อ่านสรุป บทที่ 515 ความร้ายกาจของดาวนิวตรอน! จาก คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
บทที่ บทที่ 515 ความร้ายกาจของดาวนิวตรอน! คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต คุณพ่อสายเปย์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลู่ลู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง
บทที่ 515 ความร้ายกาจของดาวนิวตรอน!
ความจริงคืออะไร?
ในใจทุกคนเต็มไปด้วยการรอคอย
แต่ในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็มีสติและระมัดระวังตลอดเวลา
โดยเฉพาะหลันหลิงและซูจิง
พวกนักวิทยาศาสตร์อย่างเช่นฉีฉีส่งพลังทั้งหมดไว้ที่เครื่องตรวจสอบต่างๆ
ส่วนพวกเขาก็คอยระแวดระวังอันตรายที่อาจมาทางไหนก็ได้
ห้าล้านกิโลเมตร สี่ล้านกิโลเมตร สามล้านกิโลเมตร...
ยื่งยานสำรวจเข้าใกล้เศษดาวนิวตรอนเท่าไหร่ แต่ยานสำรวจก็ยังไม่รู้สึกถึงแรงดูดใดๆเลย
ไม่นาน ยิ่งมีคนเชื่อว่าข่าวเรื่องเศษดาวนิวตรอนเป็นแค่ข่าวลวงมากขึ้นเรื่อยๆ
จากนั้นพอยานสำรวจเข้าไปในระยะห่างแค่แสนกิโลเมตรเท่านั้น
พอแสงสปอร์ตไลท์ความเร็วสูงจากยานสำรวจส่องไปจุดที่คาดว่ามีเศษดาวนิวตรอนอยู่ ภาพสวยงามอันหาที่เปรียบไม่ได้ก็ปรากฏสู่สายตาทุกคน
พอแสงที่ส่งออกมาสะท้อนกลับมาที่ยานสำรวจ
และสะท้อนไปยังเศษดาวนิวตรอน ทำให้ต่อหน้าทุกคน แสงนี้ปรากฏออกมาเป็นรูปโค้งประหนึ่งดอกไม้บาน
ลูกบอลแสงทรงกลมมีขนาดราวห้าพันกิโลเมตรปรากฏต่อหน้าทุกคน แสงโค้งแล้ว!
แถมลูกบอลแสงทรงกลมนี่ยังเปลี่ยนรูปร่างและหมุนตัวด้วยความเร็วสูง
เหมือนของทรงกลมในกระบอก เดี๋ยวปกติดี เดี๋ยวยุ่งเหยิง
แต่ทุกการเปลี่ยนแปลงก็จะให้ความรู้สึกอาร์ตสุดๆ
เหมือนเป็นประติมากรรมตามธรรมชาติยังไงยังงั้น!
แสงที่ยานสำรวจส่องออกไปแสดงให้ทุกคนได้เห็นศิลปะที่แปลกแต่ทำคนทอดถอนใจด้วยวิธีแปลกๆอยู่พอดี!
ซี๊ด!
ฉากนี้ทำทุกคนอดสะท้านเยือกในอกไม่ได้
“แสงโค้งแล้ว มันกำลังสะท้อนให้เห็นขอบเขตแรงดูดของเศษดาวนิวตรอน!”
“พระเจ้า เศษดาวนิวตรอนมีอยู่จริง!”
“ขอบเขตแรงดูดมันโดนจำกัดแค่ภายในห้าพันกิโลเมตร นี่มันเหลือเชื่อจริงๆ แรงอะไรที่ทำได้ถึงขนาดนี้เนี่ย?”
“แรงที่สามารถทำให้เศษดาวนิวตรอนที่มีสสารดาวฤกษ์ใหญ่ถึงหนึ่งในพันของดาวฤกษ์โดนจำกัดลดเหลือแค่ห้าพันกิโลเมตรเนี่ยนะ?”
