไม่ แต่จากการวิเคราะห์ทางการรักษาทางการแพทย์ในหลายๆกรณีพบว่ามีคนที่สุขภาพแข็งแรงติดเชื้อไวรัสน้อยมาก
เขาเตรียมศึกษาค้นคว้ายาวิวัฒนาการยีนสเกลเล็กและผลิตยาวิวัฒนาการยีนสเกลเล็กในปริมาณที่มากขึ้น เพื่อให้คนจำนวนมากได้เพิ่มสมรรถภาพทางร่างกาย
“ถ้ามันสำเร็จล่ะก็ นั่นถือว่าเป็นโชคดีของมวลมนุษยชาติ!”
ลู่เฉินแอบกำหมัดแน่นและตัดสินใจสกัดยาวิวัฒนาการยีนหลายเม็ดมาทดสอบ
ตอนที่ลู่เฉินสกัดยาวิวัฒนาการยีนมาทดสอบ ทีมนักวิจัยระดับโลกที่ศึกษาไวรัส D ในตงอิ๋งก็เกิดเรื่องในที่สุด นักวิจัยสองในสามติดเชื้อไวรัส D และอีกหนึ่งในสามของนักวิจัยที่เหลือครึ่งหนึ่งเป็นบ้า
ดังนั้นทีมวิจัยทั้งหมดจึงถูกกำจัด
รวมไปถึงผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ยี่สิบคนที่บริษัทเทคโนโลยีอี้ฉีส่งไปก็ถูกกำจัดทั้งหมดโดยไม่มีใครมีชีวิตรอดกลับมา
ลู่เฉินได้แสดงความเสียใจกับเรื่องนี้แล้ว ทางบริษัทรับหน้าที่จัดงานศพให้พวกเขาอย่างยิ่งใหญ่ ทั้งยังมอบเงินชดเชยจำนวนมากให้กับครอบครัวผู้เชี่ยวชาญทุกคนที่เสียสละ
เหตุการณ์นี้ทำให้เกิดวิกฤตชีวิตและความตายของมนุษย์
การที่ทีมนักวิจัยทั้งหมดถูกกำจัดเป็นการแสดงให้เห็นว่ามวลมนุษย์ไม่มีศักยภาพพอในการถอดรหัสไวรัส D และจะสูญพันธุ์ไปอย่างช้าๆภายใต้การทำลายล้างของไวรัส D
ในวันนี้โลกได้เข้าสู่สภาวะจลาจลครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์