สรุปตอน บทที่ 484 เรือรบต่างดาวขนาดใหญ่เท่าโลก – จากเรื่อง คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
ตอน บทที่ 484 เรือรบต่างดาวขนาดใหญ่เท่าโลก ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง คุณพ่อสายเปย์ โดยนักเขียน ลู่ลู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง
บทที่ 484 เรือรบต่างดาวขนาดใหญ่เท่าโลก
ใช่แล้ว สิ่งที่ลู่เฉินมองเห็นในกล้องโทรทรรศน์ ก็คือดาวเคราะห์ดวงหนึ่ง!
ดาวเคราะห์ดวงนี้ไม่ใช่หนึ่งในแปดดวงของระบบสุริยะแน่นอน และก็ไม่ใช้ดาวพลูโตที่ถูกเตะออกไปอย่างไร้เยื่อใยก่อนหน้านี้
นี่คือดาวเคราะห์ที่มนุษย์ยังไม่เคยมีการจดบันทึกใดๆ มาก่อนจนถึงปัจจุบัน
มันอยู่ในสภาวะสมดุลอุทกสถิต Hydrostatic equilibrium มีมวลมากพอที่จะล้างวัตถุท้องฟ้าขนาดเล็กที่เหลือในวงโคจรของมัน ดาวเคราะห์ดวงนี้ ไม่ว่าจะมองในด้านใด ก็ล้วนสอดคล้องกับคำจำกัดความของดาวเคราะห์ที่นักดาราศาสตร์ได้กำหนดเอาไว้
แต่ว่า ก็ไม่มีมนุษย์สังเกตเห็นมัน
เพราะ ความจริงแล้วมันเล็กมาก
และอยู่ห่างไกลจากดวงอาทิตย์เกินไป แสงของดวงอาทิตย์ส่องมาถึงที่นี่ได้ยากมาก
จากการคำนวณเบื้องต้นของลู่เฉิน มวลของมัน มากถึงหนึ่งจุดห้าเท่าของโลก มันเป็นดาวเคราะห์หินดวงหนึ่ง ทั้งยังโคจรรอบดวงอาทิตย์ด้วยความเร็วที่ช้ามาก
วงโคจรครบหนึ่งรอบใช้เวลาถึงเจ็ดร้อยสามสิบสองปี
ขณะที่มองดาวเคราะห์ดวงนี้ ในใจลู่เฉินเต็มไปด้วยความเคลือบแคลงสงสัยมากมาย
แม้ว่าเขาจะมีความสนใจในจักรวาลอย่างเต็มเปี่ยม แต่ความจริงแล้วความรู้ด้านดาราศาสตร์ของเขานั้นมีไม่มากนัก
แต่ว่าในด้านเทคโนโลยีทางวิทยาศาสตร์ เติบโตก้าวหน้าอย่างรวดเร็วมากเป็นพิเศษ ทฤษฎีมากมาย ความเข้าใจของเขาต้องมีมากกว่าหัวหน้านักวิทยาศาสตร์อย่างติงต้าเฉิง
“มนุษย์ศึกษาวิจัยระบบสุริยะมานานหลายปีขนาดนี้แล้ว ทำไมจึงยังไม่เคยพูดถึงหรือบันทึกเกี่ยวกับดาวดวงนี้เลย?” ลู่เฉินเรียกติงต้าเฉิงมา สอบถาม
ติงต้าเฉิงเองก็วิเคราะห์ดาวเคราะห์ลึกลับที่จู่ๆ ถูกลู่เฉินค้นพบเล็กน้อย ในใจรู้สึกตื่นตกใจอย่างมาก
“นี่มันเหนือความคาดหมายนิดหน่อยนะ รู้สึกว่าไม่ค่อยตรงกับหลักทางวิทยาศาสตร์เล็กน้อย” ติงต้าเฉิงพูดพลางขมวดคิ้ว เขาเองก็ไม่ใช่ผู้ที่รักในดาราศาสตร์ เขาเป็นแค่นักวิจัยทางเทคโนโลยีธรรมดาเท่านั้น ก็ไม่ค่อยเข้าใจอะไรมากในสถานการณ์แบบนี้
“ผมรู้แล้ว”
ทันใดนั้นเอง นักดาราศาสตร์คนหนึ่งเอ่ยขึ้น
ลู่เฉินและติงต้าเฉิงต่างพากันหันกลับไปมองเขา
นักดาราศาสตร์คนนี้ชื่อว่าตู้จื้อไห่ รับผิดชอบงานวิจัยทางดาราศาสตร์มาตลอด
“เมื่อก่อน เพราะการวิจัยแถบไคเปอร์ จึงพบความผิดปกติของวัตถุขนาดเล็กจำนวนมากที่โคจรอยู่นั้น ศึกษาวิจัยมาหลายสิบปี ก็ยังไม่สามารถอธิบายได้
ดังนั้นโลกดาราศาสตร์จึงสงสัยมาตลอด นอกวงโคจรของดาวพลูโตนั้น ยังมีดาวเคราะห์ดวงอื่นอยู่หรือไม่ มิฉะนั้นปรากฏการณ์แบบนี้จะไม่สมเหตุสมผลเลย
ตอนนี้ ในที่สุดผมก็หาคำตอบได้แล้ว
ที่นี่ มีดาวเคราะห์อยู่อีกดวงจริงๆ
แต่เพราะมันเล็กมาก ที่นี่ทั้งมืดเกินไป ดังนั้นมนุษย์จึงไม่ไม่เคยค้นพบมัน
ฉะนั้น ที่นี่ก่อนหน้านี้ แม้ว่าทุกคนจะสงสัย แต่ก็ไม่มีใครพิสูจน์ได้”
ตู้จื้อไห่พูดอย่างตื่นเต้น
ดูไปแล้ว เขาคงจะตื่นเต้นกว่าใคร
เพราะการค้นพบดาวเคราะห์ดวงนี้ ทำให้ทฤษฎีต่อไปมากมายของพวกเขาได้รับการพิสูจน์ความจริง
ทำให้พวกเขามีความเข้าใจใหม่เกี่ยวกับระบบสุริยะหรือระบบดาวเคราะห์ ยืนยันการความรู้ใหม่
นี่คือความก้าวหน้าด้านความรู้ทางดาราศาสตร์อย่างก้าวกระโดดของมนุษย์นะ!