ลู่ฉีฉีร้องอุทานอย่างตะลึง
ไม่เพียงแค่เธอ นักวิทยาศาสตร์และทีมวิจัยที่เห็นฉากนี้พากันตะลึงงัน
เศษดาวนิวตรอนมีอยู่จริง!
นอกจากนักวิทยาศาสตร์และทีมวิจัย คนอื่นก็พากันตะลึงกับภาพทั้งหมดที่เห็น แต่หลายคนก็ไม่เข้าใจทั้งหมดนี่มันหมายความว่ายังไง
และการเปลี่ยนแปลงขนาดใหญ่ในระดับที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่านี่ ยิ่งทำให้ทุกคนไม่เข้าใจ
“ยิ่งน้ำหนักดาวมากเท่าไหร่ ความเร็วที่จะออกจากดาวยิ่งต้องมากเท่านั้น ถ้าเป็นน้ำหนักแบบพระอาทิตย์ ความเร็วต้องถึงหกร้อยกว่ากิโลเมตรต่อวินาที...”
แบบนี้นี่เอง
พอได้ยินฉีฉีอธิบายโดยละเอียด พวกซูจิงก็ถึงบางอ้อกันในที่สุด
ฉีฉีพูดตรงขนาดนี้แล้ว แถมไม่ได้ใช้ข้อมูลตัวเลขอะไรเลย
ถ้าพวกเขายังไม่เข้าใจอีก นี่มัน...
คงค้องไปรวมรวบความรู้ทั่วไปแล้วล่ะ
หลันหลิงเงียบไปอึดใจก่อนถาม “ฉีฉี นี่เป็นเศษดาวนิวตรอนจริงหรอ? มันอยู่ในรูปอะไรน่ะ? พวกเราจะเข้าใกล้มันได้ไหม? แล้วพวกเรามีหนทางไหนสามารถเปลี่ยนทิศทางของมันได้ไหม?”
“น้าหลัน จากทุกอย่างที่เราเห็นในตอนนี้ เศษดาวนิวตรอนน่าจะมีจริงค่ะ หรือพูดอีกอย่าง ต่อให้มันไม่มีอยู่จริง มนุษย์เราก็ยังต้องรับการคุกคามที่ไม่ด้อยกว่าเศษดาวนิวตรอนเลย
ถ้าบอกว่าความน่ากลัวเบื้องหน้าตอนนี้เป็นสิ่งที่อารยธรรมอื่นสร้างขึ้นมา งั้นฉันกลับอยากให้เศษดาวนิวตรอนมีอยู่จริงมากกว่า แบบนั้นพวกเรายังมีโอกาสหนีได้ ไม่งั้น...”
ทุกคนเข้าใจว่าคำพูดนี้หมายความว่าไง เพราะถ้าเศษดาวนิวตรอนไม่ใช่เรื่องกุขึ้น แต่มีอยู่จริง หรือใช้เทคโนโลยีวิทยาศาสตร์สร้างออกมา
ถ้างั้นมนุษย์ก็รู้สึกว่าเป็นเรื่องจริงก็ดี แบบนั้นมนุษย์จะได้หนีได้ ไม่งั้นอารยธรรมต่างดาวในจักรวาลที่สร้างเศษดาวนิวตรอนออกมาได้นี่ มันจะทำยังไงกับมนุษย์กันล่ะ?
ไม่ว่าจะเป็นทำลาย ไม่แยแส หรือกระบวนการทารุณแบบอื่น ทั้งหมดนี่ไม่เกี่ยวกับมนุษย์แล้ว
ถึงตอนนั้นมนุษย์จะยิ่งลำบากกว่าพวกคนแคระในตอนนี้
หรือแม้แต่โอกาสให้มนุษย์เป็นทาสยังไม่แน่ว่าจะมีเลย
“ถ้างั้นตอนนี้พวกเราจะเข้าใกล้อีกหน่อยไหม?” จู่ๆซูจิงถามขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์