คุณพ่อสายเปย์ นิยาย บท 71

สรุปบท บทที่ 71งานประมูลของสะสมโบราณ: คุณพ่อสายเปย์

บทที่ 71งานประมูลของสะสมโบราณ – ตอนที่ต้องอ่านของ คุณพ่อสายเปย์

ตอนนี้ของ คุณพ่อสายเปย์ โดย ลู่ลู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 71งานประมูลของสะสมโบราณ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

บทที่ 71งานประมูลของสะสมโบราณ

หลิวหยานฉี๋ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย เพียงแค่รอยถลอกบนใบหน้านิดหน่อย ทายารักษาพยาบาลเบื้องต้นก็ไม่บวมเท่าไหร่นัก

“ผู้อำนวยการหลินคะ ดิฉันขอโทษจริงๆค่ะ ฉันไม่รู้ว่าหยุนแดนหวู่ฮุยจะบ้าคลั่งขนาดนี้” เมื่อออกจากโรงพยาบาล หลิวหยานฉี๋ก็ขอโทษจากใจจริง

“พูดอะไรแบบนั้นคะ เรื่องนี้จะโทษคุณก็ไม่ถูก รีบกลับไปพักผ่อนเถอะค่ะ ฉันจะทำเรื่องเบิกค่ารักษาพยาบาลให้เอง” หลินอี้จุนส่ายหัว ก่อนหน้านี้เธอไม่ค่อยถูกชะตากับหลิวหยานฉี๋เท่าไหร่นัก ถึงแม้การที่เธอได้เลื่อนตำแหน่งและหลิวหยานฉี๋ได้เข้ามาขอโทษเธอด้วยตัวเองแล้ว แต่ทั้งสองคนก็ยังไม่สบายใจเท่าไหร่นัก

แต่การกระทำของหลิวหยานฉี๋ในวันนี้ทำให้หลินอี้จุนประทับใจมาก

ถ้าไม่ใช่เพราะหลิวหยานฉี๋ พวกเธอทั้งสองคงจะ......

“ได้ค่ะ ขอบคุณมาก” หลิวหยานฉี๋พยักหน้าตอบรับ

“ฉันอายุมากกว่าคุณปีหนึ่ง ต่อไปนี้เรียกฉันว่าพี่หลินแล้วกันนะ อีกอย่างคนจากเทคโนโลยีอี้ฉีมาคัดเลือกพนักงานละก็ฉันจะแนะนำคุณให้นะคะ ถ้าไปที่เทคโนโลยีอี้ฉีไม่ได้ ฉันก็จะพยายามเลื่อนตำแหน่งให้คุณที่นี่” หลินอี้จุนพูดขึ้น

ทางด้านเทคโนโลยีอี้ฉีเธอจะพยายามแนะนำให้เต็มที่ ส่วนด้านบริษัทนี้ดูจากประสบการณ์การทำงานของหลิวหยานฉี๋ สามารถเลื่อนขั้นเป็นหัวหน้าได้ไม่มีปัญหา

“ขอบคุณค่ะพี่หลิน!” หลิวหยานฉี๋ซึ้งใจจริงๆ วันนี้ที่เธอถูกทำร้ายก็คุ้มค่ามากๆ

“วางใจได้ค่ะ เทคโนโลยีอี้ฉีมีตำแหน่งให้คุณแน่นอน” ลู่เฉินมองดูหลิวหยานฉี๋แล้วพูดออกมา ในใจเขาเว้นตำแหน่งไว้ให้หลิวหยานฉี๋เรียบร้อยแล้ว

ไม่ว่าความสามารถเธอจะเป็นอย่างไร แต่ในวันนี้เธอออกตัวป้องกันหลินอี้จุน แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับเหตุผลการเลื่อนตำแหน่งเธอแล้ว

“พี่ลู่ พูดเหมือนกับเทคโนโลยีอี้ฉีเป็นบริษัทที่พี่เปิดเองอย่างนั้นแหละ” หลิวหยานฉี๋พูดแล้วขำ

