คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 64

สรุปบท บทที่ 64 คุณเลือกมาได้เลย: คุณพ่อสายเปย์

สรุปตอน บทที่ 64 คุณเลือกมาได้เลย – จากเรื่อง คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่

ตอน บทที่ 64 คุณเลือกมาได้เลย ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง คุณพ่อสายเปย์ โดยนักเขียน ลู่ลู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 64 คุณเลือกมาได้เลย

ลู่เฉินมองไปที่ชายผู้นั้น เขามีชื่อว่าเกาหู แต่ก่อนนี้นะทางบ้านเขาค่อนข้างดี แต่อู๋เล่ยเป็นศัตรูตัวฉกาจของเขา แบบที่เรียกว่าไม่มีใครยอมใครก็ว่าได้

อู๋เล่ยจ้องมองไปที่เกาหู เนื่องจากเขาโกรธแค้นแบบสุดขีดจึงทำให้หน้าแดงและตัวสั่น

“พวกเราเป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่สมัยเรียน ไม่ได้เจอกันก็ตั้งหลายปีแล้ว ทำแบบนี้ไปเพื่ออะไรกัน?” ลู่เฉินไม่สามารถทนดูได้เขาจึงพูดขึ้น

“เป็นเพื่อนที่ถูกคอกันซะจริงๆนะ รีบร้อนออกตัวแทนขนาดนี้” เกาหูมองไปที่ลู่เฉินแล้วพูดอย่างประชดประชัน

“ผมหมายถึง ถ้าพวกคุณสองคนมีเรื่องโกรธแค้นกันก็ไปจัดการเอาหลังจากนี้ วันนี้เป็นงานเลี้ยงรุ่น ไม่ใช่วันที่ให้พวกคุณมาทะเลาะกัน แน่นอนว่าผมก็เข้าข้างอู๋เล่ย ถ้าคุณไม่พอใจจะหาผมเป็นการส่วนตัวก็ได้” ลู่เฉินตอบอย่างเจ้าเล่ห์ เพราะตัวเขาเองก็ไม่ได้มีความรู้สึกที่ดีต่อเกาหูเท่าไหร่นัก

บรรดาเพื่อนๆต่างพยักหน้า เห็นด้วยกับความคิดของลู่เฉิน

อย่างไรเสียก็เคยเป็นเพื่อนร่วมกันมา ไม่ได้เจอกันตั้งหลายปี วันนี้มีโอกาสมารวมตัวกัน ถึงแม้ในใจลึกๆแล้วจะมารวมตัวเพื่อต้องการโอ้อวดความสำเร็จของตนเอง แต่หากมีเรื่องทะเลาะวิวาทเกิดขึ้นก็คงไม่สนุกแน่

โตๆกันแล้วเรื่องแค่นี้คิดไม่ได้หรือไงนะ?

“ลู่เฉิน นี่แกท้าฉันอยู่เหรอ? ขอถามหน่อยตอนนี้ทำงานที่ไหน?ตำแหน่งอะไรแล้วล่ะ?” เกาหูใช้สายตามองไปยังลู่เฉินที่แต่งตัวแสนธรรมดาแล้วถามด้วยอารมณ์ไม่พอใจ

“ไม่ได้ท้า ส่วนเรื่องตำแหน่งคงไม่มี แต่ถ้าคุณติดขัดอะไรกับผมแล้วละก็ คุณเลือกมาได้เลย จะแข่งด้านความรู้หรือใช้กำลังหรือทั้งสองอย่างก็ได้ เวลาและสถานที่คุณเป็นคนกำหนดได้เลย” ลู่เฉินขำเบาๆ

คำพูดของเขาพูดด้วยน้ำเสียงเรียบง่าย แต่ประโยคนี้ทำให้ฝ่ายตรงข้ามที่ฟังหวาดกลัว

บรรดาเพื่อนๆต่างตกใจแล้วมองลู่เฉิน ไม่รู้ว่าเขาเอาความมั่นใจมาจากไหนในการท้าดวลกับเกาหูในครั้งนี้

สีหน้าของเกาหูเปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัดเจน นี่หมายความว่าลู่เฉินไม่เห็นเขาในสายตาแม้แต่น้อย

ในขณะที่เกาหูกำลังจะเอ่ยอะไรออกไป จ่าวเทียนหยู่เดินเข้ามาพอดี เขาสังเกตได้ว่าภายในห้องนี้บรรยากาศเปลี่ยนไปจึงเข้าใจถึงอะไรบางอย่าง

“วันนี้เป็นวันที่หัวหน้าหลี่จัดงานเลี้ยงรุ่นขึ้น พวกเราล้วนแต่เป็นเพื่อนที่เคยเรียนร่วมกัน ถ้ามีอะไรโกรธแค้นก็วางลงไว้ก่อน วันนี้ไม่ใช่วันที่จะมาแก้แค้น แต่วันที่พวกเราจะมารวมตัวกันเพื่อหวนรำลึกถึงช่วงเวลาที่ผ่านมา”จ่าวเทียนหยู่ มองแล้วพูดขึ้น

“ใช่ๆ ไหนๆเรื่องราวก็ผ่านมาหลายปีแล้ว ยังมีเรื่องอะไรที่โกรธแค้นถึงขนาดวางไม่ลงอีกกัน”

“ก็นั่นน่ะสิ ไม่ได้มีใครไปรบราฆ่าฟันครอบครัวใคร หรือไม่ได้ไปแย่งภรรยาใครมา ทำไมต้องโกรธกันถึงขนาดนี้?”

