สรุปเนื้อหา บทที่ 63 งานเลี้ยงรุ่น – คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่
บท บทที่ 63 งานเลี้ยงรุ่น ของ คุณพ่อสายเปย์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย ลู่ลู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
บทที่ 63 งานเลี้ยงรุ่น
ราคาที่ลู่เฉินเสนอขึ้นมา ทำให้สีหน้าของหูหงเปลี่ยนไป
เขารู้ว่าลู่เฉินต้องแบล็คเมล์เขาอยู่แล้ว แต่ไม่คิดว่าลู่เฉินถึงใจดำขนาดนี้
ไม่ว่าเป็นใครที่อยากจะซื้อซูเปอร์มาเก็ตของเขา ถ้าไม่มีเงิน150 ล้าน ยังไงเขาก็ไม่ยอมยกให้ใครทั้งสิ้น
คาดไม่ถึงเลย ว่าลู่เฉินคิดจะจ่ายแค่ 10 ล้าน
นี่มันคือการปล้นชัดๆ ข่มเหงรังแกคนมากเกินไปแล้ว!!!
แต่ถ้าไม่ยกให้ลู่เฉิน ซูเปอร์มาร์เก็ตตระกูลหูของเขาก็ไม่มีวันได้ฟื้นฟูสู่สภาพเดิมในเมืองหยูโจวได้อีก
และเขาก็ไม่สงสัยในคำพูดของลู่เฉินที่บอกว่าเขาจะปิดกั้นแบรนด์ตระกูลของเขาในสามมณทลทางตะวันตกเฉียงใต้และนั่นจะเป็นไปได้อย่างแน่นอน
โดยเฉพาะในยุคสมัยที่อินเทอร์เน็ตก้าวหน้าและทันสมัยนี้ เมื่อรู้ข่าวเรื่องตระกูลหูเปิดซูเปอร์มาร์เก็ตใหม่ที่ไหน ลู่เฉินก็คงจะทำให้พวกเขาเสื่อมเสียชื่อเสียงโดยไม่ว่าจะใช้วิธีสกปรกแบบไหน
ความหายนะครั้งนี้ก็เป็นบทพิสูจน์ที่ดีที่สุด
หากลู่เฉินยังไม่เลิกสร้างปัญหาให้แก่พวกเขา พวกเขาจะไม่สามารถระงับความคิดเห็นของมวลชนบนอินเทอร์เน็ตได้
หลายวันมานี้ต่อให้เขาพยายามแก้ข่าวยังไง ก็ไม่สามารถทำอะไรได้เลย
มูลค่าที่มากที่สุดของซูเปอร์มาเก็ตตระกูลหูก็คือแบรนด์ของพวกเขา หากแบรนด์พังทุกอย่างก็จะจบสิ้น
นี่ก็เป็นเหมือนเหตุการณ์คาร์ฟูร์ในปีนั้น ตอนแรกเขาอาจมีโอกาสที่จะแข่งขันสู้กับแบรนด์ซูเปอร์มาร์เก็ตที่ลงทุนจากต่างประเทศของ Walmart แต่หลังจากผิดกฎ เหตุการณ์นี้ก็ถูกเผยแพร่ให้เป็นเรื่องใหญ่ขึ้นอย่างรวดเร็วโดยอินเทอร์เน็ต ทำให้ Walmart ถูกคนในเมืองหลวงสำรวจ ไม่นานก็ล้มละลาย