“ผมแค่ลองคำนวณดู อีกหนึ่งเดือนคุณจะโชคดี” ลู่เฉินหัวเราะออกมา

“เรื่องที่ไม่มั่นใจอย่าพูดซี๊ซั๊วสิคะ” หลินอี้จุนมองค้อนลู่เฉิน เธอเข้าใจถึงความหมายลู่เฉินดี

ลู่เฉินรู้จักวังเหว่ย และวังเหว่ยเองตอนนี้ดำรงตำแหน่งรักษาการประธานของเทคโนโลยีอี้ฉี เพียงเขาไปพูดอะไรบางไปหลิวหยานฉี๋อาจได้ไปอยู่เทคโนโลยีอี้ฉีจริงๆก็ได้

แต่ก่อนหน้านี้เขาเคยให้วังเหว่ยช่วยเหลือแล้ว ไม่รู้ว่าวังเหว่ยยังจะยินดีช่วยเขาอีกหรือไม่

เนื่องจากบุญคุณเหล่านี้ ใช้ไปหนึ่งครั้งก็น้อยลงไปเรื่อยๆ

ลู่เฉินยิ้มและไม่พูดอะไรต่อ

หลิวหยานฉี๋เองไม่ได้เก็บมาใส่ใจ คิดว่าลู่เฉินเพียงล้อเล่นเท่านั้น

“คุณคิดว่าเราควรแจ้งตำรวจไหมคะ?” หลินอี้จุนถามลู่เฉิน

ลู่เฉินส่ายหัว “ไม่ต้องหรอกครับ แจ้งตำรวจก็ไม่ได้ช่วยอะไรขึ้นมา แต่พวกคุณสองคนวางใจได้ ต่อไปนี้พวกเขาจะไม่มาวุ่นวายกับพวกคุณอีก”

เพราะต่อจากนี้เขาจะเริ่มลงมือจัดการตระกูลวังแล้ว พวกเขาไม่มีเวลามาคิดเรื่องเล็กน้อยแบบนี้แน่

“ค่ะ ถ้าอย่างนั้นฉันไปส่งเสี่ยวหลิวก่อน คุณไปรับฉีฉีนะคะ” หลินอี้จุนพยักหน้าตอบรับ

“เดี๋ยวคุณไปรับเองได้ไหม คุณพ่อมีธุระ ท่านให้ผมไปโรงแรมแชงกรีลาเหมือนว่ามีธุระให้ช่วยนิดหน่อย” หลินดาไห่โทรหาเขาก่อนหน้าเกี่ยวกับเรื่องนี้ และตอนนี้เขาก้มมองดูเวลาก็ใกล้ที่งานจะเริ่มเสียแล้วด้วย

“ค่ะ” หลินอี้จุนผงกหัวจากนั้นส่งหลิวหยานฉี๋กลับบ้านไป

ลู่เฉินรีบมุ่งหน้าไปยังโรงแรมแชงกรีลา

หลินดาไห่บอกว่างานประมูลของสะสมโบราณนี้จัดเตรียมมากว่าหนึ่งปี มีการจัดแสดงและประมูลสินค้าที่มีชื่อเสียงมากมายนับไม่ถ้วน เป็นงานแสดงของสะสมโบราณที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในหยูโจวในรอบสิบปีที่ผ่านมา ผู้ประกอบการหลายรายจากจังหวัดใกล้เคียงต่างเร่งรีบพากันมาร่วมงาน

งานในครั้งนี้แบ่งออกเป็นสามช่วง ช่วงแรกคือการแสดงภาพของนักจิตรกรที่มีชื่อเสียงและของสะสม ทางผู้จัดงานเป็นผู้กำหนดราคา ขึ้นอยู่กับวิสัยทัศน์ของผู้เลือกซื้อว่าจะได้ของดีมาหรือไม่ ขั้นตอนนี้เรียกว่า "ค้นสมบัติ"

ช่วงที่สองเป็นการเดาอัญมณี ผู้จัดประมูลจะนำก้อนดินห่อมาให้ผู้ประมูลทายเล่น เป็นการเสี่ยงดวงเพิ่มความสนุกสนาน

ช่วงที่สามก็คืองานประมูล

ซึ่งช่วงนี้จึงจะเป็นสิ่งที่ทุกคนรอคอย เนื่องจากสินค้าล้ำค่ามักถูกจัดให้อยู่ในการประมูลนี้

