คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 506

สรุปบท บทที่ 506 รัชสมัย “ซิน”: คุณพ่อสายเปย์

บทที่ 506 รัชสมัย “ซิน” – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์

ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 506 รัชสมัย “ซิน” จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 506 รัชสมัย “ซิน”

พิธีก่อตั้งประเทศจัดขึ้นในวันต่อมา ตั้งรัชสมัยว่า “ซิน”

ทำนองว่าเป็นประเทศใหม่ของมนุษย์โลก

เมืองหลวงเปลี่ยนชื่อเป็น “ซินตู” เมืองหลวงของประเทศซิน

ความเป็นธรรมชาติของทั่วทั้งพิธีก่อตั้งอยู่ที่ขบวนพาเหรดของฝูงบินทหารแห่งดวงดาวเก้า ฝูงบินทหารการกลาโหรวมถึงฝูงบินรถถังแมงมุมที่ตามมาทีหลัง

ฝูงบินเครื่องบินรบอวกาศ Type 00ที่อยู่บนฟ้า ยังมีปราการปราสาทสุดท้ายที่โผล่เข้ามา

ทั้งหมดนี่มันสะท้านใจทุกคนมาก ทำให้ประชาชนมากมายที่จนถึงวันนี้ถึงได้รู้ว่า เทคโนโลยีของมนุษย์ได้พัฒนามาจนถึงระดับที่น่ากลัวขนาดนี้แล้ว

นี่เป็นมนุษย์ที่ระดับความคิดยังหยุดอยู่ในช่วงการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สาม นี่เป็นระดับเทคโนโลยีที่พวกเขาไม่อาจจินตนาการถึงได้เลย

โดยเฉพาะพวกคนแคระกว่าแสนคนในซินตูที่มาห้อมล้อม ยิ่งทำพวกเขาจิตใจสะเทือนเยือกในอกถึงขีดสุด

เวลานี้ พวกเขาถึงพึ่งเข้าใจถึงช่องว่างขนาดใหญ่ระหว่างพวกเขาคนแคระกับมนุษย์

สำหรับความพ่ายแพ้ก่อนหน้านี้ พวกเขาไม่รู้สึกติดค้างในใจอีกแล้ว

เพราะความแตกต่างทางด้านฝีมือมันมากเกินไปจริงๆ

นี่เป็นความแตกต่างอันยิ่งใหญ่ของอารยธรรมระดับสองกับอารยธรรมระดับหนึ่ง

นี่เป็นช่องว่างราวฟ้ากับเหวของการปฏิวัติอุตสาหกรรมสี่ครั้งกับสามครั้ง

มีอีกหลายสิบประเทศของประเทศคนแคระยื่นคำร้องขอมาชมงาน ลู่เฉินตอบรับทั้งหมด

และถือโอกาสนี้แสดงศักยภาพต่อหน้าพวกคนแคระด้วย

พอมนุษย์ได้จัดกิจกรรมสร้างประเทศถ่ายทอดสดกลับไปยังประเทศของพวกเขา ทั่วทั้งดวงดาวก็ตกอยู่ในอาการตะลึงและสะเทือนใจ

ความสามารถที่แท้จริงของมนุษย์เพียงพอที่จะทำลายคนแคระทั้งหมด

แต่ในที่สุดแล้วมนุษย์ก็ไม่ได้ทำอย่างนั้น

กลับเลือกที่จะร่วมกันพัฒนาดาวดวงนี้กับพวกเขาคนแคระ

สำหรับเรื่องนี้ คนแคระมากมายแอบรู้สึกดีใจ โชคดีที่ไม่ได้เจอเผ่าพันธุ์ที่โหดร้ายไร้จิตใจ

“พวกเราผ่านความยากลำบากมามากมาย พวกเราที่จากโลกมา ไม่มีความหวังเกี่ยวกับอนาคตเลย แถมมนุษย์เรายังไม่สามารถออกจากดาวแม่ได้อีกด้วย

แต่ในตอนที่จำเป็นต้องออกจากดาวแม่ ทั่วทั้งจักรวาลอันตรายมากเกินไปสำหรับมนุษย์เรา อันตรายจนสามารถทำลายล้างเผ่าพันธุ์เราได้เลย

ความยากลำบากตลอดทางนี่ เราเคยหมดหวังหมดหนทางเดิน!

และยังได้เสียสละวีรบุรุษไปมากมาย!

พวกเรากัดฟันทนต่อสู้มาจนถึงตอนนี้!

พวกเราได้มายืนบนโลกดวงใหม่นี้! พวกเรามองเห็นอนาคตแล้ว!”