ถ้าแบรนด์ของตระกูลหูต้องเกิดเรื่องใหญ่แบบนั้น ถึงแม้ว่าจะมีหลักฐานที่พิสูจน์ได้ว่าซูเปอร์มาร์เก็ตของพวกเขาไม่ได้ทำผิดกฎหมาย แต่แบรนด์ของตระกูลเขาก็พังหมดแล้ว
“คุณ......คุณลู่เฉินครับ ราคาที่คุณเสนอมานี้ ผมตัดสินใจเองไม่ได้ ต้องกลับไปปรึกษากับพ่อผมก่อน” หูหงหายใจเข้าลึกๆและพูดออกมา
“ได้ครับ ไปเถอะ ผมจะรอข่าวดีของพวกคุณที่นี่” ลู่เฉินโบกมือแสดงให้หูหงออกไป
ถึงยังไงเขาก็ไม่รีบ เพราะคนที่เดือดร้อนคือพ่อลูกตระกูลหูนั่นเอง
หากโอนช้าไปหนึ่งวัน แบรนด์ของพวกเขาก็จะยิ่งไร้ค่ามากขึ้น ถึงตอนนั้นแม้ว่าเขาไม่ต้องการซื้อซูเปอร์มาเก็ตนั้น สองพ่อลูกนี้ก็จะขอให้เขาซื้อแน่นอน
เพราะถ้าแบรนด์พัง ก็ไม่มีคนไปเข้าซื้อแน่
ส่วนลู่เฉินจริงๆแล้วเขาไม่อยากได้แบรนด์ของตระกูลหูเลยสักนิด เขาแค่ต้องการใช้สถานที่ที่ยอดเยี่ยมของซูเปอร์มาเก็ตของหูหงเป็นจุดเริ่มต้นในการสร้างแบรนด์ขยายสาขาซูเปอร์มาร์เก็ตระดับสูง
ห้าโมงครึ่ง ณ ชั้นที่ 15 โรงแรมเผิงหลัยก็เริ่มสนุกครึกครื้นขึ้นมา
วันนี้ หลี่เหวินกวงกับจ้าวเทียนหยู่ได้จองห้องขนาดใหญ่ไว้เพื่อเชิญเพื่อนนักศึกษามาร่วมปาร์ตี้ที่นี่ คนที่ได้รับเชิญต่างก็ทยอยมากันทีละคน
เมื่อทุกคนคุยเรื่องสนุกกันอย่างต่อเนื่อง บรรยากาศก็ค่อยๆอุ่นขึ้น
และจนกระทั่งลู่เฉินและหลินอี้จุนมา ทำให้บรรยากาศในห้องเปลี่ยนไป
ถึงลู่เฉินหน้าตาหล่อมากก็จริง แต่คนที่มีแรงดึงดูดสำหรับทุกคนมากกว่าคือหลินอี้จุน
เพราะว่าหลินอี้จุนไม่เพียงแต่เป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดของห้องพวกเขา ยังเป็นผู้หญิงที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยหยูโจวด้วย
“อ้าวแหม! คนที่สวยที่สุดในมหาวิทยาลัยหยูโจวมาแล้วล่ะ”
“ไม่ได้เจอกันตั้ง 4 ปี ยังสวยเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยนเลยนะ”
“สุดสวยคะ คุณสวยมากเลยนะเนี่ย มาๆๆๆ มานั่งตรงนี้กับพวกเราสิ!”
