คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 507

สรุปบท บทที่ 507 เรื่องของเฉินจือหราน: คุณพ่อสายเปย์

ตอน บทที่ 507 เรื่องของเฉินจือหราน จาก คุณพ่อสายเปย์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 507 เรื่องของเฉินจือหราน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต คุณพ่อสายเปย์ ที่เขียนโดย ลู่ลู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

บทที่ 507 เรื่องของเฉินจือหราน

หลังจากสร้างประเทศเสร็จ โครงสร้างใหญ่ของรัฐบาลก็ใกล้สำเร็จแล้ว

ลู่เฉินได้ขยายขอบเขตอำนาจของสภาผู้แทนขึ้นอีกครั้ง ทุกเรื่องยกเว้นที่เกี่ยวกับฝ่ายทหารและเทคโนโลยี พวกเขามีสิทธิ์ในการเข้าร่วมทั้งสิ้น

ฝ่ายเทคโนโลยีและการทหารถือเป็นรากฐานการคงอยู่ของมนุษย์ จะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นสองฝ่ายนี้ลู่เฉินไม่มีทางยอมปล่อยอำนาจแน่

พูดง่ายหน่อยคือ เขายกอำนาจส่วนใหญ่ของวุฒิสภาให้กับสภาผู้แทน และวุฒิสภาจะหายไปตลอดกาล

ข้อดีของการทำแบบนี้คือ จะเป็นการตัดความเป็นไปได้ที่จะมีตระกูลใหญ่ในด้านการเมือง อย่างเช่นตระกูลทหาร หรือตระกูลตัวแทนนักธุรกิจอะไรแบบนี้

ในขณะเดียวกัน อำนาจฝ่ายประชาชนเพิ่มขอบเขตมากขึ้น ฝ่ายประชาชนสามารถเข้าร่วมการตัดสินใจได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของฝ่ายทหาร

ต่อให้เป็นคดีที่ผ่านสภาผู้แทนแล้ว ฝ่ายประชาชนยังคงมีอำนาจในการยอมรับ-ปฏิเสธอยู่ ถ้าคดีที่ผ่านการโหวตจากสภาผู้แทนโดนปฏิเสธสามครั้ง ถ้าอย่างนั้นผู้แทนที่โหวตคดีนี้จะถูกให้ออกจากตำแหน่งทันที

อีกอย่างการแยกดุลทางกฎหมาย ศาลฎีกาจะให้สิทธิ์ในการยึดอำนาจกับรัฐบาล ซึ่งนอกจากสภาผู้แทนแล้ว ประมุขรัฐบาลจะไม่สามารถมีคำสั่งถอดถอนข้าราชการคนใดตลอดชีวิต

อำนาจนี้จะมอบให้โดยฝ่ายประชาชนร่วมกันทำการโหวต

อีกอย่างยังมีอีกสี่ตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ที่สามารถมอบให้กับผู้คนตามแต่เหตุสมควร อาทิเช่น ตำแหน่งกิตตมศักดิ์ ผู้พิทักษ์มนุษย์ ผู้ปกป้องมนุษย์ อัศวินมนุษย์และวีรบุรุษมนุษย์เป็นต้น

ในเวลาเดียวกัน ถ้าได้รับการแต่งตั้งแล้ว ต่อให้เป็นตำแหน่งผู้ปกป้องมนุษย์ที่มีระดับต่ำสุด ก็สามารถเข้าร่วมสภาผู้แทนกลายเป็นสภาผู้แทนกิตติมศักดิ์ แถมยังเป็นตลอดชีวิต จะไม่โดนเลือกใหม่ทุกๆสี่ปีเหมือนสภาผู้แทนทั่วไป

สรุปแล้ว รัฐบาลมนุษย์ในตอนนี้ยังสับสนอยู่ แต่จริงๆแล้วโดยพื้นฐานก็ยังซึมซับข้อดีของระบบการปกครองจากโลกอยู่

และในเวลาเดียวกันรัฐธรรมนูญพื้นฐานของรัฐบาลมนุษย์ยังอยู่ในระหว่างการร่าง นี่เป็นโครงการใหญ่ ตอนนี้มีคนกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยคนเข้าร่วม คาดว่าจะใช้เวลาห้าปีในการร่างฉบับแรกออกมา จากนั้นก็จะปรับและแก้ไขให้สมบูรณ์ตามสถานการณ์จริง

การปฏิรูปทั้งสายนี้ได้รับการสนับสนุนจากคนทั้งหมด

ประชาชนและทหารที่เดิมทีกังวลใจมากมาย คราวนี้สบายใจซักที

ถึงอำนาจของลู่เฉินจะยังมีมากอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสภาผู้แทนที่เพียงพอกับการควบคุมอำนาจด้านอื่นด้วย

และเพราะตอนนี้จำนวนประชากรมนุษย์ยังถือว่าน้อยมากอยู่ กองทหารของรัฐบาลมนุษย์ถึงจะเป็นทหารประชาชนอย่างแท้จริง เกือบทุกๆสิบครอบครัวจะมีครอบครัวหนึ่งเป็นทหารป้องกัน

ดังนั้นเลยไม่กลัวว่ารัฐบาลจะส่งทหารมาควบคุมหรืออะไร สิ่งที่พวกเขากลัวจริงๆคือไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงมากกว่า

