บทที่ 482 ยังไม่ทันเริ่มต้นใหม่ ก็พังพินาศ
หลังจากทำอนุสาวรีย์สุสานของมนุษย์แล้ว ลู่เฉินก็เพิ่มความเร็วของยานอวกาศซี-หวั้งขึ้นอีก ยานอวกาศซี-หวั้งก็ออกห่างจากดวงอาทิตย์ไปด้วยความรวดเร็ว
หลังจากนั้นอีกหลายวัน ข้างหน้า ดาวเคราะห์ดวงหนึ่งก็ปรากฏในทัศนวิสัยของลู่เฉินและคนอื่นๆ อีกครั้ง
มันเป็นดาวเคราะห์ที่มีสีครามดุจมหาสมุทร
นั่นก็คือดาวเนปจูนหนึ่งในแปดดาวเคราะห์แห่งระบบสุริยะ
ที่นี่ ลู่เฉินและคนอื่นๆ มองเห็นจุดดำขนาดใหญ่บนดาวเนปจูนระยะห่างจากการสังเกตการณ์ไทรทัน
จากการคำนวณไทรทันเคยเป็นวัตถุทางดาราศาสตร์ในแถบไคเปอร์และต่อมาถูกแรงโน้มถ่วงของดาวเนปจูนจับเอาไว้ได้
ดังนั้นวงโคจรของไทรทันสวนทางกับดาวดวงอื่น อีกทั้งมันกำลังค่อยๆ เข้าใกล้ดาวเนปจูน
หลังจากรอจนกระทั่งระยะห่างระหว่างมันกับดาวเนปจูนเลยขีดจำกัดโรช (Roche Limit) มันจะถูกฉีกออกจากกันด้วยแรงดึงดูดอันทรงพลังของดาวเนปจูน จากนั้น ชิ้นส่วนของไทรทันจะพุ่งเข้าชนดาวเนปจูน
แต่อย่างไรก็ตามเนื่องจากระยะทางไกลเกินไป จึงไม่ส่งผลกระทบต่อดาวเคราะห์ชั้นในของระบบสุริยะมากเกินไปนัก
ขีดจำกัดโรช (Roche Limit) คือระยะห่างระหว่างแรงโน้มถ่วงของวัตถุในท้องฟ้าที่หนึ่งกับแรงน้ำขึ้นน้ำลงที่เกิดจากวัตถุท้องฟ้าที่สอง
เมื่อระยะห่างของวัตถุทั้งสองอยู่ในขีดจำกัดโรช (Roche Limit) วัตถุทางดาราศาสตร์ก็จะถูกฉีกกระชากออกเป็นเสี่ยงๆ จากนั้นก็จะกลายเป็นวงแหวนของวัตถุที่สอง
แน่นอนว่าถ้าหากวัตถุในท้องฟ้าที่หนึ่งตกอยู่ภายใต้พลังอื่น ต่อให้มันจะอยู่ภายในขีดจำกัดโรชของวัตถุในท้องฟ้าที่สอง ก็จะไม่แตกออกเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยกลายเป็นวงแหวนของวัตถุในท้องฟ้าที่สอง
จำได้ว่าตอนที่มนุษย์ยังคงใช้ชีวิตอย่างสุขสบายบนโลก ก็ได้สร้างภาพยนตร์เรื่อง ‘ปฏิบัติการฝ่าสุริยะ’
ในภาพยนตร์เรื่องนั้น ช่วงสุดท้าย โลกถูกจับโดยแรงโน้มถ่วงของดาวพฤหัสบดีโดยบังเอิญในขณะที่โลกกำลังเร่งความเร็วด้วยการช่วยเหลือของแรงโน้มถ่วงจากดาวพฤหัสบดี
จากนั้นก็ชนกระแทกเข้ากับดาวพฤหัสบดีอย่างรวดเร็ว
โลกในตอนนั้น หากไม่มีแรงบีบบังคับอื่น หลังจากที่มันเข้าสู่ขีดจำกัดโรชRoche limit ก็จะถูกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ กลายเป็นวงแหวนของดาวพฤหัสบดี เหมือนกับน้ำแข็งและก้อนกรวดบนวงแหวนของดาวเสาร์
แน่นอนว่า ในตอนท้ายของภาพยนตร์ ไม่ได้มีตอนจบเช่นนั้น ในช่วงวิกฤติ เป็นตัวเอกที่ยังบินด้วยยานอวกาศเพื่อระเบิดชั้นบรรยากาศของดาวพฤหัสบดี สุดท้ายใช้โอกาสนั้นการหดตัวช่วยโลก และช่วยมวลมนุษยชาติไว้ได้
และไทรทันดวงนี้ ก็ไม่ได้มีเรื่องดีๆ แบบนี้เลย
จุดจบของมันถูกกำหนดไว้แล้ว
ลู่เฉินไม่อยากจะเปลี่ยนแปลงมัน และก็ไม่มีความสามารถที่จะเปลี่ยนแปลงมันด้วย
ดาวเนปจูนที่ถูกพบโดยบังเอิญเพียงแค่ชั่วพริบตา
ลู่เฉินและคนอื่นๆ ไม่เพียง ไม่ได้หยุดเพื่อดาวเนปจูน แต่ใช้แรงโน้มถ่วงของดาวเนปจูน เพื่อเร่งความเร็วของยานอวกาศซี-หวั้งของตนเองให้เร็วขึ้นเล็กน้อย จากนั้นก็จากไปแล้วอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ผ่านไปหลายวัน ดาวพลูโตก็ปรากฏอยู่ในสายตา
แต่ตอนนี้ดาวพลูโตอยู่สุดปลายวงโคจร ห่างจากยานอวกาศซี-หวั้งมากกว่าสามพันล้านกิโลเมตร พวกเขาก็ไม่ได้มีแผนที่จะพบกับมัน
และยังเร่งความเร็วไปทางชั้นนอกของระบบสุริยะ
เวลาผ่านไปเร็วจริงๆ หลายวันมานี้ ไม่ว่าจะเป็นลู่เฉิน หรือว่าติงต้าเฉิง เฉินชูหรันหรือคนอื่นๆ ก็ตาม
พวกเขาล้วนไม่ได้ทำงานอื่น แต่ยังคงสำรวจทุกซอกหลืบของระบบสุริยะมาตลอด
การสังเกตอย่างใกล้ชิดแบบนี้ ช่วยให้พวกเขาเข้าใจระบบสุริยะอย่างละเอียดมากยิ่งขึ้น เข้าใจโครงสร้างองค์ประกอบและหลักการต่างๆ ของระบบดาว
ไม่นาน ในที่สุดพวกเขาก็มาถึงชายขอบของระบบสุริยะ
ที่นี่ ก็คือที่ตั้งของแถบไคเปอร์
แถบไคเปอร์ คือจุดกำเนิดหลักของ ดาวหางคาบสั้น (Short-period comets) ภายในระบบสุริยะ
ตัวอย่างเช่น ดาวหางแฮลลีย์ที่มีชื่อเสียงก็ถูกคิดว่ามีต้นกำเนิดมาจากที่นี่
แต่ลู่เฉินและคนอื่นๆ ไม่ได้โชคดีขนาดนี้ที่จะได้พบมันโดยบังเอิญ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์