ได้ยินเขาอธิบายอย่างนี้ ลู่เฉินและติงต้าเฉิงทั้งสองต่างพยักหน้า
“ดาวเคราะห์ดวงนี้ เรียกมันว่า The lost starก็แล้วกัน” ลู่เฉินพูด
“ชื่อนี่ไม่เลว ความหมายก็คือมันเป็นดาวเคราะห์ที่ถูกหลงลืมในระบบสุริยะ” ติงต้าเฉิงพูดพลางพยักหน้าเห็นด้วย
ที่นี่ ก็คือสถานที่ที่ถูกมองข้ามไป ไม่เคยมีร่องรอยการบันทึกถึงมันมาก่อน ในการจดบันทึกเป็นลายลักษณ์อักษรของมนุษย์
ดังนั้น เรียกมันว่า The lost star เหมาะสมดี
ช่วงเวลาต่อมา สาขาวิชาดาราศาสตร์ได้ทุ่มเทพลังอันยิ่งใหญ่ให้กับ The lost star
แสดงให้เห็นว่าการอนุมานจำนวนมากของมนุษย์ก็ถูกต้องเช่นกัน
“ระดับอารยธรรมของยานต่างดาวลำนี้ อยู่ในระดับ2-3แล้ว!” พักใหญ่ ติงต้าเฉิงจึงได้เอ่ยความรู้สึกตกใจ
ไม่มีใครพูดอะไร
ตอนนี้พวกเขาอยู่ในอารยธรรมระดับหนึ่งแล้ว แต่ว่ายานอวกาศที่พวกเขาสร้างได้ ก็ยังรองรับผู้โดยสารได้เพียงแค่หนึ่งแสนหนึ่งหมื่นคน เท่ากับหมู่บ้านหนึ่งเท่านั้นเอง
ใช่แล้ว เมื่ออยู่ตรงหน้าซากยานอวกาศที่น่ากลัวลำนี้ ยานอวกาศซี-หวั้งก็คือเล็กแบบหมู่บ้านเล็กๆ ขนาดนั้นเลย
เช่นนั้น อารยธรรมที่สามารถสร้างยานอวกาศที่ใหญ่โตมโหฬารได้ขนาดนี้ แน่นอนว่าแค่ดีดนิ้ว ก็สามารถทำลายอารยธรรมของโลกพังพินาศได้อย่างง่ายดาย
“ไม่ว่าจะพูดอย่างไร อารยธรรมทางเทคโนโลยีของต่างดาวนี้ก็แข็งแกร่งกว่าพวกเรามากเหลือเกิน อย่างนั้น ผมอยากที่จะรับเทคโนโลยีจากต่างดาวนี้ ทุกคนมีความคิดเห็นอย่างไร?” หลังจากผ่านไปพักใหญ่ จู่ๆ ลู่เฉินก็เอ่ยขึ้น
เผ่าพันธุ์มนุษย์เข้ามาในจักรวาล ไม่เพียงต้องการที่อยู่อาศัย ยังต้องสำรวจและพัฒนาด้วย
ตอนนี้เป็นที่แน่นอนแล้วว่า ในกาแลคซี่ มีอารยธรรมจากต่างดาวอยู่จริงๆ และอารยธรรมของพวกเขาก็ล้ำหน้าโลกของเราไปไกลมาก
เช่นนั้น ช่วงเวลาต่อจากนี้ไป มนุษย์จะยิ่งมีโอกาสได้พบกับสิ่งมีชีวิตจากตางดาวมากขึ้น
ถ้าหากไม่เสริมสร้างความแข็งแกร่งของตัวเอง ไม่ช้าก็เร็วจะต้องตกเป็นทาสหรือถูกทำลายโดยอารยธรรมต่างดาวที่แข็งแกร่งกว่าแน่
“ผมเห็นด้วย!”
“ผมเห็นด้วย!”
“ผมก็เห็นด้วย!”
ติงต้าเฉิงรอให้บรรดานักวิทยาศาสตร์แต่ละคนได้แสดงความคิดเห็นออกมา
เห็นอารยธรรมนอกโลกที่ล้ำหน้าเช่นนี้ พวกเขายิ่งรู้สึกอยากได้มากว่าลู่เฉินเสียอีก
“อย่างนั้น ตอนนี้พวกเราไปที่ห้องประชุม เพื่อหว่านล้อมบรรดาผู้นำระดับสูงเถอะ”
ลู่เฉินพยักหน้า จากนั้นก็ให้เฉินชูหรันไปแจ้งผู้นำระดับสูงทุกคนเข้าประชุม
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์