งานยังไม่ทันได้เริ่ม สื่อต่างๆในหยูโจวก็มาเตรียมตัวพร้อมถ่ายทอดสด

แม้ก่อนหน้านี้หลินดาไห่จะพูดถึงลู่เฉินอยู่เสมอๆ แต่เขาไม่เชื่อว่าชายหนุ่มผู้นี้จะมีพรสวรรค์ด้านของโบราณสู้กับเขาได้จริงๆ

“ศาสตราจารย์หยู สวัสดีครับ” ลู่เฉินยื่นมือออกไปทักมาย แต่หยูเจิ้งเทาตอบเพียงแค่ อืม ไม่มีทีท่าจะยื่นมือออกมาตอบกลับเขา

มองดูแล้วการที่ลู่เฉินไม่ได้ขายถ้วยเรืองแสงนั่นแก่เขา ทำให้เขาเสียหน้าต่อผู้คนมากมาย เขายังคงโกรธอยู่ไม่น้อย

หลินดาไห่รู้สึกทำตัวไม่ถูก แต่ลู่เฉินกลับเพียงแค่ยิ้มแล้วชักมือกลับมาเท่านั้น

บนโต๊ะเริ่มเสริ์ฟอาหารว่าง มีขนมมากมายและเครื่องดื่มอีกทั้งแอลกอฮอล์

ลู่เฉินเหลือบตาไปมองดูม้วนภาพที่อยู่บนโต๊ะจัดแสดง แล้วก้มหน้ากินอาหารอย่างเอร็ดอร่อย

“ลู่เฉิน วันนี้ต้องช่วยพ่อหาของเล็กๆน้อยๆติดมือกลับไปให้ได้นะ วันนี้พ่อเขาเงินเก็บทั้งชีวิตติดตัวมาตั้งสองล้านกว่าเชียว ถ้าขาดทุนละก็พ่อกลับบ้านโดนแม่เล่นงานจนโงหัวไม่ขึ้นแน่นอน” หลินดาไห่พูดกับลู่เฉินที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตากิน

เนื่องจากเรื่องถ้วยเรืองแสงในครั้งก่อน ทำให้เขาเชื่อมั่นในตัวลู่เฉินมาก เขาพร้อมที่จะนำเงินทั้งหมดลงทุนไปที่ลู่เฉิน เพื่อให้ลู่เฉินช่วยดูของมีค่าสักสองสามชิ้นให้ แล้วนำไปขายต่อในราคางาม

“พี่เขย อย่าลืมช่วยหนูดูด้วยนะคะ พวกเราฝากความหวังไว้กับพี่นะ” หลินอี้เจียให้กำลังใจต่อ

“ผมจะพยายามแล้วกันนะครับ” เมื่อเห็นพ่อตาทุ่มเทกำลังทรัพย์ขนาดนั้น ลู่เฉินเองก็ชื่นชมเขาเช่นกัน นี่พ่อตาเขากำลังตั้งใจทุบหม้อข้าวหม้อแกงจริงหรือนี่

ลู่เฉินเพียงคิดก็สามารถเข้าใจได้

ตอนอยู่ในบ้านนั้นพ่อตาเขาถูกแม่ยายกดขี่ข่มเหง เป็นอย่างนี้มาทั้งชีวิตแล้ว

ครั้งที่แล้วที่เขากล้าขึ้นเสียงกับวังเสวี่ยก็เพราะถ้วยเรืองแสงมีราคาสูงมาก มิเช่นนั้นเขาคงไม่กล้าแม้แต่จะเถียงแน่นอน

“ศาสตราจารย์หยูอยู่ที่นี่เองหรือครับ ขอเชิญท่านมาช่วยพวกเราดูทางนี้หน่อยว่าเป็นของแท้หรือไม่”

ในขณะนี้เองมีชายหนุ่มผู้หนึ่งเดินถือม้วนรูปเข้ามา

ลู่เฉินมองดูแล้วพบว่าคือจ้าวเทียนหยู่ เพื่อนสมัยเรียนของเขานั่นเอง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: คุณพ่อสายเปย์