นี่เป็นคำพูดที่ลู่เฉินพูดกับมนุษย์ที่มายืนออกันหน้าปะรำพิธี

สถานการณ์ดูตึงเครียดมาก ทุกคนฟังกันเงียบๆ ให้ความสนใจและครุ่นคิด

บางทีคนรุ่นใหม่บนยานอวกาศซี-หวั้งและเด็กที่พึ่งเกิดบนกระสวยอวกาศอายุแค่ไม่กี่ขวบอาจจะไม่รู้สึก แต่วัยหนุ่มสาวทุกคนกลับมีความรู้สึกร่วมกันได้ดี

พวกเขารู้ว่าทั้งหมดที่มีในตอนนี้ได้มาไม่ง่ายนัก ดังนั้นเลยยิ่งทะนุถนอมมันมากยิ่งขึ้น

พวกเขาสามารถมีชีวิตรอดมาจนถึงวันนี้ จากสิ้นหวังกลายเป็นเต็มไปด้วยความหวัง

มันไม่ง่ายเลยจริงๆ

“ดังนั้น พวกเราโห่ร้องเถอะ พวกเราจดจำไว้เถอะ! ผมประกาศ...”

“....ผมประกาศ ประเทศของเราสร้างเสร็จแล้ว รัชสมัย “ซิน”!”

อย่างแรกต้องเริ่มโดยเป็นระบอบปกครองโดยมีเขาเป็นประมุข เขาเป็นคนกุมอำนาจหลักๆของประเทศ อาทิ อำนาจการปกครอง อำนาจการทหารเป็นต้น ให้เขามีอำนาจในการยื่นเสนอ อำนาจการลงโทษและอำนาจในการยับยั้ง

แน่นอนล่ะว่า แบบนี้อำนาจที่เขามีจะดูยิ่งใหญ่จนน่าตกใจ เรียกได้ว่าเป็นกษัตริย์ที่ไม่ใช่กษัตริย์เลย และยังมีอำนาจแกร่งกว่ากษัตริย์ในยุโรปกลางมากนัก คงใกล้เคียงกับจักรพรรดิจีนโบราณเลยทีเดียว ซึ่งจะได้รับความสนใจจากผู้คนจำนวนมาก

ต่อให้ตอนนี้ลู่เฉินมีชื่อเสียงอย่างมาก อีกทั้งยังกุมอำนาจกองกำลังทหารทั้งหมด

ก็ยังมีหลายร้อยคนเสนอความเห็นให้เขา หนึ่งในนั้นรวมไปถึงระดับสูงอย่างตู้เฟยและเซ่เว่ยเหาเป็นต้น

ตามคำพูดของพวกเขา ตัวลู่เฉินเองไม่ได้บ้าอำนาจขนาดนั้น ถ้างั้นก็ไม่จำเป็นต้องยึดอำนาจไว้เยอะขนาดนั้น

แค่กุมอำนาจฝ่ายทหารไว้ได้ก็พอแล้ว ถ้าเอาแต่ไปทำงานเหน็ดเหนื่อย กลับจะทำให้ยิ่งแย่ไปใหญ่ สู้ปล่อยอำนาจให้ฝ่ายประชาชนไปดูว่าเป็นไง

ปล่อยอำนาจคือปล่อยอำนาจ อันนี้ไม่ต้องถาม เพราะตอนนี้ก็เป็นสมัยจักรวาลแล้ว

ถ้าจะพูดง่ายๆคือ เป็นสังคมยุคปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่แล้ว

เพราะการพัฒนาในด้านทรัพยากรทำให้เกิดการปฏิวัติความสัมพันธ์ในสังคมด้วย จะมาใช้อำนาจปกครองอย่างเดียวน่ะเป็นไปไม่ได้ มันจะใช้ได้ในสถานการณ์คับขันสุดๆเท่านั้น

ถ้าเป็นตอนที่ยังอยู่บนยานอวกาศซี-หวั้งในจักรวาลนั่นก็เป็นไปได้ หรือถ้าเจอเหตุการณ์คับขันแบบสงครามที่อาจจะทำให้โดนทำลายล้างหมดเผ่าพันธุ์ก็อาจจะเป็นไปได้

ถ้าเป็นช่วงการพัฒนาที่สบายปลอดภัยแบบที่เห็นอยู่ตอนนี้ ต่อให้เหยาหยวนอยากจะใช้อำนาจทหารปกครองสูงสุด เขาก็มีสิทธ์โดนปลดได้

ใช่ นี่แค่สมมติ

สำหรับจุดนี้ ลู่เฉินรู้ดีแก่ใจ

แต่ตอนนี้ที่อยู่บนพร็อกซิมาคนครึ่งม้า ไม่ได้มีเพียงมนุษย์เท่านั้น

ยังมีคนแคระจำนวนมาก มนุษย์รับไม่ไหวกับการจลาจลอีก

อำนาจการปกครองเด็ดขาดเป็นเรื่องหนึ่ง จะปล่อยอำนาจก็อีกเรื่องหนึ่ง

โดยเฉพาะเข้มงวดจนผ่อนปรนจะทำให้คนรู้สึกซาบซึ้งใจ ส่วนการผ่อนปรนจนเข้มงวดกลับอาจทำให้เกิดการปฏิวัติขึ้นได้ นี่ต่างหากคือความจริง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์