บทที่ 507 เรื่องของเฉินจือหราน
หลังจากสร้างประเทศเสร็จ โครงสร้างใหญ่ของรัฐบาลก็ใกล้สำเร็จแล้ว
ลู่เฉินได้ขยายขอบเขตอำนาจของสภาผู้แทนขึ้นอีกครั้ง ทุกเรื่องยกเว้นที่เกี่ยวกับฝ่ายทหารและเทคโนโลยี พวกเขามีสิทธิ์ในการเข้าร่วมทั้งสิ้น
ฝ่ายเทคโนโลยีและการทหารถือเป็นรากฐานการคงอยู่ของมนุษย์ จะมีอะไรผิดพลาดไม่ได้ ดังนั้นสองฝ่ายนี้ลู่เฉินไม่มีทางยอมปล่อยอำนาจแน่
พูดง่ายหน่อยคือ เขายกอำนาจส่วนใหญ่ของวุฒิสภาให้กับสภาผู้แทน และวุฒิสภาจะหายไปตลอดกาล
ข้อดีของการทำแบบนี้คือ จะเป็นการตัดความเป็นไปได้ที่จะมีตระกูลใหญ่ในด้านการเมือง อย่างเช่นตระกูลทหาร หรือตระกูลตัวแทนนักธุรกิจอะไรแบบนี้
ในขณะเดียวกัน อำนาจฝ่ายประชาชนเพิ่มขอบเขตมากขึ้น ฝ่ายประชาชนสามารถเข้าร่วมการตัดสินใจได้ทุกเรื่องยกเว้นเรื่องของฝ่ายทหาร
ต่อให้เป็นคดีที่ผ่านสภาผู้แทนแล้ว ฝ่ายประชาชนยังคงมีอำนาจในการยอมรับ-ปฏิเสธอยู่ ถ้าคดีที่ผ่านการโหวตจากสภาผู้แทนโดนปฏิเสธสามครั้ง ถ้าอย่างนั้นผู้แทนที่โหวตคดีนี้จะถูกให้ออกจากตำแหน่งทันที
อีกอย่างการแยกดุลทางกฎหมาย ศาลฎีกาจะให้สิทธิ์ในการยึดอำนาจกับรัฐบาล ซึ่งนอกจากสภาผู้แทนแล้ว ประมุขรัฐบาลจะไม่สามารถมีคำสั่งถอดถอนข้าราชการคนใดตลอดชีวิต
อำนาจนี้จะมอบให้โดยฝ่ายประชาชนร่วมกันทำการโหวต
อีกอย่างยังมีอีกสี่ตำแหน่งกิตติมศักดิ์ ที่สามารถมอบให้กับผู้คนตามแต่เหตุสมควร อาทิเช่น ตำแหน่งกิตตมศักดิ์ ผู้พิทักษ์มนุษย์ ผู้ปกป้องมนุษย์ อัศวินมนุษย์และวีรบุรุษมนุษย์เป็นต้น
ในเวลาเดียวกัน ถ้าได้รับการแต่งตั้งแล้ว ต่อให้เป็นตำแหน่งผู้ปกป้องมนุษย์ที่มีระดับต่ำสุด ก็สามารถเข้าร่วมสภาผู้แทนกลายเป็นสภาผู้แทนกิตติมศักดิ์ แถมยังเป็นตลอดชีวิต จะไม่โดนเลือกใหม่ทุกๆสี่ปีเหมือนสภาผู้แทนทั่วไป
สรุปแล้ว รัฐบาลมนุษย์ในตอนนี้ยังสับสนอยู่ แต่จริงๆแล้วโดยพื้นฐานก็ยังซึมซับข้อดีของระบบการปกครองจากโลกอยู่
และในเวลาเดียวกันรัฐธรรมนูญพื้นฐานของรัฐบาลมนุษย์ยังอยู่ในระหว่างการร่าง นี่เป็นโครงการใหญ่ ตอนนี้มีคนกว่าหนึ่งพันสี่ร้อยคนเข้าร่วม คาดว่าจะใช้เวลาห้าปีในการร่างฉบับแรกออกมา จากนั้นก็จะปรับและแก้ไขให้สมบูรณ์ตามสถานการณ์จริง
การปฏิรูปทั้งสายนี้ได้รับการสนับสนุนจากคนทั้งหมด
ประชาชนและทหารที่เดิมทีกังวลใจมากมาย คราวนี้สบายใจซักที
ถึงอำนาจของลู่เฉินจะยังมีมากอยู่ แต่ในขณะเดียวกันก็มีสภาผู้แทนที่เพียงพอกับการควบคุมอำนาจด้านอื่นด้วย
และเพราะตอนนี้จำนวนประชากรมนุษย์ยังถือว่าน้อยมากอยู่ กองทหารของรัฐบาลมนุษย์ถึงจะเป็นทหารประชาชนอย่างแท้จริง เกือบทุกๆสิบครอบครัวจะมีครอบครัวหนึ่งเป็นทหารป้องกัน
ดังนั้นเลยไม่กลัวว่ารัฐบาลจะส่งทหารมาควบคุมหรืออะไร สิ่งที่พวกเขากลัวจริงๆคือไม่รู้ว่าอนาคตจะเป็นยังไงมากกว่า
แน่นอนล่ะว่า ในบรรดาทุกคน อำนาจของลู่เฉินมีมากเกินไปจริงๆ
ถ้าเขาปล่อยอำนาจไปทั้งหมด เผลอๆทุกคนจะไม่ไหวด้วย
เพราะทุกคนเข้าใจเรื่องหนึ่
นั่นก็คือ ตั้งแต่ออกจากโลกมา ทุกการตัดสินใจของลู่เฉินไม่ได้ทำเพื่อตัวเองเลย
เขาทำเพราะเห็นแก่ประโยชน์ของมนุษย์เป็นหลัก
พอค่อยๆปล่อยอำนาจออกไป ลู่เฉินก็ค่อยสบายขึ้น
หลังจากการสร้างประเทศ ตรงกันข้าม เขายังมีเวลาอีกมากไปทำการวิจัยกับพวกติงต้าเฉิงที่ฝ่ายเทคโนโลยี
สำหรับลู่เฉินแล้ว การทำการวิจัยตื่นเต้นกว่า น่าสนใจกว่าการแย่งชิงอำนาจมากนัก
เขาเชื่อมั่นว่า สิ่งที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงชะตาชีวิตมนุษย์ได้ มีเพียงเทคโนโลยีที่พัฒนาแล้วเท่านั้น
เวลาผ่านไปเร็วมาก พริบตาเดียว ประเทศใหม่ของมนุษย์ก็ก่อตั้งมาได้ครึ่งปีแล้ว
ครึ่งปีมานี้ ทุกด้านมีการเปลี่ยนแปลงอย่างหน้ามือเป็นหลังมือ
อาคารสูงหลายที่ถูกสร้างขึ้น ทุกกระทรวงก็ทำการปรับปรุงอย่างรวดเร็ว
การพัฒนาอย่างรวดเร็วของธุรกิจ เทคโนโลยีขั้นสูงอย่างเช่นหุ่นไร้คนบังคับค่อยๆทยอยเข้าสู่ภาคเอกชน นี่ยังไม่หยุดปรับเปลี่ยนความเข้าใจของคนแคระในซินตูเรื่อยๆ
พวกคนแคระในซินตูค่อยๆยอมรับความจริงที่มนุษย์เข้ามายึดครองประเทศในที่สุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์