คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 46

บทที่ 46 รถของลู่เฉินถูกทุบ

ข่าวการยุบกลุ่ม บริษัท แกรนด์ไฮแอท ทำให้เกิดความตกตะลึงในย่านธุรกิจหยูโจว

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมากลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย  ได้พัฒนาอย่างดีในหยูโจว และทำให้ครอบครัวใหญ่หลายครอบครัวในหยูโจวเริ่มทำตัวไม่ถูก

แม้แต่เมืองก็ยังตื่นตระหนกและนายกเทศมนตรีที่เพิ่งเข้ารับตำแหน่งก็รีบโทรหาลู่จงเพื่อถามเกี่ยวกับสถานการณ์

ภาษีประจำปีที่จ่ายโดย กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย นั้นสูงถึง 4 หมื่นล้าน ซึ่งคิดเป็น 50% ของภาษีธุรกิจ หยูโจว ทั้งหมดและคิดเป็นหนึ่งในสามของรายได้ทางการเงินทั้งหมด

ทันทีที่กลุ่มกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยถูกยุบ รายได้ทางการเงินทั้งหมดลดลงหนึ่งในสามแน่นอนว่านายกเทศมนตรต้องกังวล

สิ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความสำเร็จทางการเมือง

ยิ่งไปกว่านั้นกลุ่มบริษัทแกรนด์ไฮแอทยังมีพนักงานทั้งหมดมากกว่า 3,000 คนและการจ้างงานของพนักงานเหล่านี้ก็เป็นปัญหาเช่นกัน

อย่างไรก็ตามคนที่มาจากกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย  โดยพื้นฐานแล้วมีทักษะของพวกเขาและพวกเขาไม่ต้องกังวลเกี่ยวกับการหางาน แต่อนาคตเงินเดือนอาจไม่ดีเท่ากลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย

ตามคำร้องขอของนายกเทศมนตรีหลู่จงต้องพาลู่เฉินไปให้คำอธิบายแก่นายกเทศมนตรี ไม่อย่างงั้นเขาจะบ้าแน่ๆ

ในระหว่างอาหารค่ำลู่เฉินกล่าวสั้น ๆ ถึงแผนการของเขาที่จะสร้าง บริษัท เทคโนโลยีซึ่งสามารถจัดหาตำแหน่งงานได้ประมาณ 5,000 ตำแหน่งซึ่ง 3,000 ตำแหน่งเปิดให้ชาวหยูโจวและอีก 2,000 ตำแหน่งถูกสงวนไว้สำหรับนักวิจัยทาง

ลู่เฉินยังสัญญาว่าจะสร้างกลุ่มใหญ่พิเศษด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 3 หมื่นล้านและ 2 หมื่นล้านในระยะกลางและระยะหลัง

ดวงตาของนายกเป็นประกายแวววาว นี่เกินขนาดของกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยอย่างสิ้นเชิง

หากอุทยานวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของลู่เฉินประสบความสำเร็จและสร้างผลกำไรความสำเร็จทางการเมืองนี้จะยิ่งใหญ่ขึ้น

ดังนั้นนายกจึงบรรลุข้อตกลงทางวาจากับลู่เฉินทันทีปล่อยให้ลู่เฉิน ทำและหน่วยงานหลักทั้งหมดจะช่วยแก่เขาในทุกขั้นตอน

นอกจากนี้ยังทำให้ลู่เฉินถอนหายใจด้วยความโล่งอก

ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมาเขาเริ่มต้นธุรกิจของตัวเองด้วยเขารู้ดีว่าความสัมพันธ์ระหว่างบริษัทกับเมือง ในช่วงแรกของการพัฒนานั้นสำคัญมาก ไม่งั้นขั้นตอนเล็ก ๆ อาจใช้เวลาหลายเดือน

ด้วยการยุบกลุ่มกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย  ทั้งสี่ตระกูลในหยูโจวต่างก็มีความสุขมากแม้ว่าพวกเขาจะไม่แสดงความสุขต่อหน้าสื่อ แต่รุ่นน้องของตระกูล เฉินและเล่ยก็ซื้อประทัดจำนวนมากและเฉลิมฉลองนอกบ้านพักของพวกเขา

ตระกูลหูหงก็เช่นกัน

หลายวันมานี้พวกเขาไม่ได้รับอภัยจากหลินอี้จุนและหวังเสวี่ย ดังนั้นพวกเขาจึงกังวลว่ากลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย  จะไม่เอื้ออำนวยต่อซูเปอร์มาร์เก็ตของพวกเขา ทันทีที่กลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ยประกาศล้มละลายหูหงก็ซื้อประทัดจำนวนนับไม่ถ้วนและจุดไฟที่ ทางเข้าซูเปอร์มาร์เก็ตทันที ฝูงชนนับไม่ถ้วนเฝ้าดู

“ นายทุนที่กินแต่กำไร โดยไม่สนอะไร น่าจะถูกยุบไปนานแล้ว”

"แล้วก็ลู่เฉินนั้นอ่ะ อย่าให้เจอนะ โดนแน่"

เมื่อได้ยินเสียงประทัดดังขึ้น ดวงตาของหูหงก็ฉายแววความโหด

เขาได้รับความอับอายต่อหน้าสาธารณชนโดยลู่เฉิน ที่ร้าน 4S ในวันนั้น และเขาต้องการกู้หน้ากลับมาให้ได้

เมื่อเสี้ยจุนทราบข่าวนี้ หัวใจก็เริ่มสั่น

เขารู้ว่าลู่เฉินเป็นนายของกลุ่มจวินเหยี่ยและจู่ๆกลุ่มจวินเหยี่วก็ถูกยุบ เขาไม่รู้ว่าลู่เฉินจะขายตงเจียอิเล็กทรอนิกส์หรือไม่

เนื่องจากไม่ได้รับการสนับสนุนจากกลุ่มแกรนด์ไฮแอทจวินเยวี่ย  เขาจึงไม่รู้ว่าบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย จะพัฒนาหรือไม่

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากชนะโครงการในเขตบริเวณวิลล่าทะเลสาบจิงหลงแล้วชื่อเสียงของผลิตภัณฑ์บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจียก็เฟื่องฟูในหยูโจวด้วยในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากสั่งซื้อผลิตภัณฑ์ป้องกันการโจรกรรมของบริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย

ถ้าลู่เฉินต้องการขายหุ้น 70% ของ บริษัทอิเล็กทรอนิกส์ตองเจีย จริงๆเขาวางแผนที่จะยืมเงินเพิ่มและซื้อคืน

แต่ในเวลานี้ลู่เฉินไม่ได้มองหาเขาและมันยากสำหรับเขาที่จะมองหาลู่เฉิน

แม้ว่าเขาจะกังวล แต่เขาก็ทำได้แค่รอ

ฟ่านหมิง ,หยูไห่  และ เสี่ยวจิง  ยังรู้ว่า ลู่เฉิน เป็นผู้ควบคุมกลุ่มกลุ่มแกรนด์ไฮแอท