คำพูดของจ่าวเทียนหยู่ มีน้ำหนักเพียงพอ คนส่วนมากจึงได้ออกเสียงเป็นความเห็นเดียวกับเขา

แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกจ่าวเทียนหยู่เป็นทายาทเศรษฐีของแท้ และไม่ใช่ระดับเดียวกับเกาหู ที่เก่งแต่คุยโวโอ้อวด

และทุกคนเข้าใจดีว่าจ่าวเทียนหยู่นั้นเป็นเพื่อนสนิทของหลี่เหวินกวง ในวันนี้หลี่เหวินกวง เป็นตัวเอก ทุกคนจึงเห็นแก่หน้าจ่าวเทียนหยู่

“ฮ่าๆ ไอ้พวกกระจอกทั้งสองคนเราจะได้เห็นดีกัน” เกาหูหัวเราะอย่างเยือกเย็นแล้วใช้สายตาอันอาฆาตแค้นมองมาที่ลู่เฉินกับอู่แล่ย จากนั้นหันหลังเดินไป

เมื่อเกาหูเดินออกไปคนอื่นๆก็เดินจากออกไปด้วยเช่นกัน

ถึงแม้พวกเขาจะเห็นด้วยกับคำพูดของจ่าวเทียนหยู่ แต่ไม่ได้หมายความว่าลึกๆในใจแล้วจะยอมรับลู่เฉินและอู๋เล่ยได้

“ตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหนเหรอ?” ลู่เฉินถามแล้วมองไปทางอู๋เล่ย

“ฉันไม่ได้มีความสามารถด้านอื่น ก็แค่พิมพ์หนังสือเร็วเท่านั้น ตอนนี้เป็นพนักงานบันทึกข้อมูลของบริษัทเล็กๆบริษัทหนึ่ง” อู๋เล่ยพูดขึ้น ด้วยความรู้สึกไม่ได้ยินดีนัก ตอนนี้เขาเองไม่มีอารมณ์ร่วมกับงานเลี้ยงรุ่นนี้แล้ว

“อืม เอาเบอร์โทรศัพท์มาให้หน่อย ครั้งที่แล้วผมเคยโทรหาคุณแต่ว่าคุณเปลี่ยนเบอร์ไปแล้ว” ลู่เฉินพูด

ทั้งสองแลกเปลี่ยนเบอร์โทรศัพท์กัน อู๋เล่ยพูดว่า “คุณล่ะตอนนี้ทำงานอยู่ที่ไหน?”

“กำลังเตรียมตัวเปิดร้านค้า ถึงเวลาแล้วมาช่วยกันสิ” ลู่เฉินเชื่อว่าสองพ่อลูกตระกูลหูนั้นจะต้องขายร้านค้าให้แก่เขาอย่างแน่นอน อย่างไรเสียตัวเขาเองก็ไม่มีเวลาไปคอยจัดการที่ร้านค้านั่น ให้อู๋เล่ยไปคอยช่วยสอดส่องก็คงดี และเป็นการช่วยเหลือเพื่อนได้อีกหนึ่งวิธี

“ได้ๆ กำลังอยากเปลี่ยนงานอยู่พอดีเลย” อู๋เล่ยแววตาเป็นประกาย งานที่เขาทำอยู่ตอนนี้เดือนหนึ่งก็ได้แค่สามพัน ไม่รวมค่ากินค่าอยู่ ตอนนี้เขาเองอยู่ห้องพักเดือนละไม่กี่ร้อยเท่านั้น

ถ้าหากได้ไปทำงานกับลู่เฉิน เขาเชื่อว่าลู่เฉินจะไม่เอาเปรียบเขาอย่างแน่นอน

ลู่เฉินไม่เอาเปรียบเขาอย่างแน่นอน ว่าไปแล้วสมัยตอนเรียนมหาวิทยาลัยพวกเขาสองคนก็เป็นเพื่อนที่สนิทกันมากๆ สำหรับลู่เฉินแล้วเพียงแค่เพื่อนธรรมดาคนหนึ่งเขาก็จริงใจอย่างลึกซึ้ง

ท้องฟ้าเริ่มมืดลง เพื่อนส่วนมากเดินทางมาถึงแล้ว อีกไม่กี่นาทีต่อมาประตูห้อง VIP ก็เปิดถูกเปิดขึ้นอีกครั้ง

หลี่เหวินกวง และหยูลี่เดินเข้ามาตามลำดับ ทุกสายตาจับจ้องไปที่หลี่เหวินกวง

แม้ว่าหยูลี่จะเป็นดาวของห้องในตอนนั้น แต่ทุกคนก็ยังมองไปที่หลี่เหวินกวง เป็นอันดับแรก

เพราะว่าวันนี้เขาเป็นตัวเอกนั่นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์