แน่นอนล่ะว่า ในบรรดาทุกคน อำนาจของลู่เฉินมีมากเกินไปจริงๆ

ถ้าเขาปล่อยอำนาจไปทั้งหมด เผลอๆทุกคนจะไม่ไหวด้วย

เพราะทุกคนเข้าใจเรื่องหนึ่

นั่นก็คือ ตั้งแต่ออกจากโลกมา ทุกการตัดสินใจของลู่เฉินไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเลย

เขาทำเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของมนุษย์เป็นหลัก

พอค่อยๆปล่อยอำนาจออกไป ลู่เฉินก็ค่อยสบายขึ้น

หลังจากการสร้างประเทศ ตรงกันข้าม เขายังมีเวลาอีกมากไปทำการวิจัยกับพวกติงต้าเฉิงที่ฝ่ายเทคโนโลยี

สำหรับลู่เฉินแล้ว การทำการวิจัยตื่นเต้นกว่า น่าสนใจกว่าการแย่งชิงอำนาจมากนัก

เขาเชื่อมั่นว่า สิ่งที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตมนุษย์ได้ มีเพียงเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้วเท่านั้น

เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียว ประเทศใหม่ของมนุษย์ก็ก่อตั้งมาได้ครึ่งปีแล้ว

ครึ่งปีมานี้ ทุกด้านมีการเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ

อาคารสูงหลายที่ถูกสร้างขึ้น ทุกกระทรวงก็ทำการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว

การพัฒนาอย่างรวดเร็วของธุรกิจ เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเช่นหุ่นไร้คนบังคับค่อยๆทยอยเข้าสู่ภาคเอกชน นี่ยังไม่หยุดปรับเปลี่ยนความเข้าใจของคนแคระในซินตูเรื่อยๆ

พวกคนแคระในซินตูค่อยๆยอมรับความจริงที่มนุษย์เข้ามายึดครองประเทศในที่สุด

การพัฒนาประเทศใหม่ของมนุษย์เริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ ทุกฝ่ายทำงานกันอย่างขะมักเขม้น ทุกคนตั้งใจทำงานกันอย่างหนัก

ประชากรมนุษย์จำนวนหนึ่งแสนเจ็ดหมื่นอาศัยอยู่ในวิลล่าทั้งหมด นี่เป็นสิทธิพิเศษที่พวกเขาไม่เคยได้มาก่อนตอนอยู่บนโลก

เรียกได้ว่า ซินตูที่มีมนุษย์เป็นศูนย์กลาง ชีวิตของพวกคนแคระจำนวนมากก็ได้รับการเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดี คนแคระจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆค่อยๆมาที่ซินตู

ในเวลาแค่ครึ่งปี จำนวนคนแคระในซินตูก็มีมากกว่าสามสิบล้านแล้ว นี่เป็นตัวเลขที่น่ากลัวมาก

ต้องรู้นะว่า ประเทศเล๋ยเสินแต่เดิม จำนวนประชากรคนแคระไม่เกินสามร้อยล้าน และมาตายในสงครามกับมนุษย์ไปล้านกว่า

นี่เท่ากับว่าจำนวนประชากรหนึ่งในสิบส่วนเข้ามาที่ซินตูแล้ว

จุดนี้ทำให้รัฐบาลมนุษย์ร่างนโยบายหลายฉบับยับยั้งไม่ให้คนแคระประเทศอื่นเข้ามาที่ซินตูได้

ในขณะเดียวกันก็ร่างกฎหมายใหม่ ปรับเปลี่ยนและฟื้นฟูเศรษฐกิจของเมืองอื่น ให้พวกคนแคระอยู่กันอย่างเป็นสุข

เทคโนโลยีไม่ธรรมดา ปล่อยไปอยู่ตามเมืองต่างๆในประเทศใหม่ ทำให้การพัฒนาของเมืองที่มีแต่คนแคระพวกนั้นพัฒนาอย่างรวดเร็วขึ้นมา

ก็เท่ากับเป็นการแก้ปัญหาที่มีคนแคระเข้ามาที่ซินตูไม่หยุดด้วยเหมือน

ในเวลาที่ประเทศใหม่พัฒนาไม่หยุดอย่างนี้ ลู่เฉินกลับเจอเรื่องที่ทำให้เขาลำบากใจขึ้นมา

เขาไม่เคยให้โอกาสเฉินจือหรานเลย แต่เขาไม่คิดว่าเฉินจือหรานจะดื้อขนาดนี้ ไม่ว่าจะเป็นเขาหรือเฉินกวางซิง จัดพิธีดูตัวให้เธอหลายครั้งแล้ว เธอก็ปฏิเสธหมดเลย

เมื่อก่อนที่อยู่ยานอวกาศซี-หวั้ง ถึงลู่เฉินจะสะท้อนใจ แต่ก็ไม่ได้เกลี้ยกล่อมเฉินจือหราน

แต่ตอนนี้มนุษย์หาดาวที่จะใช้ชีวิตได้แล้ว ประเทศใหม่ก็สร้างแล้ว ลูกน้องคนสนิทที่ตามติดเขาสิบปี เป็นลูกน้องคนสนิทก็ควรจะแต่งงานได้แล้ว

แต่ตอนนี้จับเขามานั่งประจันหน้ากับเฉินจือหราน เขากลับไม่รู้จะพูดอะไรดี

จู่ๆเขาก็รู้สึกว่าไม่ว่าเขาจะพูดอะไร ก็ทำลายจิตใจเฉินจือหรานอย่างที่สุด

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์