เมื่อเห็นลู่เฉินพาหลินอี้จุนเข้ามา สายตาของทุกคนต่างก็รวมจุดโฟกัสอยู่บนหลินอี้จุน พวกที่สนิทกับหลินอี้จุนตั้งแต่สมัยเรียนต่างก็เดินเข้ามาตรงๆเพื่อทักทายกับหลินอี้จุน
จริงๆแล้ววันนี้หลินอี้จุนแค่แต่งหน้าอย่างง่ายดาย ไม่ได้จงใจแต่งหน้าเป็นพิเศษสักหน่อย
เขาหันหลังไปมองผู้หญิงที่ตำหนิอู๋เล่ยนั้น ผู้หญิงคนนี้ชื่อเปาหรงหรง เขาจำได้ว่าในสมัยเรียนเปาหรงหรงยังเคยจีบอู๋เล่ยเลย
“ลู่เฉิน คุณอย่าไปฟังเขาพูดสุ้มสี่สุ้มห้าเลย หลังเรียนจบ อู๋เล่ยก็ไปชอบพอกับผู้หญิงคนหนึ่ง แต่เธอนอกใจไปคบกับวังซิง เมื่อไปตามเธอกลับมาก็ถูกวังซิงทำร้ายจนขาหัก พ่อของเขาเห็นเข้าก็แจ้งตำรวจและบังคับให้วังซิงขอโทษ แต่กลับทำให้ตระกูลวังโมโหและบริษัทของเขาก็ถูกกลั่นแกล้งจนล้มละลาย พ่อถูกฆ่าปิดปาก จากนั้นแม่ก็ไปแต่งงานใหม่กับคนอื่นที่เมืองนอกและพาน้องสาวไปด้วยกัน” เปาหรงหรงบอก
สีหน้าของอู๋เล่ยเปลี่ยนไปทันที แววตาของเขาเต็มไปด้วยความโกรธแค้น
สิ่งที่เปาหรงหรงบอกมันคือเรื่องจริง
ในปีนั้นเขาหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง ผู้หญิงคนนั้นก็ยอมเป็นแฟนของเขา แต่ไม่คิดเลยว่าผู้หญิงคนนั้นหักหลังเขา และไปคบกับหวังซิงที่ร่ำรวยมากกว่า
เขาโกรธแทบแย่ ก็ไปคุยกับผู้หญิงคนนั้น แต่กลับถูกหวังซิงตีจนขาหัก พ่อของเขาเห็นแบบนั้นก็โกรธมาก พร้อมกับแจ้งตำรวจและอยากให้วังซิงมากล่าวขอโทษอู๋เล่ย แต่ไม่คิดว่าครอบครัวของวังซิงจะโกรธแค้น อีกไม่นานต่อมาบริษัทของเขาก็ถูกตระกูลหวังทำลายจนล้มละลายโดยใช้ความสัมพันธ์กับคนที่มีอำนาจ แต่สิ่งที่ทำให้อู๋เล่ยสิ้นหวังมากกว่าคือ พ่อของเขาถูกนักฆ่าที่ตระกูลหวังจ้างมาลอบฆ่าตาย แค่เพราะว่าพ่อเขาทำให้เรื่องนี้กลายเป็นเรื่องใหญ่
“เปาหรงหรง คุณหุบปากไปเลยนะ!”
อู๋เล่ยจ้องมองหน้าของเปาหรงหรงด้วยอารมณ์โกรธ ปกติแล้วเปาหรงหรงตำหนิเขายังไงเขาก็ไม่แคร์ แต่ที่เขาโกรธมากกว่าคือ เปาหรงหรงทำให้เขาเสียหน้าต่อหน้าเพื่อนสนิทของเขา
เมื่อเห็นว่ามีคนทะเลาะกัน คนอื่นก็หันหลังมาดู ทำให้อู๋เล่ยโมโหมากขึ้น
“แหมๆๆ ฉันก็แค่พูดความจริงหรอก ถ้าคุณมีความสามารถจริงๆ ก็ไปแก้แค้นวังซิงซิ!”
ในตอนนั้นเธอเห็นว่าอู๋เล่ยเป็นคนรวยจึงได้เข้าไปจีบ
แต่อู๋เล่ยกลับว่าเธอหน้าตาขี้เหร่ ไม่ใช่ผู้หญิงแบบที่เขาชอบ ทำให้เธอโกรธมากจนไม่ได้ไปเรียนที่มหาวิทยาลัยหนึ่งสัปดาห์
ในเมื่อตอนนี้เธอได้รับรู้ชีวิตที่ขมขื่นของอู๋เล่ย ก็ต้องเอาคืนบ้างถึงจะสะใจ
“อู๋เล่ยเขาแค่ยังไม่เคยชินที่จากคนรวยกลายเป็นคนยากจน เปาหรงหรง คุณสร้างความสุขอยู่บนความทุกข์ของคนอื่นมันไม่ดีมั้ง?” ผู้ชายคนหนึ่งบอก
ดูเหมือนเขากำลังด่าเปาหรงหรง แต่เขาก็แอบประชดอู๋เล่ยอยู่
อู๋เล่ยมองไปทางผู้ชายคนนั้น กุมหมัดแน่น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์